ผบ.ตร.สั่งเด้ง 2 บิ๊กตร."ผบช.ภ.2 -ผบก.ชลบุรี"เข้ากรุ สังเวยพิษเสื้อแดงบุกโรงแรมพัทยาล้มประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ด้านแกนนำนปช.รุ่น 2 เปิดแถลงนัดทำบุญให้เหยื่อที่ถูกทหารปราบวันที่ 23 เม.ย. จากนั้นจะนัดรวมพลังชุมนุมใหญ่ที่สมุทรสาครต้านประกาศภาวะฉุกเฉินพร้อมดาวกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศอีก 10 แห่ง "เทือก"ยืนยันไม่ปลดผบ.ตร.-เด้งผบ.เหล่าทัพ ก่อนจะดอดเข้าพบผบ.ทบ.ขอข้อมูลชี้แจงสภากรณีสลายม็อบเสื้อแดง ทนายยื่นศาลไต่สวนมาร์คประกาศภาวะฉุกเฉินโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของครม.ให้ปล่อย"วีระ-ณัฐวุฒิ-หมอเหวง"ทันที
-"ธานี"ร่วมประชุมทีมสืบสวน
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 เม.ย. ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.น. พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เดินทางมาเรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 164 / 2552 ครั้งที่ 1 จำนวน 120 นาย มีพล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผบช.กมส. พล.ต.ท. จรัมพร สุระมณี ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กรณีที่มีกลุ่มบุคคลได้ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลในพื้นที่ กทม. และจังหวัดอื่นที่มีการกระทำผิดกฎหมายขึ้น โดยเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง ต่อต้านรัฐบาล และคดีที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกาย ทรัพย์สิน หรือคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.เป็นต้นมา
พล.ต.อ.ธานี เปิดเผยว่าได้เชิญพนักงานสืบสวนสอบสวนและผู้เกี่ยวข้องมาหารือด้านสำนวนการสอบสวน ซึ่งมอบให้ บช.น. จัดแบ่งคนรับผิดชอบแต่ละคดี โดยสั่งให้ตั้งศูนย์ที่ บช.น.ในการบริหาร สืบสวน ติดตามงาน เป็นการประชุมสืบสวนสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นหลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งบอกพนักงานสืบสวนสอบสวนไปว่า หากมีปัญหาในจุดใดก็บอกผู้บังคับบัญชามาจะได้แก้ไข
พล.ต.อ.ธานีกล่าวต่อว่าคดีที่ยังอยู่ระหว่างประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีทั้งสิ้น 49 คดี ที่ประกาศก่อนพ.ร.ก. ก็มีอีก 6 คดี รวมเป็น 55 คดี ในพื้นที่นครบาล การทำคดีต่างๆก็จะรีบทำ บางคดีก็สอบอยู่ บางคดีก็ต้องสอบสวนทั้งคดียิง เผารถ ระเบิดต่างๆ รวมทั้งหมด การสอบสวนคดีก็ช่วยกันเร่งรัดทำสำนวนการสอบสวนให้เร็วให้เป็นธรรม และรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และจะเรียกประชุมทุก 7 วัน
-"เทือก"ยันไม่ปลดผบ.ตร.-ทหาร
เวลา 11.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่างๆของทั้งกลุ่มพันธมิตรกับนปช.ว่า ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงจะเป็นผู้แถลงข่าวให้ทราบอย่างเป็นทางการ เพราะถ้าต่างคนต่างพูดจะเกิดความสับสน สำหรับการให้สัมภาษณ์น้อยลงนั้นเป็นท่าทีใหม่ของตน
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอให้ปรับหน่วยงานด้านความมั่นคง นายสุเทพกล่าวว่า นี่คือตัวอย่างของความสับสนอย่างหนึ่งในการพูดจากัน เพราะความเป็นจริงไม่มีข้อเสนออย่างนี้ ตนขอไม่พูดอะไร เพราะไม่ต้องการให้เป็นประเด็นโต้แย้ง ในฐานะที่ตนดูแลรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงจะพยายามให้ทุกคนทุกภาคส่วนทำงานได้เต็มที่ เมื่อถามว่ายืนยันหรือไม่ว่าฝ่ายกองทัพไม่มีความหวาดระแวงซึ่งกันตามที่มีข่าวลือ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีความหวาดระแวงกันแน่นอน ภายใต้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ การทำงานมีเอกภาพอย่างเต็มที่ ข่าวลือก็แล้วแต่คนลือ ตนยืนยันว่าการทำงานในรัฐบาลมีเอกภาพ กองทัพทำงานกับรัฐบาลมาตลอดเวลา ต่อข้อถามว่าแสดงว่าช่วงนี้จะไม่มีการปรับผบ.ตร. หรือผบ.เหล่าทัพใช่หรือไม่ รอง นายกฯ กล่าวว่า "ไม่มีครับ"
-ยื่นคำร้องปล่อย 3 แกนนปช.
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ภิเษก นายคารม พลทะกลาง ทนายความแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวนายวีระ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และน.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ผู้ต้องหาที่ 1-3 คดีปลุกระดมมวลชนโดยวิธีการใด เพื่อให้ละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ 215 ตามประ มวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 เนื่อง จากถูกคุมขังโดยมิชอบ
ตามคำร้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ โดยไม่ปรากฏว่าได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี แม้วันที่ 17 เม.ย. เวลา 09.00 น. จะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ปรากฏว่าครม.ได้ความเห็นชอบต่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับลงวันที่ 12 เม.ย. อีกทั้งเมื่อนายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ไปแล้วไม่ได้ดำเนินการให้ได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ภายใน 3 วันตามพระราชกำหนด ( พ.ร.ก.) การบริหารราช การในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จึงไม่ปรากฏว่า ครม. ได้ให้ความเห็นชอบแต่อย่างใด ดังนั้นการประกาศดังกล่าวจึงต้องสิ้นสุดลงหรือถูกยกเลิกไปในวันที่ 15 เม.ย. ตามมาตรา 5 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งการที่พนักงานสอบสวนจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสาม หลังจากที่เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 14 เม.ย. โดยควบคุมตัวเป็นเวลา 48 ชั่วโมงจนถึงวันที่ 16 เม.ย. แล้ว พ.ต.ท.ทินกร สมวันดี พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 เป็นเวลา 12 วันต่อศาลอาญา แต่ภายหลังศาลอาญามีคำสั่งให้ยกคำร้อง และไม่รับตัวผู้ต้องหาไว้ควบคุม และศาลไม่ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา เนื่องจากเห็นว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวอยู่แล้วตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 11 และ 12 ดังนั้นเมื่อเห็นว่าประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินควรต้องสิ้นสุดลงหรือยกเลิกไปตั้งวันที่ 15 เม.ย.แล้ว การที่พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามในวันที่ 16 เม.ย.จึงเป็นการจับกุมและควบคุมตัวโดยมิชอบ จึงขอให้ศาลไต่สวนคำร้องคำสั่งผู้ต้องหาทั้งสามโดยด่วน และมีคำสั่งปล่อยตัวโดยทันที
-ชี้พรก.ฉุกเฉินไม่ผ่านครม.
นายคารม กล่าวว่า หากศาลรับคำร้องไว้ไต่สวน ก็ได้เตรียมเอกสาร และพยานบุคคลไว้พร้อมเพื่อไต่สวนแล้ว ซึ่งมีพยานบุคคลรวม 5 ปาก ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะไต่สวนเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งในรัฐบาลนายสมชาย เคยประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาแล้ว และนายวีระ, นายณัฐวุฒิ และน.พ.เหวง ผู้ต้องหาทั้งสามที่ขอให้ศาลออกหมายเบิกตัวมาไต่สวนที่ศาล อย่างไรก็ดีหากไต่สวนแล้วศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัว โดยเห็นว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบ ครม. ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ก็ต้องปล่อยตัวผู้ที่ควบคุมตัวตามประกาศนี้ทุกคน
ด้านนายคำนวณ ชโลปถัมภ์ หนึ่งทีมทนาย ความ กล่าวว่า การยื่นคำร้องให้ไต่สวนเพื่อปล่อยตัวตาม ป. วิอาญา มาตรา 90 จะเป็นการไต่สวนฝ่ายผู้ต้องหาที่เป็นผู้ร้อง เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งการยื่นคำร้องทีมทนายความ ได้ศึกษาข้อกฎ หมายโดยละเอียดแล้วว่า ข้อกฎหมายชัดเจน ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 5, 11 และ 12 นายกรัฐมนตรีจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ก็ต้องโดยความเห็นชอบของ ครม. แต่จนถึงวันที่ 17 เมษายน ก็ยังไม่ปรากฏว่าครม. ให้ความเห็นชอบ ดังนั้นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต้องไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไปโดยผลของกฎหมาย
-ศาลรับคำร้อง-ไต่สวนวันนี้
ต่อมาเวลา 15.00 น. ศาลเปิดห้องพิจารณาคดีที่ 813 พิจารณาคำร้องที่นายคารม ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งปล่อยตัว นายวีระ นายณัฐวุฒิ และ น.พ.เหวง ผู้ต้องหาที่ 1-3 โดยพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ออกหมายเรียก นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการ ครม. พยานที่ผู้ต้อง หา ยื่นบัญชีเสนอศาล เพื่อไต่สวนในประเด็นว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว ได้ผ่านขั้นตอนความเห็นชอบ ครม. ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มาตรา 5 หรือไม่ และอนุญาตให้ทนายความ นปช. เข้าไต่สวนเพิ่มเติมด้วย โดยนัดไต่สวนในวันที่ 22 เม.ย. เวลา 13.30 น.
ส่วนพยานปากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ 3 แกนนำ นปช.ผู้ร้อง ที่ผู้ต้องหาจะขอไต่สวน ศาลเห็นว่าไม่ได้มีส่วนโดยตรงกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงไม่มีเหตุต้องนำพยาน 4 ปากเข้าไต่สวน
ภายหลังนายคารม ทนายความ นปช. กล่าวว่า การที่ศาลตัดพยานเหลือเพียงเลขาธิการ ครม. ชัดเจนว่า หากไต่สวนแล้วเห็นว่านายกฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยไม่ผ่านความเห็นชอบ ครม. ย่อมมีเหตุศาลมีคำสั่งปล่อยตัว 3 แกนนำ นปช. ซึ่งตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 5 วรรคท้าย ยังระบุว่า เมื่อสถานการณ์ไม่มีเหตุฉุกเฉินแล้ว ก็ต้องประกาศยกเลิก แต่หลังจากที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่มีแล้ว นายกฯ ก็ยังไม่ยกเลิกประกาศ เวลานี้จึงต้องถามหาความชอบธรรมว่านายกฯ จะยกเลิกประกาศเมื่อใด
ขณะที่นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ซึ่งร่วมเป็นทีมทนาย ความด้วย กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส. จะนำกรณีนี้เสนอต่อรัฐสภา พิจารณาต่อไปด้วย โดยยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ ไม่มีความชอบธรรม ที่จะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะที่มาของรัฐบาลไม่ชอบตั้งแต่แรก ไม่ได้แถลงนโยบายต่อสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
-เผย 23 เสื้อแดงที่ถูกคุมขังในคุก
ที่กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กรมราช ทัณฑ์ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งสิ้น 23 คน เป็นชาย 22 คน ที่ถูกควบคุมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และ 1 คน ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องสงสัยในความผิดฐานร่วมชุมนุมมั่วสุมกันเกิน 5 คนขึ้นไป กรณีบุกรุกสถานที่ราชการ 1 คน และคดีลอบวางเพลิงธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่และบริษัทซีพีฯ 3 คน ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวไปแล้ว 3 คน ในจำนวน 24 คนนี้ยังมีผู้ที่อยู่ระหว่างคุมประพฤติอีก 4 คน ที่ศาลแขวงพระนครเหนือมีคำสั่งให้สืบเสาะทำรายงานเพื่อส่งให้ศาลพิจารณา
สำหรับรายชื่อผู้ถูกควบคุมตัวในกรมราช ทัณฑ์ ประกอบด้วย 1.นายประจวบ วิทยา 2.นายสมบูรณ์ วิทยาวงศ์ 3.นายกฤษดา ผังดี 4.นายปิติธนพร พรรณเดช 5.นายมนตรี แก้วเข็ม 6.นายจารึก ถนอมผล 7.นายวีระ เอี่ยมสมบุญ 8.นายสมชาย บุญเพ็ง 9.นายธีรพงศ์ นำศิษย์ 10.นายอำพล กระต่ายทอง 11.นายสุวัฒน์ วันชัย 12. นายวสันต์ ดาบุตร 13.นายทองสุข ดีสุ่ย 14.นายโกศล ธีระธรรมกร 15.นายจันทร์ ป่วนมูล 16.นางหนูพัฒน์ เนาวราช 17.นายภูพิทักษ์ งอนสวรรค์ 18.นายสุวิรัตน์ วิริยะพินิจ 19.นายไพโรจน์ งามวิเศษน์ คดีร่วมชุมนุมและมั่วสุมเกิน 5 คน ขึ้นไป 20.นายฉัตรชัย ไหมเหลือง คดีบุกรุกสถานที่ราชการ 21.พ.จ.อ.สุริยา หรืออู๊ด โพธิ์เงิน 22.นายพรชัย หรืออ๊อด อักษรวิทย์ 23.นายศกันต์ หรือหยวก แสงเฟื่อง คดีวางเพลิง
-แกนนำนปช.รุ่น 2 เปิดแถลง
เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รุ่น 2 ร่วมแถลงข่าว
นายสมยศ กล่าวว่า ตนคิดอยู่นานว่าสมควรจะจัดการแถลงข่าวดีหรือไม่ เพราะแกนนำเกือบทั้งหมดถูกจับ และบางคนไม่อยากออกมาแสดงตัว แต่ตนทั้ง 2 ในฐานะแกนนำรุ่นที่ 2 และยังไม่ถูกหมายจับจึงต้องเข้ามาทำงานต่อไป ทั้งนี้ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12-14 เม.ย.ขอแสดงความเสียใจกับคนกทม.ที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ดังกล่าว และจะนำกรณีดังกล่าวไว้เป็นบทเรียนในการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช.ต่อไป
นายสมยศ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการแทรกแซง ยั่วยุ ทำให้เกิดการจลาจลขึ้น เพื่อทำลายการต่อสู้ของคนเสื้อแดง อย่างการยึดรถเมล์หรือเผารถเมล์ ตนที่อยู่กับแกนนำทั้งหมดตลอด ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่ได้สั่งการ รวมทั้งไม่ทราบว่าใครกันแน่เป็นผู้ก่อการ อาจต้องถามพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ถนัดเรื่องเผายางรถยนต์ อย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนพ.ค.2535 ต้องยอมรับว่าพฤติการณ์ 2 มาตรฐาน ที่นายอภิสิทธิ์ ใช้กับกลุ่มเสื้อแดงนั้นเป็นเงื่อนไขหนึ่งก่อให้เกิดปัญหาในสังคม อย่างเรื่องการดำเนินคดีของคนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองที่มีความล่าช้าต่างกัน
นายสมยศ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราได้รับข้อมูลจากสนนท.และพรรคเพื่อไทยว่ามีคนสูญหายไปกว่า 30 คน คิดว่าน่าจะเสียชีวิต และมีการนำศพไปทำลาย โดยขอให้ใครที่มีข้อ มูลให้ส่งข้อมูลให้เราเพื่อจะสืบหาต่อไปว่าใครเป็นผู้เสียชีวิตและขณะนี้อยู่ที่ไหน ส่วนคนเสื้อแดงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุถูกจับไปดำเนินคดี 19 คนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เพราะตำรวจระบุว่าต้องรอให้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจ
-นัดชุมนุมใหญ่ที่สมุทรสาคร
นายสมยศ กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะดำเนินกิจกรรมต่อไป ครั้งแรกจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตที่สามเหลี่ยมดินแดง โดยเราจะนัดทำบุญวันที่ 23 เม.ย. เวลา 10.00 น. จากนั้นเราจะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 25 เม.ย. เพื่อต่อต้านการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จ.สมุทร สาคร จากนั้นจะย้ายสถานที่ชุมนุมไปที่จ.นคร ราชสีมา และเมื่อเดินสายครบ 10 จังหวัดแล้ว เราจะกลับมาชุมนุมที่กทม.อีกครั้ง และต่อไปจะจัดแถลงข่าวทุกวันจันทร์
ด้านนายสรรเสริญ กล่าวว่า ขอเรียกร้องรัฐบาลให้ยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็ว เพราะกระทบกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งยังคุกคามสื่อมวลชน ดูได้จากการปิดสถานีดี สเตชั่น และวิทยุชุมชนหลายแห่ง นอกจากนี้ขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลและพิจารณาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพราะเราพร้อมรับความจริง หากใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ขอให้อยู่ในบรรทัดฐานเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ นายสมยศได้นำซีดีบันทึกภาพการสลายการชุมนุมของทหารที่สามเหลี่ยมดินแดง และหน้ากองทัพภาคที่ 1 มาเปิดประกอบโดยระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากภาพดังกล่าวอย่างน้อย 1 ราย แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่จะติดตามข้อมูลต่อไป ทั้งนี้ซีดีดังกล่าวทำออกมาเพื่อจำหน่าย ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 100 คนเข้าร่วมรับฟัง แต่คนกลุ่มนี้ไม่ได้สวมใส่เสื้อสีแดง และยังตะโกนด่าสื่อมวลชนที่มาทำข่าว โดยระบุว่าสื่อเสนอข่าวไม่ตรงตามข้อเท็จจริง
-"มาร์ค"โต้วุ่นมุ่งไล่ล่าเสื้อแดง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล่าวถึงการยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะทำได้เมื่อไหร่ว่า ขณะนี้เหลือในเรื่องการคลี่ คลายคดีความบางอย่าง รวมทั้งการใช้กลไกบางอย่างที่จะไปพูดคุย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย เจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านนี้ขอเวลา คิดว่าอีกไม่นาน อีกไม่กี่วัน เมื่อถามถึงการดำเนินการกับแกนนำ นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของแกนนำคดีเหล่านี้ก็ไม่สามารถจบลงในช่วงนี้ได้ คดีก็ต้องเดินต่อไป
กรณีรัฐบาลไล่ล่าตามจับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งที่พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ครอบ คลุมว่า ไม่ได้อาศัยอำนาจของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อถามย้ำว่าแต่ดูเหมือนรัฐบาลจงใจจะจับกุมฝ่ายค้านให้เข้าคุกทั้งหมด นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องของการไล่ล่า ไล่รุกทางการเมือง เพียงแต่ใครก็ตามที่มีส่วนก่อความไม่สงบก็มีความผิดทางอาญา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ยิ่งชัดเจนว่าเป็นความผิดทางอาญาเท่านั้นถึงจะไปดำเนินได้ ตนต้องการให้เห็นชัดว่าการทำความผิดทางอาญากับการทำความผิดทางการเมืองไม่เหมือนกันแน่นอน
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นเรื่องให้ดีเอสไอตรวจสอบกรณีการดำเนินการสลายการชุมนุมของรัฐบาลและทหาร นายกฯ กล่าวว่า ไม่กังวล การตรวจสอบสามารถทำได้แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นอำนาจของดีเอสไอหรือเปล่า
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ยังนำเรื่องทหารยิงประชาชนระหว่างการชุมนุมไปขยายความในต่างประเทศ นายกฯ กล่าวว่า ก็เคยเห็นว่านำรูปไปแสดง รัฐบาลก็ชี้แจงแล้วและคิดว่าขณะนี้ต่างประเทศก็มีความเข้าใจดีระดับหนึ่งแต่ก็จะมีการชี้แจงต่อเนื่อง
-สั่งอารักขาองคมนตรี-ครม.
วันเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มีคำสั่งด่วนที่สุด ถึง ผบช.น., ภ.1-9, ผบช.ก., ผบช.ส., ศปก.ตร. ให้เพิ่มความเข้มใน การรักษาความปลอดภัยองคมนตรี คณะรัฐมนตรี อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสถานที่ทำงาน สถานที่พัก ยานพาหนะ และสถานที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ต่างๆ ให้ บช.ส.จัดเจ้าหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ เพื่อมิให้เกิดเหตุขึ้นได้ จัดทำแผนรักษาความปลอดภัยและแผนเผชิญเหตุในพื้นที่รับผิดชอบ โดยประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด สืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวบุคคล หรือกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับหน่วยปฏิบัติ และประชาคมข่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ผบ.ตร. ยังมีคำสั่งที่ 001(ผบ) /162 ถึงหน่วยต่างๆ ตามที่ได้ให้ทุกหน่วยเพิ่มในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญระดับองคมนตรี และคณะรัฐมนตรี ไปแล้วนั้น จากการรายงานข่าวปรากฏว่า ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีโดยการปลุกระดมประชาชนในพื้นที่ให้ต่อต้านรัฐบาลอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงกำชับให้ทุกหน่วยดำเนินการเพิ่มเติม 1.เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยบุค คลสำคัญทางการเมือง บุคคลสำคัญทางสังคม และบุคคลสำคัญอื่นๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบเป็นพิเศษ 2.เพิ่มความเข้มในการรักษาความ ปลอดภัยสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญรวมทั้งระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา โทร ศัพท์ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบโดยการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดอย่างเข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษ 3.กรณีเหตุการณ์สำคัญให้รายงาน ตร.ทราบโดยทันที แจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
-เด็กเนแจ้งจับจตุพรหมิ่นเน
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะคนใกล้ชิดนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและแกนนำพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า นายเนวิน ได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 2 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีที่มีการหมิ่นประมาทนายเนวิน และดำเนินคดีนายจตุพร และนายอดิศร เพียงเกษ ประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ดีทีวี และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 กรณีได้โฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด ในการฆ่าผู้อื่นอันเป็นความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 โดยตนพร้อมทนายความจะไปแจ้งความในเวลา 14.00 น. วันเดียวกันนี้ที่สน.ดุสิต
-โห! เนวิน-สั่งเพิ่มการ์ดให้มท.1
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทค โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า ขอฝากผู้ที่จะออกเว็บไซต์ใหม่ที่มีลักษณะปลุกระดม หรือทำให้บ้านเมืองเกิดการจลาจล หรือหมิ่นประมาทบุคคลหรือหมิ่นสถาบันว่ากระทรวงจะใช้กฎหมายบังคับอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้ละเลยเพียงแต่ไม่ค่อยเปิดเผยให้สังคมได้รับทราบ จึงขอฝากด้วยว่าการถามตอบกระทู้ต่างๆ ต้องอยู่ภายในใต้กฎหมายคอมพิวเตอร์ จึงขอให้ไปศึกษาพ.ร.บ.คอมพิว เตอร์ให้ดี ทั้งนี้ กระทรวงยังได้ส่งพ.ร.บ.ดังกล่าวไปยังสถานศึกษาทั่วประเทศแล้ว เพื่อให้รับทราบรายละเอียดและบทลงโทษที่ชัดเจนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทย ว่า ในวันเปิดทำการวันแรกหลังหยุดยาวช่วงเทศ กาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ในกระทรวงมหาดไทยได้ซ่อมแซมประตูเหล็ก รั้ว ที่พังจากเหตุการณ์ที่กลุ่มเสื้อแดง บุกกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 12 เม.ย. รวมทั้งจัดเวรยาม โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ติดอาวุธหนักทั้งปืนกลมือและปืนพก เดินตรวจทั้งบริเวณกระทรวงมหาดไทยตลอดทั้งวัน และที่ประตูทางเข้าออกทั้งทางฝั่งถนนบำรุงเมืองและฝั่งถนนอัษฎางค์ ไม่อนุญาตให้นำรถจักรยานยนต์เข้ามาภายในกระทรวง
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เดินทางมายังกระทรวงมหาดไทยเป็นครั้งแรกหลังกลุ่มเสื้อแดงบุกกระทรวง และมีรายงานว่า นายเนวินได้สั่งเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัยส่วนตัวให้นายชวรัตน์ 3 คน เพิ่มรถตามขบวนอีก 1 คัน
-พท.แถลงการณ์อัดสลายม็อบ
เวลา 13.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย คณะกรรม การบริหารพรรคและแกนนำพรรคนำโดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค นายปลอดประ สพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงภายหลังประชุมเตรียมความพร้อมอภิปรายร่วมรัฐสภา
นายปลอดประสพกล่าวว่า ที่ประชุมพรรคมีมติออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 กรณีการสลายการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มนปช. จากเหตุการณ์วันที่ 13-15 เม.ย. ทำให้มีการเสียชีวิต สูญหาย และบาดเจ็บจำนวนมาก ขอแสดงจุดยืนดังนี้ 1.ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับความเสียหายจากการสลายการชุมนุมของรัฐบาลและทหาร
2.พรรคไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง และการกระทำที่ผิดกฎหมายในการแก้ปัญหาต่างๆทางการเมือง และโดยเฉพาะการสลายการชุมนุมที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ไม่คำนึงถึงผลกระทบจากการใช้กำลังสลายการชุมนุม เช่น การใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธ ปกรณ์ทางสงครามกับประชาชนผู้ชุมนุมมือเปล่า โดยไม่เลือกใช้วิธีที่นุ่มนวลและให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนก่อน 3.ขอเรียกร้องจากบุคคลที่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริงให้มีการไต่สวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นธรรม และเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนให้การเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลจากการชุมนุมอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง โดยไม่เลือกปฏิบัติ
4.พรรคเห็นว่าการแก้วิกฤตการเมืองที่สังคมไทยเผชิญอยู่จะต้องแก้ที่รากเหง้าของปัญหา คือประเทศไทยขาดไร้ซึ่งประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม 5.พรรคเรียกร้องให้เกิดกระบวนการสร้างความปรองดองแห่งชาติอย่างแท้จริง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อประเทศไทยสถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และใช้หลักนิติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกันให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างแท้จริง โดยพรรคเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาบังคับใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหารยึดอำนาจโดยทหารในปี 2549
-ส.ส.ชี้พิรุธฆ่าทิ้งน้ำหนุ่มแพร่
นายวรวัจน์กล่าวว่าวันนี้ทุกฝ่ายต้องพูดความจริงจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เพราะพรรคมีข้อมูลว่ามีประชาชนเสียชีวิต เช่น กรณีนายชัยพร กันทัง จากจังหวัดแพร่ ที่ตำรวจระบุขาดอากาศหายใจระหว่างถูกนำตัวไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งที่ความเป็นจริงไม่มีโจรที่ไหนก่อเหตุ ระหว่างที่มีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกทั้งลักษณะการฆาตกรรมที่จับผู้ตายมัดมือไพล่หลังนั้น ไม่น่าใช่การปล้นชิงทรัพย์ ประกอบกับผลชันสูตรที่ผู้ตายยังไม่เสียชีวิตก่อนถูกทิ้งลงแม่น้ำ ล้วนมีความผิดปกติ อีกทั้งยังมีข้อมูลว่ามีตำรวจไปข่มขู่ญาติผู้เสียชีวิตโดยไม่ให้พูดว่าการเสียชีวิตของผู้ตายมาจาก ชุมนุมนปช. พรรคเพื่อไทยมองว่าหากรัฐบาลจะพูดถึงความปรองดอง ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามไล่ล่าออกหมายจับผู้ชุมนุมเสื้อแดงแบบยิบย่อยเช่นนี้ อาจยิ่งสร้างความไม่พอใจให้ประชาชนที่ยังสงสัยเบื้องหลังเหตุการณ์อยู่ และความตั้งใจจะให้ปรองดองก็คงเป็นไปไม่ได้
ผบช.ภ.2-ผบก.ชล โดนเด้ง เซ่นแดงล้มอาเซียน
ด้านนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า กรณีรัฐบาลเตรียมแจกซีดีรวบรวมเหตุการณ์สลายการชุมนุม 1 ล้านแผ่นนั้น ถือเป็นการสื่อสารทางเดียว และก่อนหน้านี้รัฐบาลบิดเบือนข้อมูล และแทรกแซงสื่อโดยปิดสถานีโทรทัศน์ ปิดสื่อและพูดฝ่ายหน่วยงานความมั่นคงเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นการบิดเบือนข่าวสารข้อมูลที่ประชาชนจะได้รับ ตรงนี้ทำให้เกิดปรองดองไม่ได้ ถ้ารัฐบาลยังใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐานอยู่ แต่ที่ตนเป็นห่วงมากกว่านั้น คือการใช้กฎหมายอย่างไม่มีมาตร ฐาน ดังนั้น รัฐบาลควรพูดความจริงได้แล้ว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีหลักฐานยืนยันหรือไม่ว่าการจลาจลเป็นฝีมือของมือที่ 3 รวมทั้งข้อมูลผู้ชุมนุมนปช.ที่เสียชีวิตนำมาค้านกับข้อมูลของรัฐบาล นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ยืน ยันว่าพรรคมีรายละเอียดและหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เม.ย.นี้พรรคได้นำข้อมูลไปยื่นให้ดีเอสไอ รวมถึง หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้ว
-ยื่นดีเอสไอสอบทหารล้อมปราบ
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเดินทางพร้อมด้วยนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทยและเครือข่าย เข้ายื่นหนังสือต่อพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอว่า พรรคเพื่อไทยต้องการให้ดีเอสไอตรวจสอบกรณีทหารหน่วยรบพร้อมอาวุธสงครามเข้าสลายการชุมนุมบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 13 เม.ย.จนเป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก บางคนบาดเจ็บสาหัส และอาจมีผู้สูญหายจำนวนหนึ่ง ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนจากประชาชนตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.-ปัจจุบัน พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน สูญหาย 8 คน และเสียชีวิต 2 ราย โดยผู้เสียชีวิตดังกล่าวยังเป็นที่สงสัยว่าเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมหรือไม่ เนื่องจากญาติของผู้เสียชีวิตแจ้งว่าทั้ง 2 คนเป็นการ์ดแนวร่วมประชาชนขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.)
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคมองว่าการสลายการชุมนุมดังกล่าวกระทำเกินกว่าเหตุและใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความชำนาญเข้าสลายมากกว่า และในวันที่ 21 เม.ย.จะเข้าร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นวันที่ 22 เม.ย. จะเข้ายื่นเรื่องต่อประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติ ธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
-"จตุพร"จี้ดำเนินคดีเสื้อน้ำเงิน
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกฯ มอบหมายให้ ผบ.ตร ชี้แจงเหตุการณ์สลายการชุมนุมและเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับคนเสื้อแดงและเสื้อเหลือง ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ตนเรียกร้องให้พล.ต.อ.พัชรวาท นำคนเสื้อสีน้ำเงินมาดำเนินคดีด้วย เพราะขณะนี้กลุ่มคนเสื้อสีน้ำเงินถือเป็นปัญหาของประเทศมากที่สุด เหตุการณ์เกิดตั้งแต่ที่พัทยาที่นายเนวิน ซึ่งเป็นบุคคลนอกรัฐธรรมนูญถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปปรากฏตัวบัญชาการกองทัพ บัญชาการสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติและกองทัพเถื่อน
นายจตุพรกล่าวว่าคดีเสื้อแดงและเสื้อเหลืองไม่ต้องพูดเรื่องสองมาตรฐาน คดีของพันธมิตร 106 คดีไม่คืบ แต่ทุกคดีของนปช. ทำได้รวด เร็วทุกคดี ต่างจากพันธมิตรโดยสิ้นเชิง วันที่ 3 ธ.ค. 2551 ยุติการชุมนุมหลังประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ วันนั้นพันธมิตรทุกคนได้กลับบ้านโดยไม่ต้องถูกคุมขัง ทั้งที่มีความผิดลักษณะเดียวกับคนเสื้อแดง จึงถามพล.ต.อ.พัชรวาท พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาและนายอภิสิทธิ์ ถ้าไม่เรียกว่าสองมาตรฐานจะเรียกว่าอะไร
-อัดลมปากมาร์คเชื่อถือไม่ได้
นายจตุพร กล่าวถึงข่าวที่ระบุมีความพยายามต่อรองให้คนเสื้อแดงเข้ามอบตัวเพื่อแลกกับการยกเลิกประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้พ.ร.ก.มา 5 ปี เสียงปืนก็ยังอยู่ การดำรงอยู่ของพ.ร.ก.ไม่ใช่การต่อรองให้คนเสื้อแดงไปมอบตัว ขอย้ำว่าเราจะไม่มอบตัวตามที่มีหมายจับออกมาตามแต่ละจังหวัด แต่จะมอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดังนั้นให้ผบ.ตร.กำหนดวันออกมา เราจะนัดคนที่ถูกออกหมายจับและไม่ถูกออกหมายจับมามอบตัว แต่ถ้าตำรวจไม่ดำเนินคดีคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมก็จะดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามว่าล่าสุดนายกฯ รับลูกจะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญรวมทั้งพิจารณาพ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายจตุพร กล่าวว่า ลมปากของนายอภิสิทธิ์ เป็นลมปากแบบลมเพ ลมพัด เมื่อครั้งที่นายอภิสิทธิ์เป็นฝ่ายค้านและอภิปรายนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรก็บอกว่าถ้าเป็นนายกฯ ก็พร้อมจะพิจารณาตัวเองหากถูกกดดัน ขับไล่ก็พร้อมจะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน แต่พอเป็นนายกฯกลับเห็นอีกอย่าง และใช้อำนาจปราบปรามประชาชน ที่ผ่านมาเคยบอกว่าสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เป็นคนแรก แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่แก้ไข เมื่อเกิดเหตุสลายชุมนุมกลับมาพูดว่าจะแก้ไข เพราะรู้ว่ามีการใช้อาวุธปราบปรามประชาชนจริง ฉะนั้นที่รัฐบาลอ่อยเหยื่อและมีนักการเมืองไปหลงบ้างเป็นธรรมดา แต่อยากเตือนไว้ว่านายอภิสิทธิ์ไม่เคยพูดความจริง ดังนั้นคนที่เป็นนักการเมืองก็ควรมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ไปกินเบ็ดที่เขาเอามาล่อและถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อถามว่าเตรียมความพร้อมกรณีนายเนวิน ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทอย่างไร นายจตุพร กล่าวว่า ถือว่าเป็นเกียรติและที่จริงนายเนวิน น่าจะทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว นายเนวิน ทำความผิดไว้มากมาย อยากถามนายเนวินและนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าใครเป็นคนพานายณรงค์ศักดิ์ กอบไธสง มาให้กลุ่มพันธมิตรตีตาย วันนี้ที่นายอภิสิทธิ์มารวมกับนายเนวินได้ ถือเป็นโชคร้ายของประเทศไทย
-"จักรภพ"ให้สัมภาษณ์สื่อนอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศ 2 แห่งเผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของนายจักรภพ เพ็ญแข 1 ในกลุ่มแกนนำนปช. หรือม็อบเสื้อแดง ซึ่งทางการไทยออกหมายจับ ในรายงานข่าว "Thai Protesters Say Fight "Not Over" as Premier Plans Response" ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
นายจักรภพกล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงมีแผนเคลื่อนไหวอีกครั้งในเร็ววันนี้ ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ยังไม่ยอมหยิบยื่นข้อเสนอสร้างความสมานฉันท์อย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันประชาชนรู้สึกคับแค้นใจมากและพร้อมสู้ต่อไป สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่จบลงอย่างแน่นอน
"เราวางแผนเคลื่อนไหวใต้ดินนานเท่าที่จำเป็น การต่อสู้ในประเทศไทยเดินทางมาเกินจุดหยุดพัก แต่มาถึงจุดที่ต้องการความร่วมมือครั้งใหญ่จากทั้งสองฝ่าย เมื่อเกิดพลวัตทางการเมืองเช่นนี้ขึ้นก็ยากจะบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป" นายจักรภาพให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากสถานที่ปิดลับ
ด้านรายงานเรื่อง "Thai protest leader vows to fight o-from hiding" ของสำนักข่าวเอเอฟพีแจ้งว่า นายจักรภพให้ผู้ช่วยโอนสายต่อเข้ามาพูดคุยเพื่อปกปิดที่อยู่ และเปิดเผยว่าตนออกนอกประเทศไทยเพื่อหลบหนีหมายจับ ขณะนี้ตนอยู่ในที่ปลอดภัยดี และกำลังร่วมกับสมัครพรรคพวกจัดตั้งสำนักงานเพื่อใช้เคลื่อนไหวต่อสู้ต่อไป
"เราได้พัฒนายุทธศาสตร์ขึ้นมาจำนวนหนึ่ง และต้องใช้เวลาสักระยะวิเคราะห์สถานการณ์" นายจักรภพ กล่าว
นายจักรภพ ระบุด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุสลายม็อบเสื้อแดงหน้าทำเนียบรัฐบาล ในกลุ่มแกนนำนปช. เองมีความเห็นไม่ลงรอยกันว่าควรประกาศสลายการชุมนุมซึ่งปักหลักประท้วงมาต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ดีหรือไม่ แต่ในที่สุดกลุ่มแกนนำในพื้นที่ก็ตัดสินใจยุติการชุมนุม ซึ่งขณะนั้นตนอยู่นอกพื้นที่จึงต้องเคารพการตัดสินใจดังกล่าว ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณนั้นยังติดต่อกันอยู่เหมือนเดิม
-"มาร์ค"เปิดใจนาทีรุมทุบรถ
เวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมส.ส.พรรค มีนายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานส.ส.พรรค เป็นประธานในที่ประชุม มีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรค นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งก่อนเริ่มประชุม นายขยัน วิพรหมชัย ส.ส.ลำพูน ได้นำพระรอดลำพูน มาแจกจ่ายให้สมาชิกพรรค และมอบให้กับนายอภิสิทธิ์ด้วย ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายอภิสิทธิ์ ได้เล่าถึงเหตุการณ์การชุมนุมประท้วง และการถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงรุมทำร้ายให้ส.ส.พรรคได้รับทราบด้วย
เวลา 15.45 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องต่อดีเอสไอ ให้สอบสวนเรื่องมีผู้เสียชีวิต 2 ราย สูญหาย 8 รายระหว่างการสลายการชุมนุมว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นกรณีของรปภ. 2 รายที่จมน้ำ แต่ไม่แน่ใจกรณีผู้สูญหายว่าเป็นใครหรืออาจเป็นแกนนำนปช. ที่หายตัวไป เช่น นายจักรภพ เพ็ญแข นายชินวัตร หาบุญพาด ซึ่งรวมแล้วอาจครบ 8 คน ส่วนที่พรรคเพื่อไทยระบุมีผู้อยู่ในเหตุ การณ์ถูกควบคุมตัวที่จังหวัดลพบุรี แต่ฟื้นขึ้นมาเห็นผู้เสียชีวิตนับ 10 รายแล้วกระโดดหนีมาได้ที่จังหวัดสิงห์บุรีนั้น ต้องถามว่าหากไปจ.ลพบุรี ทำไมต้องผ่านจ.สิงห์บุรีด้วยหรือ หากจะสร้างเรื่องขึ้นมาควรสร้างเรื่องให้เป็นเหตุเป็นผลด้วย
-อ้างครม.รับรองออกพรก.
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยส่งทนายไปร้องต่อศาลยุติธรรมว่าการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ขอความเห็นชอบจากครม.ภายใน 3 วัน ตามที่หนังสือพิมพ์บางฉบับตั้งข้อสังเกตชี้นำไว้ นายเทพไท กล่าวว่า การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาลดำเนินการถูกต้องตามมาตรา 4 และ 5 ยืนยันว่าการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้รับการรับรองจากครม. และดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของสำนักงานเลขาธิการนายกฯ ส่วนที่นายจตุพร ข่มขู่จะไปมอบตัวกับตำรวจพร้อมคนเสื้อแดงอีก 3 แสนคนนั้น กรณีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ออกหมายจับคนเสื้อแดง 3 แสนคน อีกทั้งวันที่รัฐบาลประกาศขอให้มวลชนคนเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล มีผู้ชุมนุมเพียงแค่ 2,000 คน บางส่วนต้องการออกจากที่ชุมนุม แต่ถูกการ์ดข่มขู่ไม่ให้ออกมา โดยระบุว่าอาจถูกตำรวจและทหารจับดำเนินคดี ซึ่งที่สุดแล้วตำรวจก็แจ้งความดำเนินคดีกับหัวโจกผู้ปลุกระดมคนเสื้อแดงและผู้ที่ก่อความเสียหายทำลายทรัพย์สินทางราชการเท่านั้น ดังนั้นนายจตุพร อย่าเอามวลชนเสื้อแดงมาเป็นเกราะกำบังตัวเพื่อปัดความรับผิดชอบ
-เผยคนเจ็บ25รายยังนอนรพ.
วันเดียวกัน นายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข กล่าวว่า ได้ให้สำนักงานหลักประ กันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ รวบรวมค่ารักษาผู้บาดเจ็บทั้งหมด ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยา จ.ชลบุรี วันที่ 10-11 เมษายน 2552 และที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.เป็นต้นมา เบื้องต้นมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 14,063,257 บาท ประกอบด้วยที่พัทยา จ.ชลบุรี มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 17 ราย รวมค่ารักษาทั้งหมด 260,705 บาท และที่กทม. มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 135 ราย มีค่ารักษารวมทั้งหมด 13,802,552 บาท
นายวิทยา กล่าวต่อว่าขณะนี้คงเหลือนอนรักษาทั้งหมด 25 ราย เป็นชาย 24 ราย หญิง 1 ราย ในโรงพยาบาล 9 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี 2 ราย ยังอยู่ในห้องไอซียู 1 ราย โรงพยาบาลรามาธิบดี 4 ราย โรงพยาบาลทหาร ผ่านศึก 10 ราย โรงพยาบาลมิชชั่น 1 ราย โรงพยาบาลหัวเฉียว 2 ราย (ชาย 1 ราย หญิง 1 ราย) โรงพยาบาลกลาง 1 ราย โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 3 ราย โรงพยาบาลตำรวจ 1 ราย และโรงพยาบาลบางกอก 9 อินเตอร์ 1 ราย
-สั่งเด้ง"ผบช.ภ.-ผบก.ชลบุรี"
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 170/2552 เรื่องข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการและรักษาราชการแทน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 และมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และข้อ 8(1) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราช การตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 จึงออกคำสั่งไว้ต่อไปนี้ ให้พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผบช.ภ. 2 ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผู้ช่วยผบ.ตร.รักษาราชการแทนในตำแหน่งผบช.ภ. 2 อีกหน้าที่หนึ่งทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 20 เม.ย.
นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังลงนามในคำสั่งสำนัก งานตำรวจแห่งชาติที่ 171/2552 ให้พล.ต.ต. บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ชลบุรี ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และให้พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ รองผบช.ภ. 2 รักษาราชการแทนอีกตำแหน่งหนึ่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเหตุผลการสั่งช่วยราชการในครั้งนี้เกิดจากการปล่อยให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เข้าไปก่อความวุ่นวายในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน+3+6 ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จนต้องล้มเลิกการประชุมไปกลางคัน ทำ ให้นายอภิสิทธิ์และรัฐบาลไทยเสียหน้าอย่างมาก
-มาร์คระบุม็อบจะเอาให้ตาย
ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค แถลงผลการประชุมส.ส.ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รายงานสถานการณ์ทางการเมืองและแนวทางแก้ไขปัญหา นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่าการดูแลรักษาความสงบของบ้านเมืองที่ผ่านมากำชับให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด ไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ทหารและตำรวจก็ทำหน้าที่ตามนโยบายรัฐบาลในช่วงประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างดี ทำให้เหตุการณ์ไม่ขยายวงลุกลามออกไป ส่วนนายสุเทพนำยอดผู้บาดเจ็บมารายงาน ยืนยันว่าไม่มีผู้เสียชีวิตจากการทำงานของทหารแม้แต่คนเดียว นายสุเทพ ยังเป็นห่วงการสร้างหลักฐานเท็จบิดเบือนความจริงกรณีผู้สูญหาย บาดเจ็บและเสียชีวิตระหว่างการประชุมร่วม 2 สภา เท่าที่ตน ตรวจสอบข้อมูลวีดิทัศน์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำมาฉายที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ สื่อต่างประเทศทั้งสำนักข่าว โทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ ปฏิเสธการเป็นเจ้าของภาพ คนเสื้อแดงอ้างว่าได้มาจากสื่อต่างประเทศที่รายงานผู้เสียชีวิตจึงไม่เป็นความจริง ที่ประชุมยังเห็นตรงกันว่าวีดิทัศน์ดังกล่าวผ่านการตัดต่อเพื่อให้เกิดความสับสน เข้าใจผิด สร้างความเกลียดชังทหารและรัฐบาล นำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่
รายงานข่าวจากที่ประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า ในที่ประชุมนายอภิสิทธิ์ ได้เล่าบรรยายและความรู้สึกที่มีต่อเหตุการณ์ที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงล้อมทั้งที่พัทยา จ.ชลบุรี และที่กระทรวงมหาดไทย ว่าเป็นการหมายเอาชีวิตให้ถึงตาย ซึ่งนายสุเทพ ได้กล่าวเสริมว่า ในฐานะที่ตนได้อยู่ในรถคันเดียวกับนายกฯ ในเหตุการณ์ที่กลุ่มเสื้อแดงทุบรถที่กระทรวงมหาดไทย เห็นว่านายกฯ ไม่มีท่าทีตกใจ แต่นายกฯ เป็นคนที่ใจเย็นและนิ่งมาก ขณะที่ตนคิดว่าหากกลุ่มเสื้อแดงทำสำเร็จ ก็อาจจะได้ตนเป็นของแถมไปด้วย และเหตุการณ์อาจจะพลิกไปจากตอนนี้ และการที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ตนเป็นผู้สั่งการในการแก้ปัญหาต่างๆ นั้น ไม่เป็นความจริง แต่เป็นการตัดสินใจของนายกฯ คนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมส.ส.หลายคนได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนายกฯ โดยนายธวัชชัย อนามพงษ์ ส.ส.จันทบุรี ได้ลุกขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือขอให้นายกฯ อย่าประมาท
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า เหตุการณ์สลายม็อบสีแดงไม่มีผู้เสียชีวิต ตนบอกกับนายณัฐวุฒิว่าจะไปพูดเรื่องนี้ทำไม จะมาโวยวายทำไม ทหารยิงขึ้นฟ้า ไม่ได้มีคนตาย จบแล้วไปเริ่มใหม่ ในพื้นที่ที่ไม่มีกฎอัยการศึกก็ตั้งเวทีทำพื้นที่ฐานเสียงไป อีก 2 ปีได้กลับมาแน่ เพราะคนเลือก จะมาพูดทำไมว่าทหารยิงคนตาย ส่วนคนตายที่นางเลิ้ง น่าจะเป็นฝีมือนักรบโรนิน เพราะรู้ว่าไอ้คนที่ตายมีปืน เป็นคนของส.ส.ประชาธิปัตย์ สรุปคือตาย 2 ศพ ที่นางเลิ้งไม่เกี่ยวกับทหาร เพราะนอกเวลาราชการ
-"แม้ว"เปิดใจกับสื่อเยอรมัน
วันเดียวกัน เว็บไซต์ข่าวหนังสือพิมพ์สปีเกล สื่อสิ่งพิมพ์เยอรมนี เผยแพร่บทสัมภาษณ์พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไทยในนครดูไบ เรื่อง "I"m Like a Rat." (ผมก็เหมือนหนูตัวหนึ่ง) เนื้อหาส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับที่พ.ต.ท. ทักษิณเคยให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติหลายสำนักหลังเกิดเหตุสลายผู้ชุมนุมเสื้อแดง
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงกล่าวโจมตีรัฐบาลไทยต่อไปว่าโกหกเรื่องยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายม็อบเสื้อแดง ตนไม่เคยเข้าไปสั่งการ หรือจ่ายเงินสนับสนุนกลุ่มเสื้อแดง นอกจากนั้น ยังเรียกร้องขอพึ่งพระบารมีเพื่อยุติความขัดแย้ง เมื่อผู้สื่อข่าวสปีเกลถามว่า "ครั้งหนึ่ง มีคนมองว่าคุณเป็นผู้ใกล้ชิดสถาบัน" พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "ใช่ แต่คณะบุคคลที่อยู่รอบข้างสถาบันเกลียดผม ประธานองคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลทหาร ร่วมกันใช้การรัฐประหารโค่นผม"
อดีตนายกฯ ของไทยเปรียบเทียบให้นายเบิร์นฮาร์ด ซานด์ นักข่าวสปีเกล ฟังด้วยว่าขณะนี้ตนมีสภาพเหมือนหนูที่อยู่ในบ้าน กลุ่มคนดังกล่าวพยายามจับตนให้ได้ถึงขั้นยอมเผาบ้านตัวเอง ต่อข้อถามว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยยังนิยมในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น จะสามารถทำอะไรมากกว่านี้เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ พ.ต.ท. ทักษิณตอบว่า คงทำไม่ได้ ทางออกเพียงทางเดียว คือ ต้องใช้แนวทางสันติวิธีสร้างความสมานฉันท์ในวงกว้าง ความรุนแรงในประเทศไทยมีสาเหตุจากรัฐบาล ซึ่งมีกองทัพหนุนหลัง และคนกลุ่มนี้เองที่เข้าไปปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ฆ่าประชาชนเพื่อปลุกปั่นความวุ่นวาย
เมื่อเวลา 18.00 น. ที่บก.ทบ. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาร่วมประชุมกับกองทัพบก ที่ประชุมมีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับกรณีนายจตุพร ออกมาระบุว่าเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 13-14 เม.ย.ที่ผ่านมา ถูกเจ้าหน้าที่ทหารทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตหลายรายพร้อม กับเตรียมนำวีซีดีมาเปิดเผย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้ยืนยันกับนายสุเทพ ว่า การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในวันดังกล่าวดำเนินการไปตามกฎหมายและดำเนินการอย่างละมุนละม่อม ไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงเสียชีวิตตามที่นายจตุพรกล่าวอ้าง
-"อ๋อย"แฉมาร์คนิรโทษให้พธม.
เมื่อเวลา 15.25 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางโดยรถตู้มาเยี่ยม นายวีระ นายณัฐวุฒิ และนายแพทย์เหวง แกนนำ นปช.ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งคณะของนายจาตุรนต์ได้จอดรถไว้ที่หน้าบ้านพักของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ใกล้กับประตูทางเข้า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตชด.ได้นำรถตู้ของตำรวจนำคณะของนายจาตุรนต์เข้าไปภายในค่ายอีกครั้ง สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปมีญาติและเพื่อนของแกนนำทั้ง 3 ต่างทยอยกันมาเยี่ยมอยู่ตลอดเวลา
ต่อมา เวลา 17.45 น. นายจาตุรนต์ ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อกล่าวหานั้นเป็นการปราศรัยบนเวที แต่ก็ได้ปฏิเสธที่จะให้ประกันตัว ซึ่งนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ 2 มาตรฐานด้วยกันอยู่ในขณะนี้ เช่นการแทรกแซงสื่อสั่งปิดวิทยุชุมชน ปิดสถานีดีสเตชั่น ปิดเว็บไซต์ต่างๆ มีพฤติกรรมของเผด็จการเหมือนระบอบเผด็จการหลังรัฐประหาร จะต่างกันอยู่แค่มีนายกฯ ที่มาจากส.ส.มาคอยอำนวยการให้มาคอยชี้แจงให้กับคณะผู้ยึดอำนาจ เวลานี้ต่างกันแค่นี้เอง เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องรีบยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็ว ยกเลิกการแทรกแซงและปิดกั้นสื่อ ควรรีบดำเนินคดีกับพันธมิตรที่กระทำความผิดในที่ต่างๆ ตนไม่เห็นด้วยถ้าหากว่ารัฐบาลจะนิรโทษกรรมตนหรือ 111 คน เพื่อแรกกับการที่จะนิรโทษกรรมกับพันธมิตร ซึ่งตนสงสัยว่ารัฐบาลจะนิรโทษกรรมนั้นต้องการนิรโทษกรรมให้พันธมิตรมากกว่า และจะนิรโทษกรรมให้เจ้าหน้าที่ที่สลายการชุมนุมในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งตนเห็นว่าการสลายการชุมนุมในช่วงสงกรานต์ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มคนร้ายลอบสังหารนายสนธิว่าเป็นการเกิดทีหลัง รัฐบาลจะมาอ้างว่ายังไม่เกิดความสงบเรียบร้อยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจึงยังคงต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีกระยะหนึ่ง ในส่วนนี้จะเป็นข้ออ้างของรัฐบาล แต่การชุมนุมได้ยุติลงไปแล้ว กรณีการลอบยิงนายสนธิ ก็ควรจะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมได้ ไม่ใช่ต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากหลายวันที่ผ่านมาไม่มีความชอบธรรมและไม่มีเหตุผลที่จะยังคงไว้ เพราะทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ
-ตร.แถลงโต้2มาตรฐาน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้เปิดแถลงข่าวกรณีที่ตำรวจถูกกล่าวหาดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมกับกลุ่ม นปช.แตกต่างจากกลุ่มพธม. โดยมีตัวแทนของตำรวจหน่วยต่างๆร่วมชี้แจง ประกอบด้วย บช.น., บช.ภ.1 บช.ภ.2
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.กล่าวว่าการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งสองกลุ่มเหมือนกัน ตำรวจไม่มีสองมาตรฐาน คดีของกลุ่ม พธม.มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งเรื่องการปิดล้อมทำเนียบมี 2 คดี การปิดล้อมสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที แต่การชุมนุมเลิกไปก่อน จึงต้องขออนุมัติออกหมายเรียก เพราะเราเชื่อว่ามีพฤติกรรมหลบหนี ขณะนี้ความคืบหน้าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ คดีมีความคืบหน้าไปทั้งหมด ส่วนคดี นปช.ที่ออกหมายจับทันที เพราะต้องการยับยั้งเหตุร้ายแรงที่เกิดขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทุบรถนายกรัฐมนตรี การปิดล้อมกระทรวงมหาดไทย สร้างภาพลักษณ์เสียหายไปทั่วโลก ส่วนการตั้งรางวัลนำจับนปช. เพราะมีพฤติกรรมที่รุนแรง มีการใช้ด้ามธงแทงรถ ถ้าเป็นต่างประเทศ รปภ.ยิงไปแล้ว และที่ออกหมายจับเพราะเราไม่ทราบชื่อผู้ก่อการร้าย ทราบเพียงคนเดียวคือนายสุพร อัตถากร ตนคิดว่าเงินนำจับ 50,000 บาทน้อยไปด้วยซ้ำ
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวต่อว่าส่วนการใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่ออกมาก่อนหน้านี้สองครั้งแต่ไม่มีการบังคับใช้เหมือนออกมาแก้บน เพราะไม่มีการกำหนดสถานที่ในการควบคุม เนื่องจากในกฎหมายไม่ยอมให้จับไปคุมขังที่สถานีตำรวจ หรือสถานที่อื่นใด และการที่ตำรวจไม่ยับยั้งผู้ชุมนุม เพราะเราไม่มีกฎหมายรองรับในเรื่องนี้ ส่วนข่าวว่ามีการจับผู้ชุมนุมไปขังไว้ที่ค่ายทหารที่ จ.สระบุรีนั้นมีจริง แต่ทุกคนถูกดำเนินคดีถูกต้องตามกฎหมายไม่ได้หายไปไหน
-คดียึดสุวรรณภูมิก็คืบหน้า
ด้านพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1. กล่าวว่าคดีพธม.บุกสนามบินสุวรรณภูมิมีจำนวน 10 คดี ทราบตัว 4 คดี ไม่ทราบอีก 6 คดี คาดว่าสัปดาห์นี้จะสอบสวนแล้วเสร็จ ที่ล่าช้าเนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องรอสอบปากคำพนักงานของท่าอากาศยานและหน่วยงานต่างๆ ที่เขาก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนในส่วนของเค้า
ส่วนพล.ต.ต.ปราโมช รอง.ผบช.ภ.2. กล่าวว่ามี 3 คดี แบ่งเป็นคดีทุบรถนายกฯ วันที่ 7 เม.ย. ออกหมายจับ 12 จับได้ 1 คนคดีทำร้ายรปภ.นายกจับกุมแล้ว 2 คนออกหมายจับ 3 คน คดีบุกรร.รอยัลคลีฟ บีช ออกหมายจับ 18 คน จับ 3 คน คดีเสร็จไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้เรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีกลุ่มเสื้อน้ำเงินเข้าไปก่อเหตุกรณีประชุมอาเซียน ที่พัทยา และอาจเป็นตำรวจหรือทหารนอกเครื่องแบบ รวมทั้งมีนาย เนวิน ชิดชอบ เข้าไปบัญชาการด้วย ผบ.ตร.ตอบว่าตนเดินทางไปโดยเฮลิคอปเตอร์ ไม่เห็นกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน เรื่องนี้ได้ตั้งพล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติไปดำเนินการแล้ว ส่วนนายเนวินมีส่วนหรือไม่ไม่ทราบ