ทักษิณรับผวา กกต.ชุดใหม่

"นโยบายตกเขียว"


หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ลงไปตรวจราชการจังหวัดทางภาคอีสานโดยมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์และให้จับตาดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณชิงความได้เปรียบทางการเมืองและเริ่มนโยบายตกเขียว ทุ่มแจกงบประมาณ เพื่อซื้อเสียงนั้น ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณออกมายอมรับว่ากลัวทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเหมือนกัน ซึ่งพยายามระมัดระวังเต็มที่


ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.เปิดสภา


เมื่อวันที่ 8 ส.ค. เวลา 08.30 น. ที่โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส จังหวัดขอนแก่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม ครม.วันนี้ จะพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ตามที่สำนักเลขาธิการวุฒิสภาเสนอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าใจว่าเป็นวันที่ 15 ส.ค.นี้ คิดว่าหลังจากที่วุฒิสภาเสนอขอเปิดสมัยประชุมรัฐสภาแล้ว กระบวนการสรรหา กกต.คงทันการเลือกตั้ง เพราะศาลฎีกาน่าจะพิจารณาบุคคลเสร็จในสัปดาห์นี้

และสัปดาห์หน้าก็เปิดสมัยวิสามัญได้ เมื่อถามว่ากระบวนการทั้งหมดจะทันวันกำหนดเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค. ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ทุกฝ่ายก็ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ เพราะอยากจะเห็นบ้านเมืองมีทิศทางที่ชัดเจน คิดว่าในวันที่ 15 ต.ค. ที่เป็นวันเลือกตั้งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ครม.ได้อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกา เปิดสมัยประชุมสภา สมัยวิสามัญแล้ว เหลือแต่เพียงการรอยืนยันวันที่จากวุฒิสภาเท่านั้น ไม่ต้องนำเข้า ครม.อีกแล้ว


ปลื้มชาวบ้านพอใจ 30 บาท


เมื่อเวลา 08.30 น. ที่โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส จังหวัดขอนแก่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลว่า ในวันแรกที่ลงพื้นที่ ในส่วนของนโยบายไม่มีปัญหา แต่หลายอย่างต้องมาดูเรื่องของการปฏิบัติให้ถึงประชาชนอย่างแท้จริงและรวดเร็วกว่านี้ บางอย่างทิศทางความร่วมมือของประชาชนดีอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะติดขัดในระบบของราชการ การเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังมีปัญหาอยู่บ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายของรัฐบาลใดที่คิดว่าประสบผลสำเร็จ นายกรัฐมนตรีตอบว่า คิดว่านโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นนโยบายที่คนพึงพอใจมาก รวมถึงนโยบายเอสเอ็มแอล ที่ประชาชนมีโอกาสมีงบประมาณในการแก้ปัญหาชุมชน และนโยบายการจัดเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน แล้วมาสร้างเป็นนิคมเศรษฐกิจพอเพียง ปรากฏว่าประชาชนพอใจมาก ส่วนนโยบายที่ต้องปรับปรุงคงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาประชาชนในพื้นที่ ที่อาจจะยังมีบางส่วนที่ลงไปไม่เต็มที่


รับระแวงทำผิด ก.ม.เลือกตั้ง


ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่แล้วมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์มากเช่นกัน ทำให้เสียกำลังใจบ้างหรือไม่ พ.ต.ท. ทักษิณกล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไร ผมไม่ได้ยิน กลับมาถึงโรงแรมก็นอนเลย ทีวีก็ไม่ได้ดู หนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้อ่าน เจอแต่สื่อมวลชนที่ติดตามมานี่แหละ เมื่อถามว่าดูเหมือนการลงพื้นที่ครั้งนี้ ดูเหมือนนายกฯ จะระวังตัวมาก เพราะเกรงจะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า โอ้ ระวังมากเลย ไม่ได้เลย หายใจแรงยังมีปัญหา เพราะฉะนั้นระวังอยู่แล้ว วันนี้เวลาผมหายใจ ยังไม่กล้าหายใจแรงเลย เดี๋ยวจะหาว่าแย่งอากาศหายใจอีก

ต่อข้อถามว่า ความกลัวตรงนี้ทำให้ต้องยกเลิกการแจกเอกสารสิทธิ สปก. 4-01 โคล้านตัวด้วยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า เวลานี้ต้องระวังทุกอย่าง กินข้าวยังต้องระวังเลย


ยังพูดแขวะคนไม่ชอบรัฐบาล


จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปที่บึงทุ่งสร้าง จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจเยี่ยมและบรรยายสรุปโครงการพัฒนาบึงทุ่งสร้าง ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาด 1,700 ไร่ จากนั้นได้ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง และชุมชนเข้มแข็งที่วัดศรีสุทธาราม อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ท่ามกลางชาวบ้านหลายพันคนให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายกฯกล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ช่วงปี พ.ศ.2541-2542 ก่อนที่จะมาเป็นนายกฯแข็งแรงมาก แต่ตอนนี้เริ่มแก่แล้ว

มันบ่มีแฮง เมื่อก่อนเดินแล้วถูกดึง 2 แขนไม่เป็นไร เดี๋ยวนี้พอโดนดึงหน่อยชักเริ่มหมดแรง อายุ 57 ปี เริ่มบ่มีแฮง ใจมันสู้ แต่สังขารบ่สู้แล้ว แต่ถ้าจะให้สู้ก็สู้ ผมพูดเป็นปริศนาไปงั้นๆ ให้นักข่าวมีอะไรเขียน ถ้าเขียนบอกว่าสู้ คนค้านจะบ้าตาย ถ้าบอกไม่สู้ กองเชียร์จะแย่ เลยต้องบอกต้องสู้และไม่สู้ ส่วนการแก้ปัญหาความยากจน รัฐบาลจะเดินหน้าต่อไป แม้การเมืองจะมีปัญหาวุ่นวาย ประชาชนไม่มีหน้าที่ต้องรอคอย การเมืองให้เขาปัดแข้งปัดขากันไปไม่เป็นไร


"สังคมไทยโดนหลอกง่าย"


ต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปยังบ้านบ่อน้อย อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เพื่อดูโครงการแก้ไขปัญหาสังคม และการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมขึ้นกล่าวบนเวทีว่า ปัญหาสังคมไทยเวลานี้คือ สังคมไทยโดนหลอกง่าย แม้กระทั่งคนเรียนหนังสือสูงๆก็ยังโดนหลอกได้

คนไม่ดีมาหลอกก็ยังเชื่อ แต่ถ้ามีข้อมูลพร้อม ใครก็มาหลอกไม่ได้ อย่าว่าแต่ บ้านนอกเลย คน กทม.บางคนเรียนหนังสือสูงๆยังโดนหลอก เห็นแล้วเสียดายปริญญา และยังโดนคนไม่ดีหลอกด้วย ไม่ใช่โดนคนดีหลอก มันน่าห่วง


ลั่นปิดปากเลิกทะเลาะด่าคนอื่น


พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า บ้านเมืองถึงเวลาแล้วที่ต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะปีนี้เป็นปีมหามงคล ทุกคนจึงต้องแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการสามัคคีกัน การเมืองที่แบ่งแยกกัน อย่าไปคิดว่าจะทำให้กองเชียร์ต้องแยกกันด้วย การเมืองทะเลาะกันก็ปล่อยไป ต่อไปตนจะทำให้การเมืองเลิกทะเลาะกัน เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยที่จะได้กลับมา ใครจะทะเลาะกับผม ผมก็ไม่ทะเลาะด้วย ใครจะด่าผมก็ด่าไป ผมจะกรวดน้ำไปให้

ย้ำจะทำให้การเมืองสมานฉันท์

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า ตอนนี้กองเชียร์ชักรุนแรงขึ้น คนที่รักก็รุนแรง ไม่รักก็รุนแรง มันไม่ดี การเมืองเป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตย ที่ทุกฝ่ายอาสามาแสดงตนต่อประชาชนว่า ข้าพเจ้ามีกึ๋นแค่นี้ จะขอเป็นผู้นำประเทศจะรับไหม ถ้ารับก็เลือก ถ้าไม่รับก็ไม่เลือก คนที่ได้รับเลือกต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้ว 4 ปีก็มาตั้งต้นกันใหม่ แต่ถ้า 4 ปียังไม่มีผลงาน อย่ามาขอคะแนน วันนี้ความไม่สามัคคียังมีอยู่ จึงต้องสร้างความสามัคคีขึ้นมา การเมืองระดับชาติที่มีข่าวว่า คนโน้นคนนี้ซัดกัน ทำให้กองเชียร์เกลียดกันมากขึ้น จากนี้ไปตนจะพยายามดึงความสมานฉันท์กลับสู่สังคมไทยให้เร็วที่สุด เพื่อให้คนไทยมีความสุข เลิกทะเลาะกัน


ปลุกใจ รมต.ชาวบ้านปลื้มรัฐบาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม.ซึ่งมี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์จากศาลากลางจังหวัดขอนแก่นนั้น โดยก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายกฯได้หยิบยกเรื่องที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพบปะประชาชนใน จ.ขอนแก่น มาเล่าให้ ครม.ได้รับฟัง โดยตอนหนึ่งว่าเท่าที่ได้ลงไปเยี่ยมเยียนตรวจดูงานตามนโยบายของรัฐบาลต่างๆได้พบกับประชาชนโดยตรง

หลายโครงการประชาชนบอกว่าพอใจมาก เพราะได้รับความสะดวกทำให้มีความสุข อยากให้รัฐมนตรีที่มีโครงการ หรือผลงานในด้านต่างๆได้มาเห็นบ้าง เพราะสิ่งที่ทำลงไปมันเกิดผลกับประชาชนอย่างแท้จริง นับเป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่า เป็นความเหนื่อยแต่ชื่นใจ รัฐมนตรีหลายคนเป็นนักบริหาร ไม่ได้เป็นนักการเมือง ก็ก้มหน้าก้มตาเอาแต่ทำงานอย่างเดียว รัฐมนตรีบางคนไม่ค่อยออกมาต่างจังหวัด เลยไม่รู้ว่าผลงานออกมาอย่างไร

ดังนั้น รัฐมนตรีแต่ละคนต้องปรับตัวให้มีความเป็นนักการเมืองบ้าง โดยเมื่อทำงานอะไรแล้วก็จะต้องประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจให้ชาวบ้านรู้ รัฐมนตรีทุกคนที่เหนื่อยทำงานกันลงไป มันไม่ได้เหนื่อยเปล่า ตนพบกับชาวบ้านก็มาให้กำลังใจ บอกว่าขอให้กำลังใจให้รัฐบาลชุดนี้ได้ทำงานต่อไป


รวมข้อมูลเศรษฐกิจแจกนักวิชาการ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวด้วยว่า เรื่องบางประเด็นที่มีหลายฝ่ายยังคงวิพากษ์ วิจารณ์รัฐบาลในทางลบ เช่น เรื่องตัวเลขเศรษฐกิจ การเปิดเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ขอมอบหมายให้นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปจัดทำข้อมูลตัวเลขต่างๆที่เกี่ยวข้อง จัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน

ได้ทราบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจนั้น นอกจากจัดทำเป็นรูปเล่มให้แก่ประชาชนแล้ว ยังให้ทำเป็นรูปเล่มเฉพาะส่งไปให้ บรรดานักวิชาการ หรือระดับคณบดีตามมหาวิทยาลัยต่างๆได้ช่วยกันวิเคราะห์ เพื่อจะได้มีข้อมูลในลักษณะการเปรียบเทียบที่ชัดเจน


รอนำ พ.ร.ฎ.เปิดสภาขึ้นทูลเกล้าฯ


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางนายสุชน ชาลีเครือ รักษาการประธานวุฒิสภา ได้ส่งเรื่องการขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 15 ส.ค. มาให้รัฐบาลดำเนินการออก พ.ร.ฎ.ขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า ในเรื่องนี้ได้ สอบถามนายรองพล เจริญพันธุ์ เลขาธิการ ครม.

แล้วและได้รับการแจ้งว่า ทางประธานวุฒิสภาได้ทำเรื่องขอเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 15 ส.ค. มาแล้ว โดยทางเลขาธิการ ครม.จะได้เตรียมร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อให้นายก รัฐมนตรีได้ลงนามและนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เพื่อได้เปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 15 ส.ค. ต่อไป ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะลงนามนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯได้เลย


ป้องนายกฯไม่มีแผนแจกโค


น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายก รัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการวิจารณ์การตรวจราชการพื้นที่ภาคอีสานของนายกรัฐมนตรีเป็นการหาเสียงล่วงหน้าของรัฐบาลว่า การตรวจราชการครั้งนี้ไม่ได้แจกอะไรเลย ทั้งโคตามโครงการโคล้านตัว เอกสารสิทธิที่ดิน เป็นเพียงการมาตรวจเยี่ยมผลการทำงานของหน่วยราชการต่างๆ อะไรที่เป็นข้อดีก็จะนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

อะไรที่เป็นอุปสรรคจะนำไปปรับปรุงแก้ไข เท่าที่ตรวจราชการดูยังไม่เห็นมีอะไรที่เป็นอุปสรรคหลัก แต่มีหลายอย่างที่จะต้องปรับใช้ต่อไป รัฐธรรมนูญฉบับนี้ส่งเสริมให้คนบริหารนโยบาย ไม่ใช่ส่งเสริมให้คนคารมดี หรือไปพูดถึงคนอื่นในทางร้าย เมื่อส่งเสริมการนำเสนอให้ ประชาชนตัดสิน

การทำนโยบายจึงเป็นเรื่องสำคัญ และการพบปะประชาชนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เมื่อถามว่า มั่นใจว่าการตรวจราชการครั้งนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเลือกตั้ง น.พ.พรหมินทร์กล่าวว่า แน่นอนที่สุด รัฐบาลไม่ต้องใช้โฆษณาด้วยซ้ำ ถ้าโฆษณาในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งก็ยิ่งมีปัญหาด้วย


กรี๊ด ปชป.ก๊อบปี้นโยบาย ทรท.


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 08.00 น. ที่โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว. เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคไทยรักไทยทำนโยบายมาโดยตลอด มีนโยบายที่จับต้องและปฏิบัติได้ ส่วนนโยบายที่จะเพิ่มเติม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องรอให้ถึงเวลาใกล้เลือกตั้งก่อน ต้องรอช่วงเวลาที่เหมาะสม

ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกลอกเลียนแบบได้อีก ส่วนนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศ เป็นนโยบายที่พรรคไทยรักไทยปฏิบัติอยู่แล้ว แต่เอามาประกาศใหม่ ไปแต่งหน้าแต่งหลังใหม่นิดหน่อย เพราะฉะนั้นไม่ใช่อะไรที่ใหม่เกินความคาดหมายจึงไม่หนักใจอะไร แต่หนักใจข่าวลือ ข่าวปล่อย เรื่องโกหก ที่เอามาใส่ร้าย ซึ่งต้องสกัดไม่ให้แพร่กระจายออกไป อย่างไรก็ตามไม่คลุมเครือในการชู พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ แต่ยังไม่ถึงเวลารณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง



แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์