เมื่อเวลา 08.50 น. วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กล่าวก่อนการประชุม ครม.ถึงกรณีที่นายสเนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย จับมือกันตั้งรัฐบาลแก้วิกฤติของชาติ ว่า ตนไม่แน่ใจว่าเป็นข้อเสนอของนายเสนาะเอง หรือของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นข้อเสนอที่สามารถเสนอได้ แต่จะเป็นจริงขึ้นมาหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งนี้ เข้าใจว่าข้อเสนอของนายเสนาะ คงเป็นลักษณะการเปิดประเด็นขึ้นมา เพื่อจะนำไปสู่ข้อถกเถียง ภายในคณะกรรมการฯ ส่วนจะเป็นจริงทางการเมืองหรือไม่ ยังมีเหตุปัจจัยอย่างอื่นอีกมากที่ต้องประกอบกัน
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับรัฐบาลหลังจาก 4-5 เดือนที่ผ่านมา เมื่อสภาฯ เลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และมีพรรคร่วมรัฐบาล
ในเวลานี้ยังบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ แม้ว่าจะไม่ราบรื่น ซึ่งยอมรับว่า ยังมีปัญหา แต่สิ่งหนึ่งที่นายเสนาะพูดขึ้นมา ไม่อยากตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการพูดเพื่อสร้างประเด็น ที่เป็นแรงกดดันทางการเมือง แต่ไม่คิดว่าแรงกดดันนี้ จะมีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล ในขณะนี้
ส่วนประเด็นวิกฤติความขัดแย้งนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในวันนี้ถือว่าครบ 1 เดือน
หลังเหตุการณ์13 เม.ย. วิกฤติความขัดแย้งยังดำรงอยู่ แม้ว่าจะคลี่คลายไปมากแล้ว แต่ยังมีความคิดเห็นที่ขัดแย้ง ไม่ตรงกับรัฐบาลอยู่ ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกัน คณะกรรมการสมานฉันท์ฯในรัฐสภา ทำให้ความเห็นแย้ง ไปอยู่ในเวทีที่ถกเถียงกันได้ ซึ่งจากวันนี้ไป คงมีหลายความเห็นที่ไปถกเถียงตรงนั้น
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประเมินว่า รัฐบาลจะอยู่ได้ไม่เกินเดือน ก.ค. นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ให้น้ำหนักอะไรมาก
แต่จะเน้นว่า หลังวิกฤติสงกรานต์ผ่านไปแล้ว เราจะเดินอย่างไรต่อไป ซึ่งนายกฯได้หารือกับที่ปรึกษานายกฯ ว่า ต่อไปนี้ จะเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประเทศ โดยตั้งงบประมาณไว้แล้วกว่า 300 ล้านบาท ในงบกลางปี ซึ่งคงเดินหน้าเต็มที่ ในเดือน มิ.ย. โดยจะมีกิจกรรมแผนงานโครงการสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความรักประเทศให้เกิดขึ้น ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะระดม ส.ส.ไปเปิดปราศรัยในพื้นที่อีสาน โดยจะให้ พ.ต.ท. ทักษิณโฟนอินเข้ามาอีกนั้น ตนไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ เพราะคนตามทันหมดแล้ว
นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงการเปิดทดลองออกอากาศใหม่อีกครั้ง ของนิวดีสเตชั่น ผ่านทางช่องทีวีดาวเทียม
โดยคาดว่า จะไปเปิดดำเนินการใหม่ ผ่านทางเอ็มวี ทีวี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างลาว สตาร์ กับบริษัทไทย ซึ่งยังไม่ชัดเจน ซึ่งตนได้เรียกข้อมูลมาดูอยู่ อย่างไรก็ตาม การเปิดดีสเตชั่นใหม่นั้น ประเด็นอยู่ที่เนื้อหาที่นำเสนอ มากกว่า โดยที่ผ่านมา ดีสเตชั่นเป็นการถ่ายทอดการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล และนำไปสู่การปลุกระดมคน ทั้งนี้ ถ้าจะกลับมาเปิด จะต้องทำตามระเบียบของอนุ กทช. ที่จะออกมาภายในเดือน มิ.ย. และดูแลเรื่องผังรายการให้ถูกต้อง ซึ่งระเบียบของอนุ กทช.ที่จะออกมาใช้บังคับอย่างเท่าเทียมกัน กับสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมทุกแห่ง รวมทั้งเอเอสทีวี โดยจะเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ไม่มีสองมาตรฐาน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
