ลุ้นบิ๊กป๊อกฟ้องคนปูดโยงยิงสนธิหรือไม่สัปดาห์หน้า

ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่นำชื่อไปเชื่อมโยงกับการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายดูแลว่าจะทำอะไรได้บ้าง ตนไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องกฎหมายว่าการพูดลักษณะใดสามารถฟ้องร้องได้บ้าง แต่จะพิจารณาใช้สิทธิตามกฎหมายแน่นอน คิดว่าสัปดาห์หน้าคงรู้ผลว่าจะตัดสินใจอย่างไร

 


เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของกระสุนหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกว่า มีหนังสือฉบับหนึ่งของผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน

ขอรายละเอียดเกี่ยวกับเลขงานกระสุน 06 กับ 07 ของกระสุน 5.56 มม. ซึ่งเป็นกระสุนของปืนเอ็ม 16 มา 1 ฉบับ เพื่อขอรายละเอียดว่ากระสุนล็อตนี้มีเลขงานอะไรบ้าง ซึ่งขณะนี้กรมสรรพาวุธกำลังเตรียมหลักฐานข้อมูลว่า กระสุนเลขงาน 06 กับ 07 มีเลขงานย่อยทั้ง 2 ล็อตนี้อะไรบ้าง ทั้งนี้ กองพิสูจน์หลักฐานของตำรวจได้ร้องขอตรงไปยังกรมสรรพาวุธทหารบก ตนได้ให้กรมสรรพาวุธตอบให้ความร่วมมือไป




เมื่อถามถึงกรณีที่คนร้ายก่อเหตุปล้นร้านทองที่ จ.ชลบุรี โดยคนร้ายอ้างว่ากระสุนที่ใช้ซื้อมาจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องดี

แต่ถ้าเอามาจากหน่วย ความยากที่จะตรวจสอบคือกระสุนที่จ่ายออกไปแต่ละล็อตผลิตเป็นหมื่นนัด บางทีจ่ายไปในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 หรือกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9)  จ.กาญจนบุรี ถือว่าเป็นหน่วยกว้าง แต่เรายินดีที่ให้ตำรวจไปสอบสวนว่า จ่ายไปที่ใครบ้าง ถือเป็นเรื่องยากที่จะไประบุว่ารั่วมาจากจุดใด หากกล่าวอ้างว่าซื้อมาจากใคร เราจะสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นต้องถามคนร้ายว่าซื้อมาจากใคร คนพวกนี้จะมีความผิดทางกฎหมายและอาญา

 
เมื่อถามว่า การซื้อขายอาวุธของกองทัพให้คนร้ายง่ายเกินไปหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กระสุนที่สามารถรั่วไหลได้มี 2 ส่วน

คือ กระสุนจากการฝึก และ กระสุนที่นำไปปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดน ซึ่งทั้งสองส่วนมีจุดที่จะรั่วไหลได้คือ ในการฝึกบางฝึกเมื่อฝึกเสร็จแล้วอาจมีการสอบสวนในเรื่องไม่สามารถส่งคืนปลอกกระสุนได้ ซึ่งจะต้องมีการสอบสวน หากผลการสอบสวนออกมาว่า ขอจำหน่ายกระสุน 100 นัด และไม่สามารถส่งคืนปลอกได้ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่จะทำให้กระสุนรั่วไหลได้ซึ่งตนได้เรียกเจ้ากรมสรรพาวุธ และเจ้ากรมยุทธการมากำชับแล้วว่าเราต้องเด็ดขาด และไม่มีการจำหน่ายกระสุนใดเลย


 “สมมุติเอากระสุนไปฝึกยิง 100 นัด ก็ต้องส่งปลอกคืน 100 นัด ขาดไม่ได้เลยแม้แต่นัดเดียว หน่วยก็จะไม่น่าทำได้เลยในส่วนนี้ ส่วนการนำกระสุนไปปฏิบัติตามแนวชายแดน เช่น จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากเราบอกว่า ยิงกระสุนทุกนัดต้องคืนปลอก นัดเดียวก็ขาดไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการได้หรือไม่ ผมไม่แน่ใจ เพราะไม่ใช่ว่าสักแต่จะสั่ง เพราะเขาอาจจะทำไม่ได้ หากทำได้ อาจจะมีจุดรั่วได้ แม้ว่ากระสุนที่เล็ดรอดไป ทำให้หน่วยงานนั้นๆ เสียหายก็ไม่เป็นไร เพราะไม่มีทางเลี่ยงอย่างอื่น หากเกิดขึ้นแล้วรู้ที่มาจะยิ่งง่าย ซื้อจากใครต้องรู้ และตำรวจต้องสืบและสอบสวนไป หากบอกว่า ซื้อจากข้าราชการ ก. ข. ค. ง.ก็ดำเนินคดี คนพวกนี้ก็จะหมดไป ซึ่งคนทำเช่นนี้มีไม่มาก และเรื่องกระสุนเล็ดรอดไม่ได้เพิ่งเกิด แต่เกิดมานานแล้ว บางครั้ง 5 นัด 10 นัด แต่เขาไม่ได้ขนไปเป็นขบวนการ ” พล.อ.อนุพงษ์ ระบุ

ด้านพล.ต.อ.พัชรวาท   วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  กล่าวถึงคดีคนร้ายลอบสังหารนายสนธิ   ว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามปิดคดีให้ได้โดยเร็ว

ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ระดมกำลังทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนเข้าคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่ในทุกประเด็น แต่จะมีข่าวดีในเร็วๆนี้หรือไม่ต้องไปสอบถาม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ที่ตนเองมอบหมายให้เข้าไปควบคุมการสืบสวนสอบสวน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์