ภท.ปัดพรทิวางัดข้อนายกฯ แทรกแซงข้าวโพด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย

ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความขัดแย้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ว่า เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เป็นข่าวคล้ายกับว่านางพรทิวา มีปัญหาในที่ประชุม ครม.เกี่ยวกับการเสนอโครงการดังกล่าวนั้น จริงๆแล้วบรรยากาศในที่ประชุม ครม.เมื่อวานนี้ไม่ได้เป็นเรื่องความตึงเครียดอย่างที่มีข่าวออกมา เพียงแต่เป็นเรื่องการบริหารที่อาจจะยังไม่ชัดเจนในบางประเด็น โดยเมื่อมีการชี้แจงจากข้าราชการประจำแล้วก็ยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้ที่ประชุม ครม.ได้ตัดสินใจให้ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนั้นที่ประชุม ครม.จึงมีมติให้คณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานไปทบทวน ซึ่งนางพรทิวาก็อยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย

'ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรอย่างที่เป็นข่าว ยืนยันว่าเป็นเรื่องของการถกกันในที่ประชุม ครม.ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น เรื่องอื่นๆที่เป็นเรื่องสำคัญก็มีการหารือกันอย่างนี้อยู่แล้ว เพียงแต่บังเอิญว่าโครงการนี้คาบเกี่ยวกับรัฐบาลชุดที่แล้วด้วย จึงดูเหมือนว่ารัฐบาลต้องการให้มีความชัดเจนถึงการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ก็เลยให้มีการกลับไปทบทวน ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งอะไรอย่างที่เป็นข่าว' นายศุภชัย กล่าว

เมื่อถามว่า แต่ข่าวที่ออกมานั้นนางพรทิวาได้พูดกับนายกรัฐมนตรีว่าทำงานแบบ 2 มาตรฐาน นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ใช่ เมื่อวานนี้นางพรทิวาไม่ได้พูดถึงขนาดนั้น เพียงแต่นางพรทิวาต้องการความชัดเจน

ซึ่งในที่สุดแล้วก็ให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินว่าเรื่องนี้ควรจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เมื่อถามว่าสรุปแล้วทางพรรคภูมิใจไทยจะหารือหรือกำหนดท่าทีเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่มี เมื่อวานนี้หลังจากที่ประชุม ครม.เสร็จ ก็ยังไปรับประทานอาหารร่วมกันอยู่ โดยนายกรัฐมนตรีก็ร่วมรับประทานอาหารด้วย และได้พูดคุยกัน ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความราบรื่น

'ผมยืนยันว่าเรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ถือเป็นประเด็นที่เห็นว่าเป็นความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลในการร่วมกันทำงาน และเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสาระสำคัญที่พรรคภูมิใจไทยจะถือเป็นเรื่องที่จะต้องมาทบทวน หรือพูดคุยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ยังยืนยันว่าเรายังสนับสนุนรัฐบาลในการบริหารประเทศต่อไป โดยไม่ได้ถือเอาเรื่องของการบริหารอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้มาเป็นประเด็นสำคัญ' นายศุภชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมาพรรคชาติไทยพัฒนาก็เคยออกมาตัดพ้อนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องการอนุมัติงบประมาณเช่นกัน กลัวว่าจะกลายเป็นปัญหาบานปลายหรือไม่

นายศุภชัย กล่าวว่า จริงๆแล้วเป็นเรื่องของแต่ละกระทรวงที่เสนอของบประมาณตามภารกิจที่เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ แต่เนื่องจากงบประมาณนั้นไม่ได้มีอยู่มาก ดังนั้นการจัดสรรงบประมาณต่างๆก็จะต้องดำเนินการตามความจำเป็นและความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้สามารถที่จะปรับลดกันได้ตามความจำเป็นอยู่แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ปิดกั้นว่าเมื่อจัดสรรงบประมาณไปแล้วจะหารือกันอีกไม่ได้ การพูดคุยเรื่องทั้งหมดก็อยู่บนพื้นฐานว่าทำอย่างไรให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดจากการจัดงบประมาณ ไม่ได้มีเป้าหมายว่ากระทรวงใด พรรคใดคุมแล้วจะได้มากหรือน้อย จนถึงขณะนี้ตนยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีปัญหาในเรื่องเหล่านี้เลย เป็นเพียงความรู้สึกของกระแสข่าวที่ออกมา ยืนยันว่าเวลานี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคคุยกันรู้เรื่อง

โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนพรรคภูมิใจไทยในที่ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอปรับแก้เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบบเขตเดียวเบอร์เดียว ว่า เป็นเพียงข้อเสนอของอนุกรรมการในส่วนของพรรค

แต่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของที่ประชุมโดยรวมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันตลอด คือ ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอใดๆก็ตาม จะต้องถามประชาชน ถ้าหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกเรื่องจะต้องทำประชามติ ต้องถามความเห็นของประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ผ่านกระบวนการทำประชามติมา ดังนั้นไม่ว่าจะแก้ไขเรื่องใดก็ต้องถามประชาชนอีกครั้ง