หลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศสลายการชุมนุม ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ และแยกย้ายกันกลับบ้าน
ก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ ที่เป็นกิจจะลักษณะอีกเลย แม้ว่าการเมืองหลังจากนั้น จะปั่นป่วนวุ่นวายมาตลอด
"สุริยะใส" ชี้แจงเหตุผล ว่า ความสับสน และซับซ้อนของสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นสาเหตุที่ทำให้พันธมิตรนิ่งได้ถึงเพียงนี้ ตั้งแต่ช่วง นปช.ชุมนุม มาจนช่วงการประชุมอาเซียน พันธมิตรได้ประชุมกัน ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าทุกครั้ง เห็นคล้ายๆ กันว่า สถานการณ์ขณะนี้ซับซ้อนมาก การกำหนดท่าทีจึงต้องละเอียดอ่อน พันธมิตรเลยไม่ออก
"หลังเกิดเหตุลอบสังหารคุณสนธิ (ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร) มันยิ่งตอกย้ำความเชื่อ และสมมติฐานของเรา ที่ว่า มันไม่ใช่แค่แดงกับเหลือง ตอนนี้การเมืองภาคประชาชนเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่ามีกลุ่มอำนาจไม่ทราบฝ่ายเข้ามา เราไม่ควรออกมาเป็นเบี้ย หรือ ฝีแตก ถ้าต้องเป็นเครื่องมือของกลุ่มอำนาจไม่ทราบฝ่าย เรานิ่งดีกว่า"
ผู้ประสานงานพันธมิตรบอกอีกว่า พันธมิตรเลือกใช้เวลานี้ กลับมาจัดการองค์กรใหม่ให้เป็นระบบ เป็นเอกภาพ ให้มีความเป็นองค์กรมากขึ้น พูดคุยกันถี่มากขึ้น ยามนี้จึงไม่มีอะไรสำคัญและดีไปกว่า การพูดคุยกันภายใน และการสะสมกำลัง การสะสมความเข้าใจ ข้อมูลที่ถูกต้อง
หลังยุติการชุมนุม แกนนำยังคงเจอกันบ่อยๆ แบบไม่เป็นข่าว การสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ถือว่าถี่ขึ้นมากกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ
สำหรับการเดินสายจัดคอนเสิร์ตการเมือง ด้านหนึ่งเป็นการรักษากระแสความตื่นตัว เพราะมวลชนพันธมิตรมีหลายระดับ ระดับแกนนำก็ต้องใช้รูปแบบหนึ่ง ระดับมวลชน ก็ต้องใช้เวทีเปิด เพื่อให้ได้แสดงออก ทำกิจกรรมร่วมกัน พบปะพูดคุยกัน
"ในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ เราจะจัดงานใหญ่ จะมีการสัมมนาแกนนำพันธมิตรทั่วประเทศ 76 จังหวัด โดยจะมีแกนนำมาจังหวัดละ 10 คน รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 คน เพื่อร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์"
เขาการันตี ว่า วันนี้มวลชนพันธมิตร มีพัฒนาการทางความคิด คนที่เรียกกันว่า พ่อยกแม่ยก อยู่หน้าเวที วันนี้มาเสนอแนวคิดมากมาย ทั้งเขียนจดหมายเปิดผนึก เขียนอี-เมล ส่งแมสเสจ เป็นความเห็นล้วนๆ และมีประโยชน์
ก่อนจากกัน "สุริยะใส" ทิ้งทายถึงแนวคิดตั้งพรรคพันธมิตร ไว้ค่อนข้างน่าสนใจ
"ยังไม่หยุด แต่ต้องคิดมากขึ้น ไม่นั้นจะกลายเป็นแค่ขั้วอำนาจ ตกอยู่ในเกมชิงอำนาจ เหนื่อยเปล่า ไม่คุ้ม ถ้าคิดทำพรรค แล้วยังอยู่ในโมเดลทุนการเมือง เราก็แพ้ เพราะไม่มีทางระดมเงินได้เป็นพันล้านหมื่นล้าน"
"แต่กับสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้ อาจต้องถึงขั้นชะลอ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าจะก้าวข้ามสถานการณ์แบบนี้ไปได้ คงนานพอสมควร"...