เทพไทอัด พท.เบี่ยงประเด็นหากินกับศพ ท.

วันนี้ (27 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

แถลงถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยมีความพยายามในการพิสูจน์การเสียชีวิตของ พลทหารอภินพ เครือสุข ที่บ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 ว่า พลทหารคนดังกล่าวเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เม.ย.จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปพักที่บ้านของแม่ทัพภาค 1 เพราะเป็นเพียงพลทหารที่ดูแลบ้าน จึงเชื่อว่าเป็นความพยายามสร้างหลักฐานของฝ่ายตรงข้ามเพื่อดิสเครดิตการบริหารงานของรัฐบาล จึงตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีเหตุจำเป็นอะไรต้องฆ่าพลทหารคนดังกล่าวหากไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ เพราะไม่ได้มีพิษภัย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง แต่หากจะมีการฆ่าจริงเชื่อว่าน่าจะเป็นฝ่ายตรงข้าม ที่ต้องการจัดการบุคคลรอบข้างก่อนเข้ามาถึงตัวนายกฯ

นายเทพไท กล่าวต่อว่า จากการเสียชีวิตของพลทหารคนดังกล่าวญาติของผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจ

แต่เหมือนมีคนไปยุแหย่จนท้ายที่สุดต้องนำศพมาพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิยาศาสตร์ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเพราะเหตุใด ส.ส.พรรคเพื่อไทยจึงได้ให้ความสนใจมากกว่าญาติพี่น้องของผู้ตายร่วมถึงการพยายามจะเข้าไปร่วมพิสูจน์ด้วย ทั้งที่ผิดหลักเกณฑ์ของสภาบันที่ได้รับความน่าเชื่อถือของประเทศ จนเกิดการโต้เถียงกันกับเข้าหน้าที่ ซึ่งคนเหล่านี้คงเคยชินกันการเข้าแทรกแซงองค์กรต่างๆ จึงคิดว่าสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะแทรกแซงได้

นายเทพไทย กล่าวเพิ่มว่า หลังจากเกิดเหตุกลุ่มเสื้อแดงก่อการจลาจลและมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บรายหนึ่งที่ย่านนางเลิ้ง ได้เข้าไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี จากนั้นปรากฎว่ามีแกนนำกลุ่มเสื้อแดงได้เข้าไปเกลี้ยกล่อมให้บอกว่า เป็นการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงและถูกทหารยิงจนได้รับบาดเจ็บ แต่ชายคนดังกล่าวไม่คล้อยตาม กลุ่มแกนนำจึงได้มอบนามบัตรไว้ให้ ซึ่งเป็นนามบัตรในฐานะตัวแทนขององค์กรประกอบด้วย สมาพันธ์ประชาธิปไตย มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยและมูลนิธิ 111 พรรคไทยรักไทย ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นความพยายามในการสร้างหลักฐานและหาเหตุผล มาเพื่อทำลายความเชื่อของรัฐบาล ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการพาผู้ได้รับบาดเจ็บมาเปิดเผยต่อไป

นายเทพไทย กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายอภิสิทธิ์ ได้มอบหมายให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าคณะทำงานในการศึกษาและรวบรวมประเด็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดยหลังจากนี้คงจะได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาประเด็นและรายละเอียดในการแก้ไข และในการประชุมส.ส.พรรควันที่ 28 เม.ย.นี้ในพรรคคงจะได้มีการหารือประเด็นกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเบื้องต้นพรรคไม่เห็นด้วยที่จะมีการนิโทษกรรมนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง กับคดีอาญา แต่คดีทางการเมืองต้องมาพิจารณาว่าจะมีทางออกที่เหมาะสมอย่างไร ส่วนการเรียกร้องของพรรคเพื่อไทยให้เอารัฐธรรมนูญปี 40 มาเป็นตัวยกร่างนั้น คงไม่สามารถทำได้เพราะจะขัดรัฐธรรมนูญ และสาเหตุที่พรรคฝ่ายค้านต้องการให้เอาปี 40 มาเป็นต้นแบบเพราะ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดโอกาสให้กลุ่มคนเหล่านี้เข้ามามีอำนาจและอาศัยช่องทาง ของกฎหมายในการทุจริตคอร์รัปชั่น และแทรกแซงองค์กรอิสระ