´ทักษิณ´อ้างหลวงปู่อยากให้เป็นนายกฯช่วยคนจน

9 สิงหาคม 2549 16:57 น.
´ทักษิณ´ โอ่ตราบใดเป็นนายกฯ งบ SML ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ความยากจน ปลื้ม"อาจสามารถโมเดล"คืบหน้ามาก มีหวังหายจนเสียที โวซ้ำจะกลับไปปลุกเสกฝนเทียมมาให้ เพ้อหาอดีต"เฒ่าบุญมา" ยกย่องให้เป็นนายกฯของคนจน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการ นายกรัฐมนตรี ไปติดตามความคืบหน้าโครงการขุดลอกห้วยไส้ไก่ ต.หน่อม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีประชาชนมาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า งานแก้ไขปัญหาความยากจน มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งเกิดจากความกระตือรือร้นของประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานราชการที่ร่วมกันทำงาน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ส่วนในเรื่องการแก้ไขปัญหาระบบน้ำ ของ อ.อาจสามารถ ซึ่งได้ตั้งงบประมาณ ปี 2549 -2550 เพื่อแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ ซึ่งคาดว่าภายใน 2 ปี ทุกอย่างจะเรียบร้อย

ทั้งนี้ จะมีการสร้างเขื่อนยางด้วย และได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำคู่มืออาจสามารถโมเดล เพื่อนำไปประกอบการอบรม ในอำเภอทั่วประเทศให้เป็นคู่มือแก้จน โดยเดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

จากนั้น เวลา 14.20 น. พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปยังบ้านโพนทัน ต.คงครั่งใหญ่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เพื่อไปติดตามความคืบหน้า โครงการเกษตรครบวงจร (คิบบุตซ์) ทุ่งกุลาร้องไห้ โดยมีประชาชนประมาณ 3,000 คน มารอให้การต้อนรับ

โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้ากราบนมัสการ พระบุญมาอภินันโท อายุ 75 ปี จากวัดป่าสันติธรรม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งพระบุญมา สมัยที่เป็นฆารวาส เป็นผู้จุดประกายให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีของคนจน โดยได้บวชมา 2 เดือนกว่าแล้ว ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สอบถามว่า หลวงปู่ได้จำเหตุการณ์ที่เคยพบกับตน แล้วบอกให้เป็นนายกรัฐมสตรีคนจนได้หรือไม่ หลวงปู่ บอกว่า จำได้เสมอ และขออย่าให้ทิ้งคนจน ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีสำหรับคนจนต่อไป ซึ่งก็บวชมาได้ 2 เดือนแล้ว แล้ว จะอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ต่อไป

ซึ่งก็คิดถึงนายกฯ ชาวบ้านก็คิดถึงนายกฯ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งสมัยที่เจอนายกฯ ตอนเป็นฆารวาส ก็ไม่เห็นใครช่วยคนจนได้ เห็นนายกฯ ก็คิดว่า น่าจะช่วยได้ วันที่ไปเจอแล้วบอกให้เป็นนายกฯ สำหรับคนจน ก็ไม่คิดว่าจะเจออีก และเห็นว่าอยากจะเจออาตมา มานาน ครั้งนี้ก็เจอเสียที ก็อยากให้เป็นนายกฯ ต่อไป

ในขณะที่ เจ้าอาวาสวัดประทุมรัตน์ ได้มอบหนังสือตามรอยธรรมกาย เขียนโดยพระครูภาวนามงคล และมอบเหรียญสมเด็จวัดระฆัง รุ่นสร้างพระนครปฐม เรียกว่า "ร.4 หัวโต" ให้กับนายกฯ พร้อมกับผูกสายสินที่ข้อมือให้นายกฯ และบริกรรมคาถา ให้นายกฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

จากนั้น พ.ต.ทักษิณ ได้กล่าวปราศรัย กับประชาชน ว่า การที่ทุกคนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก แสดงว่า มาด้วยใจ ซึ่งตนเป็นคนสำนึกในบุญคุณคน วันนี้ตนเป็นนายกฯ ประชาชนมาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก ก็แสดงออกถึงความเต็มใจที่จะต้อนรับ เลยรู้สึกว่า จะต้องดูแล พัฒนาให้ชีวิตของทุกคน มีคุณภาพยิ่งขึ้น

"ผมมาเกษตรวิสัยครั้งแรก ก่อนเป็นนายกฯ มาหาเสียงเลือกตั้ง ก็ได้พบกับหลวงปู่บุญมาที่ขณะนั้นยังเป็นฆารวาส ชาวบ้านก็เคียนผ้าขาวม้าจากหัวถึงคอ จนรู้สึกว่า ไม่ไหวแล้ว หลวงปู่บุญมาขณะที่เป็นฆารวาส ก็มานั่งยอง ๆ ยกมือไหว้ให้เป็นนายกฯ คนจน ก็ทำให้ตนรู้สึกว่า ต้องทำหน้าที่และช่วยเหลือคนจน และครั้งแรกในการเป็นรัฐบาล นโยบายแรกคือการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งเกิดขึ้นที่อ.เกษตรวิสัย เป็นครั้งแรก ตนต้องขอขอบคุณหลวงปู่เป็นอย่างมากที่จุดประกายให้"

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า การเดินทางมาครั้งที่แล้ว ได้อนุมัติถนนลาดยาง 70 กิโลเมตร มาครั้งนี้ ก็คิดว่าจะทำอย่างไร ให้ทุ่งกุลาเลิกร้องไห้ ซึ่งคงต้องดูแล 2 เรื่องใหญ่ คือ 1.ได้สั่งการให้อธิบดีกรมชลดูเรื่องน้ำในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เพราะเป็นพื้นที่ ๆ มีน้ำไหลผ่าน แต่ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ก็ให้ไปคิดมา ว่าทำอย่างไร ให้ทุ่งกุลาทำนาได้ปีละ 2 ครั้งอย่างยั่งยืน แต่ปัญหาเฉพาะหน้าก็ได้ประสานให้ รมว.เกษตรฯ ทำฝนเทียมเป็นการเร่งด่วน เพราะขณะนี้แห้งแล้งมาก และ

2.ตนได้คุยกับนักธุรกิจ จ.ร้อยเอ็ดว่า จะสนับสนุนการสร้างแบรนด์ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา เพื่อให้มียี่ห้อ เพื่อที่ผลประโยชน์จะได้ตกอยู่กับเกษตรกร โดยรัฐบาล จะเร่งสนับสนุนโครงการเกษตรครบวงจร (คิบบุตซ์) เพื่อให้ทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรใช้เกษตรอินทรีย์ แบบใหม่ที่ใช้น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดมาทำการเกษตร ต่อไปนี้รัฐบาลจะเข้ามาสนับสนุนมากขึ้น รัฐบาลจะพัฒนาพื้นที่ 2 ล้านกว่าไร่ให้ดีที่สุด

"ตราบใดที่ผมเป็นนายกฯ งบ SML ยังมีอยู่ และจะทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างจริงจัง อาจสามารถ ก็คืบหน้าดีมาก ผมหวังว่า พวกท่านจะหายจนเสียที และมาคราวนี้ก็จะกลับไปปลุกเสกฝนเทียมมาให้ ความจริงเรายังมีเวลาอีก 2 ปี แต่บังเอิญมีปัญหาทางการเมือง ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณ มีปัญหา แต่ผมหวังว่า หลังการเลือกตั้งเสร็จ ทุกอย่างจะคืนสู่สภาพปกติ" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

จากนั้นนายกฯ ได้กล่าวติดตลกว่า "ปีนี้ ผมอายุ 57 แล้ว บ่ มี เฮง แก่ไปเยอะ แรงถอยไปเยอะ เลยต้องเอา บรู๊ค (ดนุพร ปุณณกันต์ ) มาช่วย ไม่รู้ว่าบรู๊คจะถูกกักตัวอยู่ที่นี่หรือเปล่า กบเรียกหาหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้ขอให้ทุกคนตั้งใจทำมาหากิน ไม่ต้องห่วงรัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ โดยขอให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ขยันทำมาหากิน "

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขึ้นเครื่องไทยคู่ฟ้า กลับกรุงเทพฯ