ประวิตรโต้โยง พค.ทมิฬ นายกหนุนเจาะตู้

"มาร์ค" สั่งเดินหน้าพิสูจน์ตู้คอนเทน เนอร์ใต้ทะเล เพื่อให้ญาติวีรชนคลายข้อสงสัย แต่ระบุไม่ใช้วิธีกู้ซากขึ้นมา เพราะต้องใช้งบประมาณเยอะ และผู้เชี่ยวชาญชี้อายุตู้คอนเทนเนอร์ไม่ต่ำกว่า 20 ปี คาดไม่น่าจะเกี่ยว ข้องกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หนุนใช้วิธีเจาะตู้แต่ก็เป็นห่วงเรื่องสารพิษ "ประวิตร" ยันตู้คอน เทนเนอร์ปริศนาไม่เกี่ยวพฤษภาทมิฬ ชี้ตู้จมกว่า 20 ปีแต่เหตุพฤษภาทมิฬอายุไม่ถึง ลั่นกองทัพพร้อมตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส "ดร.ธรณ์" ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลชื่อดัง อาสาพิสูจน์ตู้คอน เทนเนอร์ด้วยวิธีต้นทุนต่ำ เก็บปะการังที่เกาะอยู่ที่ตู้มาตรวจสอบอายุ วันเดียวรู้ผล ขณะที่ญาติวีรชนเผยไม่เชื่อวิธีตรวจสอบอายุปะการัง บี้รัฐ บาลเปิดตู้โดยให้สื่อมวลชนร่วมพิสูจน์

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ว่า ในเดือนนี้เป็นเดือนที่คนไทยควรจะระลึกถึงการครบรอบ 17 ปี พฤษภาประชาธรรม ทั้งนี้ งานที่รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้อง คือการจัดสร้างอนุสรณ์สถานขณะนี้เรื่องของสถานที่และแบบก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าในอีกครึ่งปีจะสามารถก่อสร้างได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สำหรับการค้นหาศพจากการพบตู้คอนเทนเนอร์ใต้ทะเลอ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นั้น ได้สั่งการให้ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และความสบายใจ โดยผลจากการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นคาดว่าตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวน่าจะมีอายุมากกว่า 20 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม เพื่อความสบายใจของกลุ่มญาติวีรชน และเพื่อให้ได้ทราบข้อเท็จจริงมากที่สุด มีข้อเสนอในวิธีการค้นหาจากหลายฝ่าย ซึ่งหากต้องใช้งบประมาณมากก็จะจัดหาให้ เช่น การเจาะพิสูจน์ตู้ การตรวจหาอายุของปะการัง

อย่างไรก็ตามนายอภิสิทธิ์กล่าวหลังออกรายการว่า คณะสำรวจสรุปว่าอายุตู้ดังกล่าวน่าจะจมอยู่นานกว่า 20 ปี ไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจะไม่มีการกู้ซากตู้ดังกล่าวขึ้นมาพิสูจน์

ต่อมาที่สโมสรทหารบก นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกครั้งว่า เท่าที่ดูจากตัวตู้คอนเทนเนอร์ และอายุเท่าที่ประเมินน่าจะอยู่ที่ 20 กว่าปี ซึ่งมันโยงกับเหตุการณ์เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วที่มีการนำตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาแล้วไม่มีคนรับ ทางกรมศุลกากรจึงให้นำตู้นี้กลับออกไป มีความเป็นได้ที่จะหย่อนลงทะเล เราต้องการให้มีการยืนยันตรงนี้ให้ได้ โดยที่ตัวตู้จะมีการบันทึกรายละเอียดของกรมศุลกากร นอกจากนั้นอาจจะตรวจสอบอายุของปะการังได้อีกทางหนึ่ง แต่การนำขึ้นมาจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และถ้าเจาะก็อาจจะมีสารพิษ รัฐบาลเป็นห่วงเรื่องสารพิษมาก จึงต้องพยายามพิสูจน์ให้ได้ว่าตู้นั้นมาอย่างไร และใครต้องรับผิดชอบในการเอากลับออกไป เบื้องต้นมีรายงานว่ามีเพียง 1 ตู้ที่ทิ้งหย่อนลงไปและอยู่ในลักษณะเอียง มีปะการังอยู่รอบๆ ตู้

เมื่อถามว่าขณะนี้แนวทางคือจะไม่มีการนำเอาตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงจะไม่ยกขึ้นมา เพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายและมีความเสี่ยงในเรื่องสารพิษ แต่ในเบื้องต้นจะมอบหมายให้กองทัพเรือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถพิสูจน์เรื่องอายุดำเนินการก่อน และขั้นตอนต่อไปต้องพิสูจน์และหาคนที่จะเอาตู้ออกไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากหลักฐานที่ปรากฏขณะนี้ แสดงให้เห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และจะทำให้ยุติข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ตรวจสอบเรื่องอายุให้เรียบร้อยเสียก่อน ญาติวีรชนยังคงตามหาผู้สูญหาย ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะช่วยกันทำกันต่อไป หากมีเบาะแสหรือมีข้อมูลอะไรใหม่ก็ต้องช่วยทำให้ญาติวีรชน เรื่องตู้คอนเทนเนอร์ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ

เมื่อถามว่าค่าใช้จ่ายที่ระบุว่าสูงมากนั้นมีการประเมินตัวเลขหรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้กำหนดตัวเลขมาให้ แต่เราต้องดูให้ดีหากเอาขึ้นมาแล้วมีปัญหาหรือมีสารพิษก็จะยิ่งเป็นปัญหา เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าจะมีการหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราจะทำทุกอย่างให้ตรงไปตรงมาและเป็นวิทยาศาสตร์ให้มากที่สุด ไม่น่าจะมีประเด็นอะไรไปโยงใยกับการเมือง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตู้คอนเทนเนอร์มีอายุกว่า 20 ปี ส่วนพฤษภาทมิฬเกิดขึ้น 10 กว่าปีเท่านั้น คงไม่เกี่ยวกัน กองทัพไม่ขัดข้องในทุกเรื่องที่จะให้เกิดความโปร่งใส่ แต่งบประมาณต้องให้รัฐบาลดูแล เพราะกองทัพไม่มีงบประมาณในการนำตู้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามยืนยันว่าทหารอยู่ในกรอบกฎหมายทั้งสิ้น ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของกฎหมายหรือการกระทำที่เลยเถิด

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องทะเล กล่าวว่า หลังจากที่ข่าวออกไปสามารถพิสูจน์อายุของตู้คอนเทนเนอร์ใต้ทะเล โดยใช้งบประมาณ 5,000 บาทนั้น ก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามมากเหมือนกัน โดยการดำเนินการเรื่องนี้ไม่มีความยุ่งยากอะไร เพียงแค่ให้นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลประมาณ 3-4 คน ดำลงไปเก็บปะการังที่เกาะอยู่บริเวณตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมาตรวจในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ใช้เวลา 1 วันก็จะทราบอายุของตู้ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดติดต่อมา หากมีติดต่อมาจริง ตนและทีมงานพร้อมจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบรวบรวมข้อมูลเรื่องนี้แล้ว หากพบข้อมูลในอีกมุมหนึ่งก็จะขยายผลและส่งให้นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน นำไปอภิปรายในสภาต่อไป รัฐบาลต้องทำความจริงให้ปรากฏ เพราะเป็นการชำระประวัติศาสตร์ที่ค้างคาใจ แม้จะต้องใช้งบประมาณกี่ร้อยล้านบาท เพื่อนำตู้คอนเทน เนอร์ทั้งหมดขึ้นมาตรวจสอบก็ต้องทำ หากพบข้อมูลว่ารัฐบาลลับลวงพรางในเรื่องนี้ อาจจะร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

ที่สวนสันติพร ข้างสำนักงานสลากกินแบ่งฯ สถานที่จัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์พฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนินกลาง มีการจัดงานรำลึก 17 ปี 17 พฤษภาคม "วันพฤษภาประชาธรรม" ที่จัดโดยมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม โดยมีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย นายโคทม อารียา ประธานมูลนิธิ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล เลขานุการมูลนิธิ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา "35 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯในฐานะตัวแทนนายกรัฐมนตรี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และญาติผู้ที่เสียชีวิตและสูญหาย รวมประมาณ 100 กว่าคน

นายสาทิตย์กล่าวถึงกรณีตู้คอนเทนเนอร์ว่า นายกฯ ฝากบอกว่ารัฐบาลพยายามเร่งคลายปมปริศนาให้กระจ่างมากที่สุด มีหลายวิธีและวิธีที่ดีที่สุดคือจะนำปะการังที่เกาะอยู่ที่ตู้มาพิสูจน์อายุ

ด้านนายอดุลย์กล่าวว่า การเอาเพรียงหรือปะการังมาพิสูจน์ เห็นว่าคงให้คำตอบกับสังคมคงไม่กระจ่าง ถ้าเอาขึ้นมาไม่ได้โดยอ้างว่าค่าใช้จ่ายสูงก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยต้องเปิดตู้ อาจจะเปิดใต้น้ำก็ได้และให้สื่อมวลชนร่วมพิสูจน์เพื่อให้รับรู้ทั่วกัน ในวันที่ 18 พ.ค. เวลา 10.00 น. ตนและญาติวีรชนจะไปยื่นหนังสือที่กองทัพบก เพราะงบประมาณกองทัพมีมาก การจะพิสูจน์เรื่องเหล่านี้เพื่อให้ประชาชนหรือญาติผู้สูญหายสบายใจว่ากองทัพได้พยายามที่จะคืนศพให้พวกเขา

นายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ อายุ 46 ปี นายกอบต.แสมสาร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตรงกับความคิดของประชาชนในพื้นที่ เพราะมีการพบตู้ดังกล่าวเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว สมัยพบใหม่ๆ มีการคุยกันว่า น่าจะเป็นตู้ซ่อนศพพฤษภาทมิฬ แต่หลังจากนั้นทุกคนไม่ให้ความสนใจอะไร ไม่คิดว่าจะกลายเป็นข่าวใหญ่โตในวันนี้

นายประเสริฐกล่าวว่า คนแรกๆ ที่ไปพบตู้ดังกล่าวเป็นพวกที่งมหาสมบัติของเรือสำเภาโบราณที่จมลงในช่องแสมสาร เมื่อพบตู้ดังกล่าวมีการพูดกันหลายประเด็น แต่ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นเพียงตู้สินค้าที่หล่นจากเรือบรรทุกสินค้า เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าผ่านไปมากมาย ไม่เชื่อว่าจะเป็นตู้บรรทุกสารเคมีอันตรายที่มีคนแอบนำมาทิ้งไว้ ส่วนหัวกะโหลกก็พบมาก เพราะแสมสารเป็นจุดศูนย์กลางที่จะแล่นเรือไปได้สะดวกทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก เมื่อเรือเข้ามามากทำให้มีผู้ที่ลากพบกะโหลกศีรษะมากจำนวน 100 หัว ไม่ทราบว่าไปลากพบในจุดไหน แต่ไม่ได้พบในช่องแสมสารแน่นอน

วันเดียวกันที่บ้านช่องแสมสาร มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไป จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ บางคนพนันกันด้วยว่าภายในตู้มีอะไร ซึ่งมีอยู่ 2 กระแส คือ มีทอง และมีสารพิษ เพราะมีข่าวว่าเมื่อหลายปีก่อนมีนักดำน้ำค้นหาสังคโลก วัตถุโบราณ ในช่องแสมสารดำลงไปเปิดตู้คอนเทนเนอร์พบทองจำนวนมาก

นายปราโมทย์ โถวสกุล กำนันต.แสมสาร กล่าวว่า นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ ได้ให้นโยบายกับข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนทุกคน ให้อำนวยความสะดวก และสนับสนุนการทำงานของทุกฝ่ายที่เข้ามาในพื้นที่ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ และเกรงว่าประชาชนที่ไม่ทราบประเพณีธรรมเนียมของชาวทะเล จะสับสนเรื่องข่าวสาร โดยเฉพาะคำว่าศพ ซากศพ กะโหลก ชาวประมงเรียกเพื่อเป็นสิริมงคลว่า ทอง เมื่อพบศพในทะเลก็จะแจ้งว่าพบทอง เช่นเดียวกับที่มีข่าวจากนักดำน้ำพบทองในตู้ แต่ไม่มีใครกล้ายืนยัน เพราะคนที่นำข่าวนี้มาบอกเสียชีวิตไปหมดแล้ว ที่สงสัยก็คือถ้าเป็นของมีค่าในตู้จริง คงไม่เหลือจนถึงทุกวันนี้