ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 12 พ.ค. ที่ถนนหน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มนแวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เชียงใหม่
ได้จัดงานเลี้ยงระดมทุนและต้อนรับการกลับมาของนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานกลุ่มรักเชียงใหม่51 ที่ถูกกลุ่มชายลึกลับอุ้มตัวไปและรับขวัญแกนนำ นปช. มี นพ.เหวง โตสิลาการ ,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง พร้อมคณะจำนวนหลายคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพ โดยมีคนมาร่วมงานนับหมื่นคนจนถนนย่านในกลางเมืองใกล้สถานที่จัดงานต้องปิด ถนนเนื่องจากจำนวนผู้คนที่เข้ามาแน่นเป็นประวัติการณ์ของการชุมนุมในบริเวณ นี้ โดยมีแผนรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดให้กับนายเพชรวรรต และแกนนำคนสำคัญที่เดินทางมาร่วมในงาน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การมาชุมนุมกันในวันนี้ถือว่าเป็นสัญญาณให้ทราบว่าขบวนการของคนเสื้อแดงไม่ ได้อ่อนแรงลงเลย ตรงกันข้ามกลับขยายตัวเพิ่มขึ้น
มีความแข็งแรงมากขึ้นและมีหัวจิตหัวใจที่จะต่อสู้ภายใต้เป้าหมายและจุดยืนเดิม แนวร่วมคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดเพิ่มจำนวนขึ้น และกิจกรรมของคนเสื้อแดงทั่วประเทศเกิดขึ้นทุกวัน พวกตนได้สลับสับเปลี่ยนไปพบปะกับพี่น้องกลุ่มคนเสื้อแดง จะเห็นว่าก่อนสงกรานต์การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงไม่คึกคัดขนาดนี้ แต่เมื่อมีการใช้กำลังสลายการชุมนุม การลั่นกระสุนใส่ประชาชนของทหารทำให้การเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงเข้มแข็งขึ้น
แกนนำ นปช. กล่าวอีกว่า ขอบอกว่ารัฐบาลแปรความหมายผิด คนเสื้อแดงที่สลายการชุมนุมเข้ายอมแพ้
แต่การยุติการชุมนุมในวันนั้นเป็นเพราะแกนนำคนเสื้อแดงใช้การสิ้นอิสรภาพของตนเองแลกกับความปลอดภัยของผู้ชุมนุมทั้งหมด เพราะมีการใช้กำลังและอาวุธในการจัดการกับผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรง เพราะรัฐบาลชุดนี้จึงไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ชนะ แต่อยู่ในฐานะผู้ทำร้ายอยู่ในฐานะฆาตกร ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนตัวเอง
แกนนำนปช.ร่วมกินโต๊ะจีน-ปราศรัยที่เชียงใหม่
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในปัจจุบันนี้มาถูกทางแล้ว คนเสื้อแดงทั้งประเทศได้สร้างปรากฎการณ์การเคลื่อนไหวครั้งใหม่ที่ไม่เคย เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
คือลุกขึ้นรวมตัวกันและเป็นผู้นำของกันและกันมีการ จัดองค์กรมีการสร้างองค์กร มีกิจกรรมหารายได้เพื่อนำไปต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และการชุมนุมครั้งใหญ่ของคนเสื้อจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในกรุงเทพฯ และขอบอกว่าที่ จ.ภูเก็ต พวกเราไม่มีแผนการที่จะชุมนุมและไม่ไปขัดขวางการประชุมอาเซียน แต่ที่ผ่านมาที่พัทยา รัฐบาลเป็นคนก่อเหตุนำคนเสื้อสีน้ำเงินเข้ามาดักทำร้ายประชาชน ยืนปนกับตำรวจทหาร และทำร้ายประชาชนคนเสื้อแดง รัฐบาลบิดเบือนข่าว
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวเสริมว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดว่าจะมีการขัดขวางการประชุมอาเซียน ที่จ.ภูเก็ต เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา
ว่านายอภิสิทธิ์ จริงใจกับการประชุมแค่ไหน การประชุมที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ได้นำคนเสื้อน้ำเงินมาทำร้ายคนเสื้อแดงและมี เหตุระเบิดเกิดขึ้นใกล้โรงแรม ทำให้ผู้นำอาเซียนต้องยกเลิกการประชุม และนายอภิสิทธิ์รู้แก้ใจดี และขอบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ใช้ 2 มาตรฐานในการดำเนินการ ดังนั้นในการต่อสู้ของพวกเราจะต้องมีการยกระดับต่อไป เพราะคนเสื้อแดงทั่วประเทศไม่ยอมรับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ทั่วโลกก็รู้
นายอริสมันต์ กล่าวด้วยว่า ขอฝากไปถึงนายอภิสิทธิ์ ว่าคุณต้องยอมรับว่าคุณไม่มีความเชื่อถือและต่างชาติไม่ยอมรับแล้ว คุณควรจะคืนอำนาจให้พี่น้องประชาชน
และข้อสำคัญ คุณจะคืนอำนาจต้องจริงใจกับประชาชนโดยการแก้รัฐธรรมนูญตามคำเรียกร้องของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เตะถ่วงไปเช่นนี้ และเรื่องที่สำคัญอันตรายต่อประเทศชาติที่นำคนไม่มีประสบการณ์ ไม่ความสามารถเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นผู้นำของชาติ แก้เศรษฐกิจไม่เป็น ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยไม่มีทางโงนหัวขึ้นมาได้เลย ต่างชาติไม่เชื่อถือ เพราะมีผู้นำน่อมแน้มไม่เคยผ่านงานทางนี้มาเลย การทำงานของนายอภิสิทธิ์จึงเหมือนคนตายบอดที่คลำช้าง เพราะไม่รู้ว่าหัวว่าหาง นายอภิสิทธิ์ทำทุกวันนี้กู้อย่างเดียวเท่านั้นไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาเศรฐ กิจของประเทศได้เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มแกนนำได้ผลัดกันขึ้นปราศรัย กับชาวเชียงใหม่ บรรดาเหล่าแกนนำ กล่าวโจมตีรัฐบาลและระบบอมาตยาธิป ไตยอย่างรุนแรงท่ามกลางความชอบใจของชาวเสื้อแดงเชียงใหม่