บลูมเบิร์ก อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยนายสมัคร สุนทรเวช
1 ใน 37 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับฐานเป็นผู้นำและยุงยงให้เกิดเหตุจลาจลขึ้น ซึ่งขณะนี้หลบซ่อนตัว โดยไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ให้สัมภาษณ์จากสถานที่ที่ไม่เปิดเผยระบุว่า การต่อสู้ของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลยังไม่ยุติ และเตรียมแผนที่จะปฏิบัติการอีกในเร็วๆนี้ หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไม่เสนอแนวทางสมานฉันท์ที่แน่วแน่มั่นคงให้กับพวกตน ซึ่งได้วางแผนที่จะหลบอยู่ใต้ดินนานเท่าที่จำเป็น การต่อสู่ในไทยมันไปไกลเกินกว่าจุดที่จะยอมยกเลิกไปเฉยๆแล้ว นี่คือจุดที่ไม่ว่าฝ่ายไหนตากก็สามารถระดมผู้เข้าร่วมจำนวนมหาศาลได้ แล้วเมื่อคุณมีพลวัตรทางการเมืองแบบนี้อยู่ ไม่มีใครบอกได้จริงๆหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นเป็นลำดับถัดไป"
นอกจากนี้ นายจักรภพยังให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีทางโทรศัพท์ด้วย โดยกล่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงมีแผนที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลครั้งใหม่ใน 2-3 วันข้างหน้า
ซึ่งจะเป็นการชุมนุมกันเล็กๆและถูกต้องตามกฎหมาย และยังจะมีการชุมนุมกันที่ทำเนียบรัฐบาลอีก แต่ยังไม่มีการกำหนดวัน นายจักรภพ ยังอ้างอีกว่า กองทัพได้ใช้ทหารซึ่งเชื่อว่าเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพอากาศ แฝงตัวเข้ามาอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงในการเเคลื่อนไหวก่อความรุนแรงเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มเสื้อแดง เช่น การจุดไฟเผารถโดยสาร มีการจัดฉากให้เกิดความวุ่นวาย ทำให้เกิดการนองเลือด ซึ่งไม่ใช่ฝีมือของพวกเรา" นายจักรภพกล่าว พร้อมกับยอมรับว่าอาจมีเสื้อแดงบางคนที่ไปร่วมก่อความรุนแรงด้วยโดยไม่รู้เท่าทัน
นายจักรภพยังกล่าวถึงความพยายามลอบสังหารนายสนธิว่า เป็นการจัดฉากของคนในกองทัพและพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นการให้ไฟเขียวกองทัพในการทำลายทุกสี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดง นายสนธิตกเป็นเป้าหมายสังหารเพราะนายสนธิรู้มากเกินไปและควรจะถูกเก็บ
วันเดียวกัน นายจักรภพยังได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แก่สำนักข่าวเอเอฟพี
ซึ่งถูกระบุว่า เป็นการโทรศัพท์กลับมาหาเอเอฟพีจากสถานที่แห่งหนึ่งในต่างประเทศ ที่นายจักรภพระบุว่าใ ช้เป็นที่ซ่อนตัวอยู่ แต่ไม่ขอเปิดเผยและให้ผู้ช่วยเป็นคนโทรศัพท์มา เพื่อป้องกันการถูกสะกดรอยตาม โดยนายจักรภพกล่าวว่า เหตุที่ต้องหลบหนีออกนอกประเทศก็เพื่อหลีกเลี่ยงหมายจับกุมในข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง เขาระบุว่า กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในที่ที่ปลอดภัยและกำลังตั้งสำนักงานเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวต่อไป โดยได้ปรับยุทธศาสตร์บางอย่าง จึงต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น
"การตัดสินใจที่จะยุติการชุมนุมนั้นไม่ได้เป็นมติเอกฉันท์ แต่ผมเคารพการตัดสินใจของแกนนำที่อยู่ที่นั่น เพราะตัวผมเองไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย เนื่องจากผมไม่สามารถติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากภายนอกได้ ผมจึงตัดสินใจที่จะหนีออกนอกประเทศเมื่อมีการสลายการชุมนุม" นายจักรภพกล่าว
นายจักรภพกล่าวว่า ได้ติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณที่เมื่อเร็วๆนี้เมื่อตอนยังอยู่ที่ดูไบ แต่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เป็นคนสั่งการในสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ที่นี่