นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ "ข่าวเข้มประเด็นข้น" ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 96.5 อสมท วันนี้ (28 พ.ค.)
กรณี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คัดค้านโครงการจัดสรรที่ดินสาธารณะให้เกษตรกรเช่าทำกิน ว่า อาจเกิดปัญหากับรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ ซ้ำรอยกรณี สปก.4-01 ว่า คงไม่ได้เป็นการเอาคืนทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย แต่อาจเป็นเพราะนายศักดิ์สยามไม่ทราบหรือไม่เข้าใจ จึงทักท้วงด้วยความหวังดี ตนจะไปทำความเข้าใจกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่นายศักดิ์สยามกำชับอธิบดีกรมที่ดินไม่ให้สานต่อโครงการดัง กล่าว นายถาวร กล่าวว่า ไม่ทราบ
เพราะไม่ได้อยู่บรรยากาศนั้น ไม่ขอวิจารณ์ว่าเป็นการก้าวก่ายงานของกรมที่ดิน ที่ตนกำกับดูแลอยู่หรือไม่ ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดปัญหากับรัฐบาลจนถึงขั้นขาข้างหนึ่งเข้าไปในคุกตามที่นายศักดิ์สยามกล่าวไว้
"ผมรับผิดชอบเอง ผมเป็นนักกฎหมาย ไม่เป็นไร เรื่องนี้คงทำความเข้าใจกันได้ สิ่งที่ผมผลักดันเป็นเรื่องที่ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว ถือเป็นเรื่องดีและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล รัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ให้กระจายการถือครองที่ดินให้แก่ประชาชน มั่นใจว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์กับความยากจน ส่วนที่กังวลว่าจะเอาที่ดินไปให้คนรวย ไม่เกิดขึ้นแน่ เพราะการจัดสรรที่ดินให้เช่าจะต้องผ่านการทำประชาคมของหมู่บ้านหรือองค์กร ท้องถิ่นก่อน" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า โครงการนี้ได้ดำเนินการมา 2-3 ปี ก่อนหน้าที่ตนจะรับตำแหน่งและจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรเช่าไปถึง 2,000 แปลงแล้ว
เป็นโครงการที่ประชาชนชื่นชอบมาก และประชาชนที่ยากจนได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับการจัดสรรที่สาธารณะให้เกษตรกร กระทรวงมหาดไทยได้มอบให้ผู้ปกครองท้องถิ่น เช่น นายอำเภอหรือกำนันผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับผู้ปกครองท้องถิ่น เช่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จัดทำประชาคมสอบถามคนในท้องถิ่นว่ายินดีจัดสรรที่ดินทำกินแก่ผู้ยากจนหรือ ไม่ หลังจากนั้น กรมที่ดินจึงจัดสรรงบประมาณลงไปสำรวจรังวัดที่ดินให้ครอบครัวละไม่เกิน 15 ไร่ เช่าในเวลาไม่เกิน 5 ปี ส่วนค่าเช่าให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดและเก็บค่าเช่า เพื่อนำกลับไปพัฒนาในท้องถิ่นนั้น ๆ
นายถาวร กล่าวต่อถึงข้อสังเกตของ นายศักดิ์สยามระบุว่า โครงการดังกล่าวควรจะรอให้สำรวจทำแผนที่ใหม่ก่อน
เนื่องจาก 3 กระทรวงที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลไม่ตรงกัน โดยเตรียมของบประมาณให้ดำเนินการไว้ 2,500 ล้านบาท รัฐบาลชุดก่อนตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน ได้ใช้งบรังวัดแนวเขตที่ดินด้วยมาตราส่วน 1 : 4,000 ไปแล้วกว่า 400 ล้านบาท ทุกจังหวัดได้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เหลืออีกเพียง 16 จังหวัด ตนได้สั่งการให้ทำให้แล้วเสร็จภายใน 28 ก.พ. 2552 จึงไม่ต้องไปทำขอใช้งบใหม่ 2,500 ล้านบาท
เมื่อถามว่า หากดินหน้าโครงการนี้โดยที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่เห็น ด้วยจะเกิดอะไรขึ้น นายถาวร กล่าวว่า ไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล เชื่อว่าเรื่องนี้ทำความเข้าใจกันได้ และงบประมาณดังกล่าวก็ยังไม่ได้เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
