ปฐมพงษ์แนะคลายปมสังหารเชื่อสนธิไม่อยู่เฉยเร่งกองทัพพิสูจน์ อัศวินล้อเล่นบอกจับคนร้ายได้ใน7วัน


"สนธิ"ออกจาก รพ.กลับบ้านแล้วหลังถูกถล่มด้วยอาวุธสงครามรอดหวุดหวิดท่ามกลางการอารักขาเพียบ ส่วนคนขับอาการทรงตัว "ปฐมพงษ์"แนะคลายปมสังหารเชื่อแกนนำพธม.ไม่อยู่เฉย ให้กองทัพตั้งคณะกรรมการสอบเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ตร.ยังไม่ระบุคนมีสีเป็นคนลงมือ "อัศวิน"โวจับคนร้ายได้ใน7วัน

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์แล้ว เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 เมษายน หลังจากเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บ จากการถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มร่วม 100 นัด ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางการวางกำลังตำรวจอารักขา และรักษาความปลอดภัยโดยรอบบริเวณโรงพยาบาล จากกองบังคับการตำรวจนครบาล และหน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 ทั้งในและนอกเครื่องแบบรวมกว่า 60 นาย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มพันธมิตรไปคอยให้กำลังใจ และรอส่งนายสนธิออกจากโรงพยาบาลด้วย
จากนั้นนายสนธิเดินทางไปยังบ้านพระอาทิตย์ และเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์จตุคามรามเทพ พระมหาอุปคุต แม่พระธรณี ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน พระภูมิเจ้าที่ และไหว้รูปนางไชย้ง ลิ้มทองกุล มารดาก่อนไปพักผ่อนภายในบ้านพระอาทิตย์

สำหรับนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถนายสนธินั้น รศ.นพ.ธีระพงษ์ เจริญวิทย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า ยังทรงตัว หายใจเองได้ปกติ รับประทานอาหารได้ พูดคุยได้ สามารถขยับร่างกายรวมถึงตอบสนองคำสั่งต่างๆ ได้ดี แต่แขนขายังอ่อนแรงเช่นเดิม และต้องรอดูอาการอีกสักระยะ ในส่วนการบาดเจ็บในจุดอื่นๆ ที่ต้องรับการผ่าตัดนั้นต้องรอให้อาการทางสมองดีขึ้นกว่านี้ก่อน จึงจะทำการรักษาต่อไป 

พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และแนวร่วมพันธมิตรให้สัมภาษณ์ทางรายการ "ลับลวงพราง" ทางวิทยุคลื่นเอฟเอ็ม 100.5 กล่าวกรณีที่คนในกองทัพถูกเพ่งเล็ง กล่าวหามีส่วนเกี่ยวกับการลอบสังหารนายสนธิว่า เรื่องนี้จะเพิกเฉยไม่ได้จะต้องมีการสืบหาความจริงมาให้ได้ เพราะปัจจุบันสื่อค่อนข้างเปิดกว้าง ถ้าสืบหาข้อมูลไม่ได้นานาประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้านก็จะเกิดความรู้สึกหวาดระแวง เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะเดียวกันคนที่นิยมชมชอบนายสนธิก็คงไม่อยู่เฉย

เมื่อถามว่า การปฏิบัติการครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของคนมีสีอย่างที่พันธมิตรตั้งข้อสังเกตหรือไม่ พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่าใครจะมีโอกาสซ้อมยิงปืนที่ใช้ยิงนี้มากที่สุด ใครจะมีอาวุธแบบนี้เป็นอาวุธสงครามและกระสุนที่ใช้ก็มีจำนวนมากพอ ซึ่งคนทั่วไปไม่มีโอกาสอย่างนี้อยู่แล้ว เพราะการใช้อาวุธแบบนี้ได้ต้องผ่านการฝึกฝนและมีสนามฝึกซ้อม อีกทั้งต้องมีหลักสูตรในการฝึกซ้อม ถ้าจะให้พิจารณาก็คงมีเฉพาะในหน่วยทหารตำรวจเท่านั้น ประกอบกับหลังสถานการณ์ก็วางแผนในการหลบหนีอย่างชำนาญ ส่วนฝีมือการยิงก็ไม่ใช่มือสมัครเล่น

"เมื่อกองทัพถูกกล่าวหาก็ต้องเปิดใจกว้างให้ความร่วมมือตำรวจเพื่อให้สังคมและกลุ่มพันธมิตร เกิดความไว้วางใจทหารและเพื่อเป็นการช่วยรักษากองทัพไว้และเป็นโอกาสดีที่สังคมไทยยอมรับกองทัพมากขึ้นจึงเป็นโอกาสดีที่กองทัพจะได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการตั้งกรรมการสอบภายใน ในช่วงที่ผมยังอยู่ในกองทัพก็จะเสนอให้ตั้งกรรมการสอบภายในทุกครั้งที่เกิดเรื่อง ทั้งนี้เพื่อทำให้คนอื่นสบายใจว่าทุกคนเอาจริงเอาใจกรณีที่ถูกกล่าวจนเสื่อมเสียหรือกล่าวหาว่ากองทัพมีส่วนพัวพัน ภายหลังผลสอบออกมาจะต้องเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบว่าเป็นอย่างไร และต้องทำให้เกิดความชัดเจนในการทำงานร่วมกับตำรวจจนได้คนกระทำความผิดมาลงโทษ ตรงนี้ก็จะทำให้กองทัพได้รับความไว้วางใจมากขึ้น" พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าว

ขณะที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิ เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หลังจากให้แนวทางการสืบสวนแก่ทีมงานสืบสวน กก.สส.น. 1-9 และ ศูนย์สืบสวน บช.น. ไปเมื่อวันจันทร์ที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผบช.สำนักงานกฎหมายและสอบสวน พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. รอง ผบช.น. ผบก. รอง ผบก.ศส.บช.น. และ ผกก.สส.น. 1-9 เข้าร่วม ใช้เวลาประชุมประมาณ 3 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ธานีกล่าวภายหลังการประชุม ว่า วันนี้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ได้สั่งการไป โดยได้รับรายงานมีความคืบหน้ามากแล้ว นับเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ "เราได้พยานหลักฐานชัดเจนขึ้น แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคนมีสีหรือไม่มีสี เพราะถ้าระบุลงไปแสดงว่าเรารู้ตัวคนร้ายแล้ว นอกจากนี้เราสามารถตัดประเด็นได้หลายประเด็น เช่นเรื่องส่วนตัว ชู้สาว ณ ขณะนี้ให้น้ำหนักมากไปในเรื่องการเมือง ตลอดจนเรื่องที่มีการไปกล่าววิพากษ์วิจารณ์โจมตีถึงบุคคลต่างๆ ซึ่งเรารวมไปในเรื่องของการเมืองด้วย" พล.ต.อ.ธานีกล่าว

ส่วนปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 ตกในที่เกิดเหตุ ที่จำนวนหนึ่งถูกระบุ มีใช้ใน พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี ในพื้นที่กองทัพภาค 1 นั้น รอง ผบ.ตร. บอกว่า ยังไม่ได้ประสานข้อมูล ทาง ผบช.น.จะเป็นคนมอบหมายให้ทีมงานสืบสวนไปดำเนินการดูพยานหลักฐานตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ไม่มีการส่งคนลงไปในพื้นจังหวัดใดเป็นพิเศษ การทำงานเดินไปตามพยานหลักฐานที่มี

สำหรับการสอบปากคำนายสนธินั้น พล.ต.อ.ธานีกล่าวว่า คงต้องไปสอบปากคำเอง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้นัดหมาย 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการยิงต่อสู้กันระหว่างคนร้ายกับทีมคุ้มกันของนายสนธิในรถอีกคันหนึ่ง หรือไม่ พล.ต.อ.ธานีบอกว่ายังวิเคราะห์ไม่ได้ เมื่อถามว่าดูจากปลอกกระสุนปืนจำนวนมากเป็นลักษณะของการกระทำคนร้ายต่อนายสนธิฝ่ายเดียวหรือ รอง ผบ.ตร.ตอบว่า ใช่

"เมื่อมีประเด็นใดก็ให้ไปสืบสวนตรวจสอบแล้วมารายงานในที่ประชุม คดีไม่พบทางตัน ไปได้มีความคืบหน้าไปมาก ทุกคนพยายามเร่งกันทำงาน ส่วนว่าสืบสวนไปเจอตอไม่มีแน่นอน" รอง ผบ.ตร.กล่าว
 
เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 25 เม.ย. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. หนึ่งในทีมงานที่ได้รับแต่งตั้งให้มาร่วมคลี่คลายคดี กล่าวสนุกปากกับสื่อมวลชนหลังประชุมร่วมชุดคลี่คลายเสร็จสิ้น บอกว่า รอสัมภาษณ์รายละเอียดจากพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ตนเพิ่งมาร่วมทำงาน ก่อนจะพูดเล่นกับนักข่าวว่า จะจับคนร้ายได้ไม่เกิน 7 วัน (ความหมายคือวันจันทร์ ถึง วันอาทิตย์) ก่อนขึ้นรถกลับไป

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์