ชีวิตบนคมกระสุนจากเฮียเหลาถึงสนธิ

คมชัดลึก : การเดินทางของเวลาบางนาทีเนิบช้า จนก้าวย่างลับล่วง บางนาทีฉับไว ยากก้าวตาม มีเพียงเหตุการณ์เท่านั้นที่สอดคล้อง จวบจนวันวานกับวันนี้ดูผาดไม่ผิดเพี้ยน 18 ปีให้หลังการยิงถล่มสังหารเจ้าพ่อเบอร์ 1 ของเมืองหลวงนาม "เฮียเหลา สวนมะลิ" เจ้าของนามอุโฆษ "แคล้ว ธนิกุล" แทบไม่ต่างจากความพยายามสังหาร "สนธิ ลิ้มทองกุล"


หากย้อนเวลาหวนกลับไปราว 20-30 ปีก่อนไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าพ่อผู้ยิ่งยงหนึ่งเดียวผู้นี้

ผู้กำชะตาชีวิตผู้คนมากมายไว้ในอุ้งมือ เจ้ายุทธจักรแห่งวงการมวย กับการรั้งตำแหน่งนายกมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เวลาย่างกรายไปไหนมีบริวารล้อมหน้าล้อมหลังอย่างคนมากบารมี ความยิ่งใหญ่ของเฮียเหลา สวนมะลิ ก่อกำเนิดศัตรูมากหลาย แม้ไม่เปิดเผยตัว แต่แน่ชัดว่ามีคนรักย่อมมีคนชัง


เฮียเหลาถูกลอบสังหารหลายครั้งหลายครา เขารอดตายจากเหตุลอบวางระเบิด โยนระเบิด และกระหน่ำยิงอย่างน้อย 2 ครั้งติดต่อกันในเวลา 2 ปี

กระทั่งหัวค่ำวันที่ 5 เมษายน 2534 ขณะเดินทางกลับจากงานเลี้ยงโรงแรมแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำมุ่งหน้าไป จ.สมุทรสงคราม กับ "สกุลยุทธ ทองสายพาน" หรือ "ตี๋ ดำเนิน" เจ้าของฉายามือปืนร้อยศพ
ขณะรถกระบอีซูซุ สีดำ ทะเบียน 1ณ-5228 กรุงเทพมหานคร ที่มีตี๋ ดำเนินเป็นคนขับ ส่วนเฮียเหลานั่งอยู่เบาะหลัง วิ่งไปตามถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ผ่านหลักกิโลเมตรที่ 54-55 หมู่ 1 ต.ทรงคะนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม จู่ๆ ก็มีรถกระบะนิรนามสีดำ 2 คันไล่จี้ตามรถกระบะเฮียเหลา ก่อนจะแซงประกบด้านข้าง มือปืนที่ซ่อนตัวอยู่บนกระบะหลังใช้ผ้าคลุมหน้าสีแดงคล้ายหมวกไอ้โม่ง หยิบปืนเอ็ม 16 อาก้า และเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ออกมาสาดกระสุนเข้าใส่รถเป้าหมายไม่ยั้ง


ห่ากระสุนจากอาวุธปืนสงครามนานาชนิดระดมเข้าใส่ตี๋ ดำเนิน จนใบหน้าหายไปครึ่งซีก ไม่เปิดโอกาสให้ยิงสู้ได้เลย

เขาเสียชีวิตขณะที่มือขวายังกำปืน 11 มม.กระสุนเต็มแม็กกาซีนเอาไว้แน่น ส่วนนายกสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยกลายเป็นอดีตไปทันที สภาพศพเฮียเหลา สวนมะลิ นอนซุกอยู่กับเบาะรถ ภายในปากอมพระเครื่องไว้หวังให้ช่วยบรรเทา แต่ผู้กว้างขวางนามนี้ก็สิ้นใจด้วยหัวกระสุนเจาะใกล้หัวใจ


เวลาเดินหน้าไปอย่างยาวนานถึง 18 ปีต่อมา มีความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งหมายสังหาร "สนธิ  ลิ้มทองกุล" แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

และผู้ก่อตั้ง นสพ.ผู้จัดการ ในแบบแผนที่แทบจะไม่ผิดเพี้ยนกันเลยกับที่เคยเกิดขึ้นกับ "แคล้ว ธนิกุล"  
จะมีต่างบ้างก็ในรายละเอียดปลีกย่อย เช่น การมีทีมสังหาร 2 ชุดบนรถ 2 คัน เตรียมพร้อมสำหรับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น กับสถานที่เกิดเหตุบนถนนสายหลักนอกเมืองกับใจกลางเมืองหลวงเท่านั้น


นอกจากนั้นไม่ว่าจะมองจากแง่มุมไหนก็ละม้ายคล้ายกันไม่ผิดแผก ทั้งอาวุธสงครามที่ใช้ เอ็ม 16 อาก้า และเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79

รูปแบบการลงมือที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงของคนที่ผ่านการฝึกปรือมาแล้ว
มีจุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ เมื่อครั้งที่แคล้ว ธนิกุล ถูกยิงถล่มจนด่าวดิ้นนั้น อยู่ในช่วงที่ทหารกุมอำนาจในนามสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ภายใต้การนำของ "บิ๊กจ๊อด" พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) นั่งเป็นประธาน  ครั้งนั้น รสช.มีนโยบายให้กรมตำรวจ (เดิม) ดำเนินการกวาดล้างบรรดามาเฟียมากอิทธิพล โดยมีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินรวบรวมสถานภาพทางการเงิน เพื่อกำหนดตัวผู้มีอิทธิพลเบื้องต้น 7 คน รายงานมายัง รสช.

สำหรับกรณีของ "สนธิ" นั้น ต้องยอมรับว่ามีบทบาทในเวทีการเมืองข้างถนนอยู่มาก เป็นแกนนำมวลชนต่อต้านระบอบทักษิณาธิปไตย จนล้มล้างรัฐบาลทักษิณและนอมินีลงในที่สุด

ท่ามกลางการสูญเสียอำนาจย่อมมีบางคนที่สูญเสียผลประโยชน์ และท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองกับหลากเสื้อสีสัญลักษณ์เชิงนัยท้ายที่สุดจึงตกเป็นเป้าสังหาร แม้จะอยู่ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีทหารเป็นกำลังหลักคอยดูแลอยู่ก็ตาม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์