ผบ.ตร.กำชับคุมเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ งัดมาตรการดูแลเข้ม

เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา (4 พ.ค.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยคุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

เดินทางเข้าพบนายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยภายหลังการเข้าพบประมาณครึ่งชั่วโมงคุณหญิง พญ.พรทิพย์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ขณะที่พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ว่ามีการหารือในส่วนคดีต่างๆที่ค้างอยู่ภายในการดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)เพื่อให้ระยะเวลาในการดำเนินคดีสั้นและให้นิติวิทยาศาสตร์เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

นอกจากนี้ผบ.ตร.กล่าวถึงการเตรียมการรับมือการชุมนุมของกลุ่มนปช.หรือคนเสื้อแดงในวันที่ 10 พ.ค.นี้ว่า ความพร้อมในการรับมือของฝ่ายตำรวจตนได้มอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้องไป เตรียมการ

ทั้งนี้ควรจะใช้มาตรการที่เข้มแข็งขึ้น โดยตำรวจนครบาลก็จะมีการประชุมหารือในเวลา15.00 น.วันนี้ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานข่าวว่าคนเสื้อแดงจะเดินทางไปป่วนการประชุมรัฐมนตรี สาธารณสุขอาเซียนแต่อย่างใด เมื่อถามว่าหนักใจกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ก็เป็นประชาชนเหมือนกัน ก็สามารถแสดงออกได้ แต่มาตรการควรจะต้องเข้มขึ้น

วันเดียวกันนี้? พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก (นขต.) ประจำเดือนพฤษภาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก

โดยมีผู้บัญชาการหน่วยและผู้บังคับกองพันทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม จากนั้นพ.อ.ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุม พล.อ.อนุพงษ์ ได้กล่าวถึงบทบาทกองทัพบกในการดูแลสถานการณ์บ้านเมืองให้เกิดความเรียบร้อย ว่าปัญหาเร่งด่วนที่เกิดในสังคมไทยขณะนี้ คือ ความแตกแยก ซึ่งกองทัพบกเป็นสถาบันหลักที่มีศักยภาพที่จะช่วยคลี่คลายปัญหาได้ ด้วยการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคม

ผู้บัญชาการทหารบกสั่งการให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับจนถึงผู้บังคับกองพันต้อง ให้ความสำคัญกับการช่วยลดความแตกแยกของคนในสังคม

และสร้างสังคมให้มีความสมานสามัคคีในทุกวิถีทาง โดยให้ผู้บังคับหน่วยลงไปกำกับดูแลด้วยตนเอง และใช้ชุดวิทยากรจากโครงการสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ เข้าไปรับรู้ปัญหาประชาชนขณะนี้ เสริมด้วยการจัดคณะชี้แจงสถานการณ์จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราช อาณาจักร (กอ.รมน.) ลงพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่เฉพาะภาคอีสานหรือภาคเหนือ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนถึงข้อเท็จจริงตั้งแต่การชุมนุม การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจและทหารในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อลดความแตกแยก รวมชี้แจงบทบาทกองทัพในการประคับประคองสถานการณ์ของประเทศให้มั่นคง?รองโฆษกกองทัพบกกล่าว

พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวต่อไปว่า พล.อ.อนุพงษ์ ให้แนวทางชี้แจงกับประชาชน โดยยืนยันจุดยืนกองทัพบกว่าเป็นทหารของชาติ

และเป็นทหารในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การดำเนินการทุกอย่างของกองทัพบก เพื่อประชาชนและความมั่นคงของชาติเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นอกจากนี้ คณะทำงานจะรับฟังความเห็นของประชาชน เพื่อชี้แจงผู้บังคับบัญชาให้รับทราบ เพื่อประเมินและปรับข้อมูลให้สอดคล้อง

พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการสู้วิกฤตจากการลงพื้นที่พบว่ามีกว่า 100 เรื่องที่ดำเนินการไปแล้ว

ส่วนเรื่องที่ยังไม่สามารถแก้ไขในพื้นที่ก็จะนำเรื่องมาประสานเรื่องขึ้นมา จากกองทัพภาค มาที่กองทัพ ประสานไปยัง กอ.รมน. เพื่อพิจารณาของบประมาณรัฐบาลในการช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ ปัญหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องการบุกรุกที่ดิน ปัญหาเกษตร ปัญหาการศึกษา ปัญหาความยากจน