ปชป.โต้เดือดแถลงการณ์ทักษิณมุ่งสร้างความขัดแย้ง

วันนี้ (2 พ.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 พรรคมองว่า เป็นการเปลี่ยนแนวทางจากการเคลื่อนไหวแบบเดิมเพราะสังคมไทยปฏิเสธการใช้ความรุนแรงและการยั่วยุปลุกปั่น โดยประชาชนที่เคยสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ รู้สึกว่า ตกเป็นเหยื่อใช้ในการเคลื่อนไหว ดังนั้นจำเป็นต้องใช้วิธีการดึงมวลชนกลับคืนมาผ่านการเคลื่อนไหวในแบบต่างๆ ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ และนายจักรภพ เพ็ญแข เคยระบุไว้ว่า จะไม่ยุติการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ซึ่งพรรคเห็นว่าเป็นการทำส่วนบุคคลแค่ 2 คน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคฝ่ายค้านหรือกลุ่มการเมืองที่ขณะนี้กำลังเดินเข้าสู่กระบวนการสมานฉันท์ที่รัฐบาลเปิดให้แล้ว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อไปว่า ขอถามไปยังพ.ต.ท.ทักษิณ 5 ข้อคือ

1. ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า ตัวเองสนับสนุนการกระทำเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ ขอถามว่า เมื่อเกิดเหตุจลาจลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. ทำไมไม่มีสักครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอินมาเพื่อบอกมวลชนเหล่านี้ให้หยุดการจลาจล 2.ที่ระบุว่า ต้องการความปรองดองและทุกฝ่ายแสดงความใจกว้าง อยากถามว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่ปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกมาโดยตลอด โดยบังคับให้คนเลือกข้าง มีการพูดพาดพิงจาบจ้วงไม่เว้นสถาบันองคมนตรี รวมถึงการเลือกปฏิบัติโดยไม่ให้งบประมาณในพื้นที่ ที่ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองของตัวเอง 3.การที่ระบุว่า ไม่ต้องการตัวเองและประชาชนตกเป็นของการใส่ร้ายป้ายสี อยากถามกลับว่า ทำไมในการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศหลายครั้งจึงมีการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาสู่การขัดแย้งทางการเมืองหลายครั้ง

นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า 4.การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอ้างว่า คิดถึงเมืองไทย จึงอยากถามว่า ทำไมการเคลื่อนไหวทุกครั้ง กลับเป็นการซ้ำเติมประเทศที่บอบช้ำจากวิกฤตเศรษฐกิจอยู่แล้ว โดยการลดความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการ องคมนตรี ในสายตาชาวโลกอย่างต่อเนื่อง เหตุที่ทำลายสถาบันเหล่านี้ เพราะเขาไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณ ในสมัยที่ตัวเองยังมีอำนาจใช่หรือไม่ รวมทั้งขณะนี้มีการว่าจ้างบริษัท ล็อบบี้ ยิสต์ เพื่อดำเนินการทางการเมืองอย่างต่อเนื่องใช่หรือไม่ ข้อนี้ขอถามผ่าน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมายไปยังพ.ต.ท.ทักษิณด้วย และ 5.ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า เป็นการทำเพื่อรักษาประชาธิปไตย อยากถามว่า ตอนมีอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี เหตุใดรัฐบาลถึงใช้อำนาจแทรกแซง ทำลายกลไกตรวจสอบถ่วงดุลในระบอบประชาธิปไตยทุกวิถีทาง รวมถึงวุฒิสภาและองกรอิสระ โดยเริ่มพฤติกรรม 2 มาตรฐานโดยการทุจริตเชิงนโยบายเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ใช้อำนาจคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วยทางการเมือง รวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน

คำถามทั้ง 5 ข้อนี้ เชื่อว่าประชาชนและสังคมจะรับรู้ถึงการพูดกลับไป กลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ และใช้วิจารณญาณคิดพิจารณาว่า พฤติกรรมของคนที่ทำตรงข้ามกับคำพูด มีความต้องการหรือเห็นประเทศชาติสมานฉันท์จริงหรือไม่อย่างไร? นพ.บุรณัชย์ กล่าว