ทร.สั่งเช็คต้นตอข่าวคอนเทนเนอร์ใต้ทะเลอ่าวไทย

วันนี้ (13 พ.ค.)แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีสื่อได้นำเสนอเกี่ยวกับการพบตู้คอนเทนเนอร์ ใต้ทะเลที่ถูกค้นพบบริเวณใต้ทะเลลึก ที่ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ทางกองทัพเรือ ได้ให้หน่วยข่าวของกองเรือภาคที่ 1 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ได้ไปติดตามข้อมูลจากชาวบ้าน เพื่อทราบถึงข้อมูลที่มีพบตู้คอนเทรนเนอร์ว่าอยู่จุดใด และ ตรวจสอบว่าข้อมูลที่สันนิษฐานเกี่ยวกับการพบซากกระดูกหรือหัวกระโหลกมนุษย์ ตามที่ปรากฎข่าวมีรายละเอียดอย่างไร แต่ปรากฏว่ายังไม่พบว่าข้อเท็จจริงว่าเป็นศพหรือไม่ และทราบเพียงว่าเป็นการบอกกันมาปากต่อปาก อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือ ยังไม่มีหน้าที่ส่งกำลังเข้าไปตรวจสอบบริเวณใต้ทะเลลึก เพราะกรณีนี้ยังไม่มีเจ้าภาพในการร้องเรียนมาให้ตรวจสอบ จะมีเพียงส่วนของกรรมการญาติวีรชน 35 ที่ร้องเรียนไปที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้สั่งการมาให้กองทัพเรือดำเนินการ ตามขั้นตอน น่าจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งอาจประสานมาให้ทางกองทัพเรือให้การจัดเรือหรือ กำลังพลลงไปหาข้อเท็จจริง โดยทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน

แหล่งข่าว เปิดเผยอีกว่า เมื่อปี พ.ศ.2542 กองทัพเรือ ได้รับแจ้งเบาะแสและพิกัดในการพบตู้เทนเนอร์ในบริเวณ ต.แสมสาร มาแล้ว

แต่เป็นคนละจุดที่เกิดเป็นข่าวในปัจจุบัน ซึ่งได้จัดส่งเรือลากทำลายทุ่นระเบิด ไปสำรวจ 3 วัน และ ขยายบริเวณเป็นวงกว้างกว่าพิกัดที่รับแจ้ง แต่ไม่พบตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งนี้ เรือดังกล่าวมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับวัตถุใต้ทะเลได้อย่าง ละเอียด แม้กระทั่งทุ่นระเบิดที่เล็กกว่าตู้คอนเทรนเนอร์ยังตรวจพบ เพราะฉะนั้น หากทราบพิกัด ก็คงหาไม่ยาก

"ตอนนี้คงสันนิษฐานยาก เพราะเท่าที่ดูคือมีความพยายามโยงว่าเป็นศพจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งเท่าที่วิเคราะห์แบ่งได้เป็น 3 ประเด็น คือ 1. มีศพจริง แต่ก็น่าแปลกใจที่ทำไมต้องใช้ถึง 7 ตู้ เพราะเท่าที่ดูจากข่าว มีผู้สูญหาย 40 คน ถ้าใช้ตู้ที่ความยาว 20 ฟุต ก็น่าจะใช้แค่ตู้เดียว 2. อาจเป็นตู้ที่บรรจุสารพิษซึ่งมีหลายปีก่อนมีการส่งมาจากต่างประเทศมาที่ ท่าเรือคลองเตย แต่ไม่มีคนไปรับ ตั้งไว้จนมีสารเคมีเยิ้มออกมา ซึ่งวิธีการทำลายที่มักง่ายที่สุดและเสียค่าใช้จ่ายน้อยก็เอาไปโยนทะล หรือ 3. อาจมีสองกรณีผสมกัน ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นไปได้หมด แต่ยังไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด ซึ่งทร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เห็นข่าวแล้วก็พยายามหาข้อเท็จจริงอยู่เพียงแต่ไม่ใช่หน้าที่เราโดยตรง ข่าวที่ออกมาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้นตอมาจากไหน และหวังผลอย่างไร แต่แน่นอนว่าไม่ได้มาจากกองทัพเรือ แต่น่ามาจากนักประดาน้ำ หรือ ชาวประมง ไปพบ“ แหล่งข่าวเปิดเผย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์