"ทักษิณ" ออกแถลงการณ์สะเทือนใจเจอสันติบาลฟ้องหมิ่นสถาบัน บอกกล่าวหารุนแรงขัดกับความจริง จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ถึงที่สุด ผบช.ก.เผยข้อมูลให้สัมภาษณ์ชัดเจนจนไม่ต้องเรียกสอบ "แม้ว" ส่อโดนอีกคดีอัยการเตรียมส่งฟ้องคดีกรุงไทยปล่อยกู้ 9 พันล้าน
ฮ่องกงพร้อมส่งตัว"แม้ว"ให้ไทย
เอเอฟพีรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฮ่องกงเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมายังประเทศไทย และรับการตัดสินโทษในข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่นหลายคดี แต่ปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ในการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณสามารถคาดหวังความยุติธรรมในประเทศไทยได้ และจำเป็นต้องยอมรับผลของสิ่งที่ได้กระทำลงไป
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีรัฐบาลที่กำลังพิจารณาเรื่องการสมานฉันท์ ว่า "เรากำลังพูดถึงการนิรโทษกรรมสำหรับผู้ที่กระทำความผิดด้านการเมือง เราไม่มีความคิดที่จะนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่กระทำผิดทางอาญา พ.ต.ท.ทักษิณถูกตัดสินว่ามีความผิดกฎหมายอาญา เขาจะต้องรับผิดชอบ"
นายอภิสิทธิ์ซึ่งได้พบกับนายโดนัลด์ ซ่าง ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงของสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันเดียวกันนี้ กล่าวอีกว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุข้อตกลงการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งทางฮ่องกงจะช่วยส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมายังประเทศไทยหาก พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามายังฮ่องกงอีกครั้ง
"นายซ่างกำลังดำเนินการในเรื่องนี้อยู่และผมหวังว่าจะได้ข้อสรุปโดยเร็ว" นายกรัฐมนตรีกล่าว
"แม้ว" สะเทือนใจถูกข้อหาหมิ่นฯ"
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่แถลงการณ์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ชี้แจงกรณีคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) มีความเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง กรณีให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศช่วงวันที่ 12-13 เมษายนที่ผ่านมาว่า สะเทือนใจ เนื่องจากข้อกล่าวหารุนแรงขัดกับความจริง เพราะแม้จะต้องพำนักต่างประเทศก็ยังเป็นคนไทยคนหนึ่งที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน และการสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่อ้างถึงนั้น ไม่มีข้อความใดเลยที่มีเจตนาที่จะหมิ่นหรือจาบจ้วงพระมหากษัตริย์ จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองถึงที่สุด
"เพื่อไทย"สงสัยรบ.อยู่เบื้องหลัง
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลจะอยู่เบื้องหลังหรือไม่ อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเกมการเมือง เพราะมีข้อสังเกตเรื่องคดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้นของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ผ่านมายังไม่คืบหน้า แต่กลับเร่งดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง ถ้าหากรัฐบาลเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจริงก็คงไม่ใช่แนวทางการสมานฉันท์ตามที่รัฐบาลได้ประกาศเอาไว้ และคำถามนี้ควรเป็นรัฐบาลเองที่จะต้องเป็นคนตอบให้ชัดเจน เพราะคนในสังคมส่วนใหญ่ก็ต้องรู้ว่าเป็นเรื่อง 2 มาตรฐาน ซึ่ง กมธ.กฎหมายฯจะสอบสวนเพื่อดูข้อเท็จจริงว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามกฎหมายหรือเข้าข่ายผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่
"มีความเป็นไปได้สูงว่าการดำเนินคดีนี้กับ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อลดเครดิต เนื่องจากจะสังเกตได้ว่ารัฐบาลได้กระทำสิ่งที่ต่อเนื่องกันหลายอย่างเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่การยกเลิกหนังสือเดินทาง จนทำให้ประเทศต่างๆ เห็นว่าเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐาน"นายประชากล่าว
ผบช.ก.ชี้ข้อมูลที่เผยแพร่ชัดเจน
ด้าน พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวว่า บช.ส.ยังไม่ได้ส่งเรื่องที่มีความเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณหมิ่นสถาบันเบื้องสูงมาให้ เมื่อได้รับแล้วจะส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนของ บช.ก.ที่มี พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.ก. เป็นประธาน และมีตำรวจสังกัดกองบังคับการปราบปรามเป็นคณะพนักงานสอบสวน
"หลังรับเรื่องคณะพนักงานสอบสวนต้องประชุม นำคำสัมภาษณ์มาแปลเป็นภาษาไทย จากการดูข้อมูล ผมคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องเชิญผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์ และตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาสอบปากคำ เพราะข้อมูลที่เผยแพร่นั้นถือว่าชัดเจนอยู่แล้ว"พล.ต.ท.ไถงกล่าว และว่า เมื่อสรุปสำนวนแล้ว ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีรอง ผบ.ตร.รับผิดชอบและคณะกรรมการ 51 นาย นำไปพิจารณาอีกครั้ง ก่อนส่งสำนวนให้อัยการ โดยเรื่องนี้ไม่มีการเร่งรัดหรือสั่งการพิเศษจากรัฐบาลหรือจากใคร
พล.ต.ท.ไถงกล่าวว่า ยังมีคดีหมิ่นสถาบันอีกจำนวนมากที่กำลังพิจารณา เฉพาะเว็บไซต์มีมากถึง 1,400 เว็บไซต์ ส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ มีของไทยประมาณ 40-50 เว็บไซต์ ที่ผ่านมาก็ปิดไปจำนวนมาก
"สุเทพ"ปัดสั่งสันติบาลจัดการ
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่ตำรวจสันติบาลมีความเห็นดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเรื่องนี้ไม่ได้เข้าไปดูแล และหลายเรื่องไม่ได้ลงไปในรายละเอียด เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ใครผิดใครถูกก็ให้ตำรวจทำตามหน้าที่ เมื่อถามว่า ขณะนี้พบความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณในประเทศมอนเตเนโกรบ้างหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ได้พบ แต่อ่านข่าวจากสื่อมวลชน เมื่อถามว่า มีช่องทางอะไรที่รัฐบาลพอจะจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณได้บ้างหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ได้ทำ เพราะไม่มีอะไรจะทำ และไปทำเรื่องอื่นดีกว่า เมื่อถามว่า จะปล่อยเรื่องนี้ไปก่อนใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ครับ
"ทักษิณ"ส่อเจอคดี"กรุงไทย"อีก
นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ประธานคณะทำงานอัยการ รับผิดชอบคดีที่สร้างความเสียหายแก่รัฐ กล่าวถึงการพิจารณาสำนวนคดีธนาคารกรุงไทย (มหาชน) ปล่อยกู้มูลค่า 9,000 ล้านบาท ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, คณะกรรมการ (บอร์ด) บริหารธนาคาร และบริษัทเอกชน รวม 31 ราย ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา และคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ กรณีเรียกรับเงินจากบริษัทเอกชน ที่มีนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กับพวก ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ว่าหลังจากที่คณะทำงานอัยการประชุมร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อปรึกษาหาข้อยุติปัญหาข้อกฎหมายการสั่งคดีแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะในการตรวจสำนวนและเสนอความเห็นให้นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ว่าพยานหลักฐานที่คณะทำงานร่วมอัยการกับ ป.ป.ช. รวบรวมส่งมาให้แล้วนั้น เพียงพอที่จะฟ้องผู้ถูกกล่าวหารายใดบ้าง ซึ่งอัยการจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
"ถ้าอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง จะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนผู้กล่าวหาที่เหลือที่เป็นประชาชนให้ ป.ป.ช.ใช้อำนาจยื่นฟ้องเอง เมื่อคดีเข้าสู่ศาลแล้วจึงจะยื่นคำร้องต่อศาลขอรวมคดีเป็นสำนวนเดียวกันในภายหลัง"นายวัยวุฒิกล่าว
ฮ่องกงพร้อมส่งทักษิณให้ไทย แม้วอ้างสะเทือนใจข้อหาหมิ่นสถาบัน จ่อโดนฟ้องคดีกรุงไทยปล่อยกู้9พันล.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ฮ่องกงพร้อมส่งทักษิณให้ไทย แม้วอ้างสะเทือนใจข้อหาหมิ่นสถาบัน จ่อโดนฟ้องคดีกรุงไทยปล่อยกู้9พันล.