สุเทพเมินเอกชน เปลี่ยนขุนคลัง ลั่นยังทำงานได้ดี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (15 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างส.ส.ประชาธิปัตย์ กับ ส.ส.เพื่อไทย ในระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ว่า ไม่มีอะไรมาก คงเป็นเพราะเครียด ตนได้สอบถามนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ก็บอกว่าไม่ได้ชกต่อยอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ในรัฐสภายังไม่รอมชอมแล้ว สถานการณ์การเมืองข้างนอกจะรอมชอมกันอย่างไร นายสุเทพตอบว่า คงต้องให้เวลาหน่อย และต้องค่อยๆแก้ไขไป

นายสุเทพยังกล่าวถึงกรณีนายชุมพล กาญจนะ ประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์

แสดงความอึดอัดการทำหน้าที่ของตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ 8 คนที่เป็นคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายชุมพลอาจได้ข้อมูลการทำงานของ 8 คนไม่ครบ เพราะเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญมีความคิดแตกต่างกันมาก แม้กระทั่งประชาชน สื่อมวลชนก็มีความเห็นแตกต่างกัน ในพรรคประชาธิปัตย์ก็เช่นกัน เราพยายามให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น และรับฟังคนอื่นไปด้วย ซึ่งการทำงานของทั้ง 8 คนไม่คิดว่า ทำอะไรผิดมติพรรค เข้าใจดีว่า นายชุมพลและ ส.ส.คนอื่นเป็นห่วงประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ก็ต้องแสดงความคิดเห็นเอาไว้บ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีหลักแน่นอนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หากมุ่งเป้าช่วยเหลือใครคนใด หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราไม่เห็นด้วย รัฐธรรมนูญต้องเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ ส่วนรายละเอียดแต่ละมาตราที่มีการตัดวรรคนั้น เพิ่มวรรคนี้ จนทำให้ข้อความเปลี่ยนก็ต้องดูอีกครั้ง

'ความคิดเห็นของคนไม่เหมือนกัน แต่ในที่สุดหนีไม่พ้นที่ต้องถามความคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศในแต่ละประเด็น ผมไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการฯ แต่ทางออกหนึ่งที่น่าจะดีที่สุดก็คือคณะกรรมการฯ ต้องยกประเด็นทั้งหลายขึ้นมาทุกประเด็นรวบรวมไปถามประชาชนทั้งประเทศ แล้วยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ให้ตรงตามที่ประชาชนให้ความเห็นไว้ในประเด็นสำคัญๆจะแก้ไขปัญหาได้' นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนการรับประทานอาหารกลางวันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่มีการคุยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นการคุยเรื่องเศรษฐกิจ

เพราะพรรคร่วมรัฐบาลกังวลใจเรื่องเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องอื่น โดยพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นตรงกันในสิ่งที่นายกฯ ดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศให้มีรายได้ดี เมื่อถามว่า เหตุใดเรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาเพียง 1-2 พรรค นายสุเทพตอบว่า ไม่ใช่หัวหน้าพรรค แต่คนเหล่านั้นเคยเป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีของพรรคต่างๆมาแล้ว เพื่อต้องการทราบว่า คนเหล่านั้นมีมุมมองอย่างไรในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น การกู้เงิน 8 แสนล้านบาท การชลประทาน ระบบการขนส่ง ซึ่งนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่ได้ติดใจอะไร แถมยังมีความสุขมาก พอใจ และให้ความเห็นว่า สิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจทำถูกต้องแล้ว ทั้งระบบการขนส่ง การลงทุนด้านชลประทาน ส่วนกระแสข่าวว่า ตนต่อสายคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ในการรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ยืนยันไม่ได้ต่อสายหานายเนวิน แต่เชิญทุกคนมานั่งคุยกันเรื่องเศรษฐกิจไม่มีเรื่องการเมือง ไม่มีอะไรต้องคุย เนื่องจากยังไม่มีปัญหา ยืนยันไม่ได้เชิญมาเพราะติดใจปัญหาอะไร

นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 18 พ.ค.เพื่อพิจารณากรอบการกู้เงิน 8 แสนล้านบาท เชื่อว่า จะไม่มีปัญหาสภาล่ม

ซึ่งทุกคนก็ร่วมกันรับผิดชอบ ยืนยันว่า เสถียรภาพภายในรัฐบาลยังเหนียวแน่น ตนเป็นคนประสานงานกับทุกพรรค ยืนยันแทนทุกพรรคได้ ทุกพรรคยังแน่นเฟ้น คุยกันหมดแล้วไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า รัฐบาลจะอยู่ถึงการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เดือนต.ค.หรือไม่ นายสุเทพตอบว่า อาจนานกว่านั้นก็ได้ เมื่อถามถึงปัญหาระหว่างนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการประมูลสต็อกข้าวโพด 4 แสนตัน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เพราะจบไปตั้งแต่ประชุมครม. แล้ว ซึ่งการชี้แจงใน ครม.ไม่ค่อยถูกต้อง เพราะข้าราชการคิดว่า อำนาจการตัดสินใจเป็นเรื่องข้าราชการประจำ แต่ปัญหาคือ การแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตรเป็นมติ ครม. ซึ่งครม.ต้องรับผิดชอบการเอาเงินจำนวนมากไปรับจำนำหรือแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตร หากขายไม่ดีก็ขาดทุน ซึ่งเป็นปัญหาที่ ครม.ต้องรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาคเอกชนบางส่วนเสนอให้นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เป็น รมว.คลัง แทนนายกรณ์ จาติกวณิช

เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ นายสุเทพตอบว่า คงยังไม่ถึงขนาดนั้น นายกรณ์ยังทำได้ดีอยู่ โดยเฉพาะการชี้แจงในที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ก็ชัดเจน ทำให้คนฟังสบายใจ ยังมีขีดความสามารถในการทำงานได้เต็ม 100 นายกรณ์ถือเป็นความหวังของเราคนหนึ่ง