ที่ประชุมอนุกรรมการสมานฉันท์ มีมติเห็นชอบ
1.ให้ทุกฝ่ายลดวิวาทะลดทิฐิลดอคติ และ การตอบโต้ใส่ร้ายทางการเมืองทั้งนักการเมืองและองค์กรทางสังคม
2.ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านควรลดเงื่อนไขเดิม-ไม่สร้างเงื่อนไขใหม่
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 9.45 น. วันนี้ (26 พ.ค.) มีการประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไข รัฐธรรมนูญ โดยมีนายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เพื่อนัดสรุปข้อเสนอของคณะอนุกรรมการสร้างความสมานฉันท์ทางการเมืองของ สังคมไทย ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับข้อเสนอ1.ให้ทุกฝ่ายลดวิวาทะลดทิฐิลดอคติ และ การตอบโต้ใส่ร้ายทางการเมืองทั้งนักการเมืองและองค์กรทางสังคม 2.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านควรลดเงื่อนไขเดิมที่มีอยู่และไม่สร้างเงื่อนไขใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่มีการเปิดโอกาสให้กรรมการฯได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอ ในแต่ละหัวข้อ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า วาทะมีวิวัฒนาการไปไกลเพราะในอดีตนักการเมืองจะไม่โกหกใส่ร้ายป้ายสีกันเกินเหตุเกินผล ผิดกับปัจจุบันที่หากใครขัดผลประโยชน์ตัวเองก็จะใช้มือที่สาม อาทิ นักวิชาการ คอยรับจ้างออกรายการเหน็บแนมคนอื่น จะถอยคนละก้าวก็แทบไม่มีเพราะมีมือที่สองที่สามทำให้การเมืองแตกแยกอย่างละเอียดและร้าวลึก
พรรคการเมืองขณะนี้ไม่ใช่พรรคการเมืองแล้วแต่เป็นแก๊งการเมืองแย่งชิงผลประโยชน์กัน ทำอย่างไรจะจัดรัฐบาลไล่กุ๊ยการเมืองออกไปให้ได้ แล้วให้ทุกพรรคสรรหาคนใน 20 คนและคนนอก 10 คนมาร่วมบริหารบ้านเมืองปัญหาความขัดแย้งก็จะจบลง ไม่ใช่การฮั้วแต่เป็นการทำเพื่อประเทศชาติ
ด้าน นายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ อธิบการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า กล่าวว่า จะลดความขัดแย้งโดยให้คู่กรณีมาคุยกันอย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้เพราะคงเกิดยากเนื่องจากแต่ละฝ่ายยังมีความคิดว่าตัวเองยังมีศักยภาพอยู่ จึงควรให้สังคมที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งออกมาปฏิเสธการใช้ความรุนแรง
ขณะที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าต้องระบุให้นักการเมืองและแวดวงการเมืองรับผิดชอบต่อคำพูดตัวเองมากกว่าบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะการใช้ความเท็จใส่ร้ายกัน ส่วน นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) คณะกรรมการจากพรรคเพื่อไทยเสนอให้สถาบันพระปกเกล้าจัดอบรมบุคลากรทางการเมืองให้มีจิตสำนึกทางการเมืองให้มากขึ้น
เช่นเดียวกับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ที่สนับสนุนให้อนาคตควรมีโรงเรียนการเมือง เปลี่ยนทัศนคติของนักการเมืองให้ยอมรับการตรวจสอบที่มีเหตุมีผล และเปลี่ยนความคิดให้ทำการเมืองเพื่อประเทศและประชาชน มิใช่เพื่อประโยชน์ของตัวเองด้วย