เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง
กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ควบคุมการระบายสินค้าเกษตร ตามการมอบหมายของ ครม.วานนี้ว่า ตนได้เชิญคณะกรรมการมาร่วมประชุมกัน ในเวลา 18.00 น. วันนี้ ที่ห้องทำงานของตน ซึ่งแม้ว่าตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง แต่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับรัฐมนตรีทั้งหลาย จึงต้องมาดูแลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ อีกทั้งพืชผลทางการเกษตรหลายชนิด ไม่ว่าข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน เป็นพืชผลทางการเกษตร ที่คนส่วนใหญ่ในประเทศทำอาชีพนี้ จึงต้องพยายามช่วยดูแล เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ดี โดยต้องทำให้ภาครัฐ มีวิธีการบริหารจัดการที่ราบรื่นด้วย ตนจึงได้รับมอบหมายให้พูดคุย ส่วนกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ความคิดเห็นในเรื่องบ้านเมือง สามารถมีความแตกต่างได้ ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตนไม่คิดว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้ง ทั้งนี้ ตนจะพยายามให้ทุกฝ่ายมีโอกาสพูดคุยกันให้มาก และเชื่อว่า การพูดคุยด้วยเหตุผล ทำให้ได้แนวทางที่ดีของแต่ละฝ่าย รวมทั้งจะได้ผลสรุปอันเป็นที่ยอมรับกันได้ของทุกฝ่าย
"ผมมันประเภทยาสามัญประจำบ้านอยู่แล้ว เป็นอะไรก็ใช้ได้ ปวดหัว ตัวร้อนก็ทาได้ ถูได้ ไม่มีปัญหา เชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น ประสานรอยร้าวได้ ทุกอย่างต้องดี ผมรับรองว่าดีและจะได้มาตรการแนวทางที่ผมเชื่อว่ามีเหตุ มีผล และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ผมไม่ค่อยมีปัญหา"
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีอยากจะให้มีคณะกรรมการชุดเล็กๆ นั่งคุยกันยาวๆ ในเรื่องนี้ ตนจึงได้อาสา
แต่จะดำเนินการเฉพาะกิจ หรือต่อเนื่องนั้น ขึ้นอยู่กับคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ขณะที่ตนเป็นรองนายกฯ มีหน้าที่ทำงานตามคำสั่งนายกฯ ทั้งนี้ ตนจะไม่ลงรายละเอียด ในเรื่องการประมูลข้าวของเอกชน ครั้งที่ผ่านมา เพราะต้องเคารพในความคิดเห็นของกรรมการคนอื่น และต้องให้ได้ผลดีที่สุด ก่อนนำเสนอ ครม. จากนั้นจึงจะแจ้งให้ทราบรายละเอียด โดยคิดว่า คณะกรรมการจะพูดคุยวันนี้ 1 ครั้ง และอาจจบในวันนี้ หากทุกอย่างลงตัว แต่ถ้ายังต้องไปดูข้อมูลหรือหาความรู้เพิ่มเติม ก็อาจได้ข้อยุติประมาณวันจันทร์ หรืออังคารได้ เพราะวันพุธที่ 3 มิ.ย.ตนต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ ยืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดรอยร้าวในรัฐบาล และไม่มีความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น ตนพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคได้ ไม่มีปัญหา
สำหรับโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คันนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.มา 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในหลักการคิดว่า ทุกคนเห็นด้วย
เพราะ ขสมก.ไม่มีเงินจำนวนมากในการบริหารจัดการ ด้วยวิธีซื้อรถมาตามปกติ แล้วแบกภาระค่าผ่อนรถ และค่าบำรุงรักษา อีกทั้งการปรับเปลี่ยนวิธีใหม่ในการจัดเก็บค่าโดยสาร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนมากขึ้น แต่ที่ ครม.ท้วงติง คือ เรื่องค่าเช่าแพงเกินไปหรือไม่ ซึ่งกระทรวงคมนาคม และ ขสมก.มีคำอธิบายเป็นตัวเลข ซึ่งยิ่งมีคำอธิบายมาก ทำให้ยิ่งมีข้อสงสัยมาก เป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ สิ่งที่ ครม.มอบหมายให้ตน ไปช่วยประสานงานพูดจา คือ ขอให้เป็นรถยนต์ที่ประกอบในเมืองไทยให้มากที่สุด โดยอยากได้ประมาณ 70% จึงมีความพยายามแก้ไขปรับปรุงกันไป เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศ ให้มากที่สุด
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนจำไม่ได้แน่นอนว่า จะมีการเช่าระยะเวลาเท่าใด และต้องเช่ายาวเท่าใด แต่รถเมื่อใช้ไป 1 ปี หรือ 2 ปี ก็ต้องซ่อมแล้ว เป็นธรรมดาต้องบำรุงรักษา
เช่นเดียวกับรถส่วนตัวที่ต้องบำรุงรักษา จึงมีการคิดค่าบำรุงรักษาไว้ตั้งแต่ต้น ตลอดระยะเวลาการเช่า ซึ่งสิ่งที่ท้วงไว้ทุกข้อ เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้าน ก็ได้นำมาบอกทุกข้อ และขอให้ ขสมก.บรรจุเป็นเงื่อนไขในการจัดหาด้วย ทั้งนี้ นายสุเทพ ย้ำอีกว่า การที่รัฐบาลตีกลับ 2 โครงการใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ทั้งการระบายข้าว และการเช่ารถเมล์ จะไม่เกิดปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาล และจะไม่กระทบถึงการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เพื่อโหวตเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และ พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้าน เพราะตนมีความสัมพันธ์ที่ดี กับพรรคร่วมรัฐบาล และทราบดีว่า พรรคร่วมรัฐบาลเหล่านั้น เข้าใจในการทำงานดี อีกทั้งแต่ละคนมีประสบการณ์ในการทำงานกันมา
สุเทพนัดพรรคร่วม เคลียร์ใจเย็นนี้
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!