ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 17.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้วิธีที่ดีที่สุด คือ ให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มประเทศอาเซียนบวก 6 ที่จะมีการประชุมกันที่ จ.ภูเก็ต
เป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหากเลื่อนไปถึงเดือน ก.ค.จะเกี่ยวข้องกับการประชุมอีกหลายอย่างที่ประเทศไทยต้องเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่กรุงเทพฯ อยู่แล้ว หากเลื่อนออกไปอีกก็จะใกล้กับเดือน ต.ค.ที่จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 15 อยู่แล้ว ซึ่งอาจจะมีการยกยอดไปรวมกัน
หากจะจัดการประชุมก็ต้องมีการประชุมอาเซียนบวก 3 บวก 6 ด้วย
เพราะเดือน ต.ค.ต้องพร้อม เนื่องจากต้องจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนตามกำหนดการเดิม แต่ทั้งหมดนี้เจ้าหน้าที่อาวุโสที่จะประชุมกันจะเป็นผู้หาข้อยุติ และเหตุผลที่แต่ละประเทศแสดงมาอย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องของความไม่สะดวกในเรื่องเวลา ซึ่งเราก็ต้องพิจารณาต่อไป ส่วนการประชุมอื่นๆ ก็เดินหน้าต่อไปตามปกติ
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลรู้สึกเสียหน้าหรือกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียดาย และคิดว่าหลายประเทศก็เสียดาย
แต่ปัญหาเกิดขึ้นที่พัทยาทุกคนก็เข้าใจสถานการณ์ เมื่อถามว่าการเลื่อนจัดการประชุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่พัทยาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่สืบเนื่องมาโดยตรงอยู่แล้ว เพราะเราควรจะจัดการประชุมครั้งนี้ให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่พัทยาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าประเทศเสียหายอย่างไรที่ไม่สามารถจัดการประชุมในเดือน มิ.ย.นี้ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เสียโอกาสที่จะได้มาจัดการประชุมพร้อมกันในเรื่องข้อตกลงต่างๆ
โดยเฉพาะข้อหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจ เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนให้กับผู้ชุมนุมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนคงมองเห็นว่า เวลาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และหวังว่าทุกคนจะมีบทเรียนและได้ข้อสรุปที่ถูกต้องว่าทำอย่างไรเราจะไม่เอาปัญหาภายในมาเป็นปัญหากับภาพรวมของประเทศหรือในภูมิภาค