คำนูณ แนะ อภิสิทธิ์ จับมือ เนวิน ระบุขาดกันไม่ได้

รัฐสภา 1 พ.ค. – วุฒิสภาอภิปรายรัฐบาล ส.ว.เจ้าของญัตติแฉ 4 กลุ่มจับมือเบื้องหลังเหตุวุ่นวายทางการเมือง ด้าน "คำนูณ" แนะนายกรัฐมนตรีจับมือ “เนวิน ชิดชอบ” ป้องกัน “พ.ต.ท.ทักษิณ” กลับมาพลิกชนะ ระบุจะขาดกันไม่ได้ ถ้าหวังที่จะอยู่รอดกันทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในวันนี้ (1 พ.ค.) ได้มีการประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป

เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ที่ ส.ว. 51 คน เข้าชื่อเสนอตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 โดยมี นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม และมีการถ่ายทอดสดการประชุมทางวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา และสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีช่อง 11

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ผู้เสนอญัตติ ได้อภิปรายว่า สถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา

จนมีการยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา ทำให้ประเทศเสียหายมาก แต่อีกด้านหนึ่งสะท้อนว่า รัฐบาลบริหารจัดการสถานการณ์ไม่มีประสิทธิภาพ หน่วยข่าวกรองล้มเหลว เพราะมีข่าวจะระดมมวลชนเพื่อโค่นล้มรัฐบาล โดยมีการรับเงิน 2 ครั้งๆ ละ 100 ล้านบาท ที่สำนักงานย่านรามคำแหง โดยครั้งแรกมี นาย “ก” และครั้งที่ 2 มี น.ส. “ย” เป็นผู้รับเงิน จากนั้น มีการปลุกระดมผ่านวิดีโอ ลิงค์กล่าวหาประธานองคมนตรี ประธานศาลว่า อยู่เบื้องหลังรัฐประหาร นอกจากนี้ รัฐบาลยังปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวอ้างให้ทุกคนลุกขึ้นสู่กับอำมาตยาธิปไตย ใช้สื่อปลุกมวลชน ปลุกให้มีการแบ่งแยกทางชนชั้น ใช้สื่อต่างประเทศโจมตีประเทศ ทั้งหมดนี้เป็นแผนตากสินและแผนการปลุกระดมมวลชน

นายสมชาย กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งหมดพบว่า บุคคลที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นั้น แบ่งเป็น 4 กลุ่ม

คือ กลุ่มบุคคลที่เคยเป็นอดีตคอมมิวนิสต์ที่มีบทบาททางวิชาการ เช่น เอ็นจีโอ สื่อมวลชน กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 และกลุ่มปัญญาชนรุ่นใหม่ที่ใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือ ทำงานสอดรับกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีเป้าหมายโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้เป็นระบบสาธารณรัฐ โดยใช้แนวทางคอมมิวนิสต์ในการทำงาน จึงต้องการให้รัฐบาลชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนไทยและต่างประเทศเข้าใจมากกว่านี้

ด้าน นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนที่นายกรัฐมนตรีต้องทำ คือ การปกป้องสถาบันสูงสุดของประเทศ โดยบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อย่างเร่งด่วน และต้องใช้สื่อให้มากขึ้น โดยต้องพูดถึงสาเหตุของปรากฏการณ์ต่างๆ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับทุกฝ่าย โดยเริ่มจากการปฏิรูปตำรวจทั้งคนและระบบ

นายคำนูณ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องจับเข่าคุยกับ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย อย่างตรงไปตรงมา เพื่อยุติการเมืองที่ล้มเหลว

เพราะขณะนี้การเมืองไทยได้เกิดอำนาจ 3 ขา คือ 1.นายกรัฐมนตรีสามารถกุมหัวใจคนในเมือง 2. นายเนวินสามารถกุมหัวใจของคนในชนบท แทนที่อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยใช้นโยบายประชานิยมในชนบท 3.ทหารและพลเรือนสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ ทำให้ทหารปัจจุบันไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร ดังนั้น นายกรัฐมนตรีและนายเนวินคงขาดกันไม่ได้ ถ้าหวังที่จะอยู่รอดกันทั้งหมด แต่หากนายกรัฐมนตรีล้มเหลว รวมทั้งผลักไสนายเนวินออกไป ฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ จะพลิกกับมาชนะทันที.- สำนักข่าวไทย