กระทรวงต่างประเทศส่งหมายจับ"ทักษิณ"ถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รับปากขับพ้นประเทศ ยันไม่ยอมปล่อยให้ใครเข้ามาขับเคลื่อนทางการเมืองเด็ดขาด ประสานตำรวจสากลล่าตัวจัดการ"จักรภพ"รายต่อไป
นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีการต่างประเทศ เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ถึงการเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ภายหลังได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้แทนพิเศษร่วมกันนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปกรุงอาบูดาบี ของยูเออี ระหว่างวันที่ 19-21 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อนำหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีซื้อขายที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษกซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปี และคดียุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลไปมอบให้สำนักงานตำรวจยูเออีและกระทรวงต่างประเทศยูเออี รวมถึงการจัดทำความตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกับยูเออีว่า ล่าสุด ได้พบกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมเอเชีย และอธิบดีกรมการกงสุลของยูเออี โดยได้แจ้งถึงการที่รัฐบาลไทยได้ยกเลิกหนังสือเดินทางทุกฉบับของ พ.ต.ท.ทักษิณ และการออกหมายจับของ พ.ต.ท.ทักษิณในทุกคดี ทำให้ได้รัฐบาลยูเออีทราบแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณดำเนินการที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อไทย
"ในการพบกันครั้งนี้มอบจดหมายของชมรมมุสลิมไทยในกรุงเทพฯที่ได้ยื่นต่อสถานเอกอัครราชทูตยูเออีในประเทศไทย ไปให้ด้วยเพื่อให้ทราบว่ามีการทำร้ายชุมชนชาวมุสลิมในกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ใหญ่ของกระทรวงต่างประเทศของยูเออีได้รับทราบ และยืนยันว่า จะไม่ยินยอมให้ใครก็ตามเข้ามาขับเคลื่อนทางการเมืองแล้วส่งผลความเสียหายต่อประเทศที่มิตรกับยูเออี"นายพนิชกล่าว
นายพนิชกล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศของยูเออีได้บอกกับตนว่า พ.ต.ท.ทักษิณพำนักในยูเออีในฐานะนักธุรกิจ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา
แต่ทางการยูเออีแจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณทราบแล้วว่าไม่เหมาะสมที่จะพำนักอยู่ในยูเออีอีกต่อไป เนื่องจากใช้ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ส่งผลกระทบต่อประเทศอื่น แต่ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณออกจากยูเออีไปแล้ว เมื่อค่ำวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ยังไม่ทราบว่าไปยังประเทศใด
นายพนิชกล่าวว่า ทางยูเออีได้รับหมายจับในคดีต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งได้รับจากตำรวจสากลแล้ว และยืนยันว่า จะไม่ยินยอมให้ใครเข้ามาขับเคลื่อนทางการเมืองโดยเด็ดขาด เพราะให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากกว่าความสัมพันธ์กับคนคนหนึ่ง
"ทางยูเออียังระบุว่าไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาในประเทศและถ้าจะเข้ามาในประเทศนี้อีกด้วยหนังสือเดินทางของประเทศอื่น ก็จะต้องมีการพิจารณาถึงเจตนาของการเข้าประเทศ ซึ่งทางการยูเออีสามารถควบคุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณไว้ เพราะมีหมายจับของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว และยังถือสัญชาติไทย ตลอดจนยังใช้ชื่อเดิมอยู่ตามที่ปรากฏในหมายจับ จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจะถูกนำตัวดำเนินการตามกฎหมายประเทศของเขาที่สามารถนำไปสู่การส่งตัวกลับประเทศไทย ทั้งหมดนี้เป็นการใช้ช่องทางขั้นตอนทางการทูต"นายพนิชกล่าว
ผุ้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศล่าวว่า แจ้งผลคืบหน้าดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีและนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รับทราบแล้ว
และยังจะมีการดำเนินการลักษณะเดียวกันกับนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ออกนอกประเทศแล้ว โดยล่าสุด ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศอย่างไม่เหมาะสม เมื่อตำรวจออกหมายจับนายจักรภพแล้วประสานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด จากนั้น ทางอัยการฯจะส่งหมายจับมาให้ทางกระทรวงแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อส่งเรื่องไปยังตำรวจสากลแจ้งไปยังประเทศต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่ายของตำรวจสากลติดตามตัวนายจักรภพ