คมชัดลึก :“ส.ส.เหนือ-อิสาน” ชู “น้องทักษิณ” นั่งเลขาฯพท. ขณะที่ “สันติ พร้อมพัฒน์” คั่วด้วย เหตุ “ใจถึง-พึ่งได้” ส่วน ”หน.พรรค” เช็ดเก้าอี้รอ “โอฬาร” นำทัพสู้เลือกตั้ง ตอนนี้แค่หาขัดตาทัพ ไม่ซีเรียส
(22พ.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ทราบจะมีส.ส.พรรคเพื่อไทยทยอยบินไปเยี่ยมเยียนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตหรือยูเออี แต่ตนยังไม่ขอเดินทางไปเพราะติดภารกิจอยู่ ส่วนที่รัฐบาลประสานไปยังตำรวจสากลและทางการยูเออีเพื่อให้ติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลทำได้แต่จะได้รับความร่วมมือหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่นั่นในฐานะนักลงทุน และคดีความของอดีตนายกรัฐมนตรีก็อาจจะไม่รุนแรงในมุมของต่างชาติที่มองว่าเป็นประเด็นทางการเมือง
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ว่า เชื่อว่าจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยน โดยให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันตำรงตำแหน่งต่อไป
แหล่งข่าวจากส.ส. พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยยังไม่มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคนั้น เนื่องจากพรรคยังหาบุคคลที่มีความเหมาะสมไม่ได้ เพราะบุคคลที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมและเป็นที่ยอมรับของสังคมต่างกังวลว่าพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบอีกรอบหนึ่ง และส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีด้วย รวมไปถึงรายชื่อแคนดิเดทหัวหน้าพรรคที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ซึ่งหากได้รับการคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคจะทำให้พรรคเพื่อไทยและตัวร.ต.อ.เฉลิมถูกโจมตีมากขึ้น หรือนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ก็ยังไม่มีบารมีมากพอ ดังนั้น การเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่จะชะลอออกไปก่อน
“ตอนนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังไม่รีบที่จะหาหัวหน้าพรรค คนที่นั่งตำแหน่งตอนนี้ยังเป็นแค่ขัดตาทัพ ส่วนตัวจริงต้องรอให้ใกล้เลือกตั้ง แล้วจะได้ของจริงซึ่งในช่วงนั้นหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจอย่างนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยจะมีนายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง ร่วมทีมด้วย เพื่อเป็นจุดขายของพรรคในยามที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจ” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว ระบุว่า ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้นเท่าที่สำรวจความเห็นจากส.ส.โดยเฉพาะภาคเหนือและอิสานก็เห็นว่าคนที่เหมาะสมคือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องการประสานส.ส.ทุกกลุ่ม ที่สำคัญคือต้องมีฐานะที่ดีพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อขับเคลื่อนพรรคได้ ไม่เชื่อว่าจะมีการต่อต้าน แต่อีกคนหนึ่งที่ต้องจับตาก็คือนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรมว.คมนาคม ที่เป็นที่ยอมรับของคนในพรรคและล่าสุดก็เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหาร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเป็นแม่บ้านพรรค ที่ต้องมีความใจถึงพึ่งพาได้
"ยงยุทธ"รอความชัดเจน31พ.ค.ก่อนยื่นลาออกหน.พท.
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่ลาออกตามที่ประกาศไว้ว่า ขณะนี้ เขายังไม่ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค แต่โดยความเห็นของส.ส.ในพรรค ยังต้องการหัวหน้าพรรคที่เป็นส.ส. ซึ่งเขาจะลาออกวันไหนอย่างไรนั้น ต้องรอความชัดเจนในวันที่ 31 พ.ค.นี้ก่อน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายยงยุทธ ต้องการจะยื่นลาออกเอง ซึ่งไม่ได้ถูกใครบังคับ โดยนายยงยุทธเองเป็นคนประกาศลาออกในการประชุมพรรคครั้งที่ผ่านมา เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยมีบทบาทอะไรในพรรค เช่นการสัมมนาพรรควันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีบทบาทโดดเด่น และนายยงยุทธได้ปรารภเสมอว่า ไม่มีความถนัดในงานการเมือง หากยังเป็นหัวหน้าพรรคการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ไม่ขอลงสมัครแบบบัญชารายชื่อแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สำหรับแคนดิเดตหัวหน้าพรรคที่มีชื่อผ่านสื่อนั้น ก็ล้วนอยากเป็นหัวหน้าพรรค รวมทั้งตัวนายวิทยา เพราะได้มีการหาเสียง โดยโทรประสานกับบรรดาส.ส.ในพรรคไว้แล้ว อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส. ที่ได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งไปแล้วนั้น
ทั้งนี้ แม้ว่า คนในพรรคให้การยอมรับระดับหนึ่ง แต่ว่ายังเป็นห่วงภาพลักษณ์ส่วนตัว ที่สังคมยังมีคำถามอยู่ นอกจากนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แม้จะเก่งเรื่องเศรษฐกิจ แต่กลุ่มส.ส.สายนักสู้ในพรรค ก็ไม่ค่อยให้การยอมรับ เพราะไม่มาร่วมในการอภิปราย หรือร่วมกิจกรรมในพรรคเท่าที่ควร ส่วน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี ก็ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร แต่คงไม่เหมาะ หากจะถอยจากรองประธานสภา เพื่อมาเป็นหัวหน้าพรรคในตอนนี้
รายงานระบุว่า การเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ หากไม่ได้บทสรุป หรือมีใครได้เสียงข้างมาก ก็อาจจะต้องกลับมาที่สูตรคนนอกเช่นเดิม ก็คือนายยงยุทธ ก็ยังจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปก่อน โดยจะหาตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่อีกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้ง
ส.ส.รับเพื่อไทยยังหาหัวไม่ได้
นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการคดัเลือกตัวหัวหน้าพรรคเพือ่ไทยว่า เมื่อวานตนได้รับหนังสือแจ้งให้เข้าร่วมประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคในวันที่ 31 พ.ค. แล้ว ยืนยันว่าจะมีการประชุมใหญ่แน่นอน และจะมีวาระสำคัญคือการเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ยอมรับว่าขณะนี้ความโลเลเกิดขึ้นในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากได้มีการหารือกันของผู้ใหญ่ในพรรค โดยเห็นเห็นว่าตอนนี้ใกล้จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ที่เกี่ยวเนื่องกับการยุบพรรคและการตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จึงคิดหากจะรอเวลาออกไปอีกนิด เพื่อให้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จะได้มีการส.ส.เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารทั้งชุด หรืออีกทางจะมีการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคกันเลย ก็จะเป็นเหมือนเดิมเลือกเฉพาะตำแหน่งสำคัญ 2-3 ตำแหน่ง เช่นหัวหน้าพรรค รองหัวหน้า เลขาฯพรรค ที่ก็จะใช้ลักษณะนอมินีคือเอาคนนอกเข้ามาเป็นกรรมการบริหาร
นายอิทธิเดช กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นที่ต้องมีหัวหน้าพรรคเป็นส.ส.แล้ว เพราะจะได้ทำหน้าที่ในสภาได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่นายยงยุทธทำงานไม่ดี เพียงแต่ติดที่ว่าท่านไม่ได้เป็นส.ส.เท่านั้น ทำให้ขาดความเชื่อโยงตรงนี้ไป
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายยงยุทธ ยังไม่ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เรื่องนี้ไม่ใช่การกลับลำ เพราะนายยงยุทธ เพียงแสดงความจำนงว่า ยินดีเปิดทาง หากพรรคเห็นว่ามีบุคคลที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม จะได้ข้อสรุปทั้งหมดในการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทยวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ว่าที่สุดแล้วสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคมีความต้องการอย่างไรในตำแหน่งหัวหน้าพรรค ประเด็นดังกล่าวไม่ถือเป็นความแตกแยกของพรรค แต่ถือเป็นความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรคที่ยอมรับความคิดเห็นของสมาชิกทุกคน และยังมีความเป็นเอกภาพ เพราะพรรคไม่มีคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคตามที่เป็นข่าว
"ณัฐวุฒิ"เผยพีเพิลชาแนลซ้อมออกอากาศเตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงความคืบหน้าในการการออกอากาศ ของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีเพิลชาแนล (PEOPLE CHANEL) ว่า ขณะนี้ อยู่ในช่วงทดลองออกอากาศ โดยได้ทดลองแล้วตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถรับสัญญาณได้ ทั้งจากเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น จานรับสัญญาณเอเอสทีวี และจานรับสัญญาณของวัดธรรมกาย ซึ่งจะสรุปผังรายการ และจัดแถลงข่าวเปิดตัวเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ สำหรับดีสเตชั่น ทางบริษัทจะยื่นฟ้องร้องต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง กับการสั่งปิดการออกอากาศอย่างแน่นอน