แชมป์แฟนพันธุ์แท้ร่วมล่ามือปืนดูวงจรปิดรถยิงสนธิ

ตำรวจพยายามคลี่คลายคดีมือสังหารปฏิบัติการโหดใช้ปืนสงครามดักยิงถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำคนสำคัญของพันธมิตรฯ เมื่อตอนตีห้า วันที่ 17 เม.ย.

โดยเมื่อเช้าวันที่ 19 เม.ย. พล.ต.ท. วรพงษ์  ชิวปรีชา  ผบช.น. ประชุมฝ่ายสืบสวนติดตามความคืบหน้า หลังจากนั้น ได้เปิดเผยว่า ประสานงานกับทหารเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ มีข้อมูลตรงกันว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้ครั้งนี้ คล้ายกับรถที่ลงมือยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ผบช.น. กล่าวต่อไปว่า  ที่ศาลรัฐธรรมนูญคนร้ายยิงเอ็ม 79 ถึง 3 ครั้ง  เนื่องจาก 2 ครั้งแรกระเบิดไม่ทำงาน ต้องขับรถวนกลับมายิงอีกครั้ง ซึ่งการยิงนายสนธิเชื่อว่า มีอย่างน้อย 7 คนขึ้นไป พล.ต.อ.ธานี  สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ควบคุมคดีในพื้นที่นครบาลแทน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง  ผบ.ตร. ที่ย้ายไปดูแลส่วนอื่น และจะเริ่มประชุมทีมงานอีกครั้งวันที่ 20 เม.ย. พร้อมกันนั้นติดต่อไปยังนายปัญญา นิรันดร์กุล พิธีกรชื่อดังเจ้าของบริษัทเวิร์คพอยด์ฯ ซึ่งผลิตรายการแฟนพันธุ์แท้  ให้ช่วยนำผู้แข่งขันที่ชนะเลิศตอนแฟนพันธุ์แท้รถกระบะ มาดูรถกระบะในภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวน    

เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.พงษ์นเรศ  ตันติวัฒนา รอง  ผกก. ฝ่ายวิทยาศาสตร์ กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ บก.พฐ.

พร้อมทีมงานมาถอดล้อรถยนต์ของนายสนธิคันที่ถูกยิง ตรวจหาร่องรอย ที่ล้อหน้าด้านซ้ายไม่พบหัวกระสุน  มีเพียงรอยถูกยิง 1 รู ที่ล้อหน้าด้านขวาถูกยิง 1 รู พบหัวกระสุนปืนอาร์ก้า 1 หัว สภาพเกือบสมบูรณ์ ที่ล้อหลังด้านซ้ายถูกยิง 1 รู พบหัวกระสุนแตกเป็นเศษโลหะเนื้อทองแดง 1 ชิ้น อีกหนึ่งชิ้นเป็นเศษหัวกระสุนโลหะสีเงินไม่ทราบขนาดอีก 1 หัว ส่วนล้อหลังขวามีเศษหัวกระสุนเป็นโลหะทองแดง 1 ชิ้นและมีรอยถูกยิง 2 รู สำหรับสาเหตุที่ต้องมาตรวจล้อรถยนต์นั้น เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าคนร้ายวางแผนดักซุ่มยิงโดยวางเรือใบดักรถ จากการตรวจไม่พบว่าล้อโดนเรือใบ แต่ถูกลูกกระสุนปืนเท่านั้น
 

พ.ต.อ.ขิง  แขวงวิเศษชัยชาญ  ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า ได้ประสานงานกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจหาลูกหัวกระสุนในล้อรถ และเปรียบเทียบพฤติกรรมคนร้ายที่เริ่ม จากการยิงยางก่อน

เพื่อให้รถหยุดก่อนจะยิงคน เพื่อหาว่ามีคนร้ายกลุ่มใดบ้างทำแบบนี้ สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในส่วนของ สน.ชนะสงครามนั้น
 ได้ร่วมมือกับทหารหลายสังกัดร่วม 100 นาย ตั้งด่าน 5 จุด บริเวณสะพานปิ่นเกล้า   แยกบางลำพู หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ หน้าธนาคารแห่งประเทศไทย และเดินสังเกตการณ์รอบสนามหลวง   


สำหรับที่หน้าสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ถนนพระอาทิตย์ พ.ต.อ.ขิง กล่าวว่า ได้ตั้งด่านตรวจป้องกันเหตุหลังจากการลอบยิงนายสนธิ

ซึ่งอาจเกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นได้ สำหรับความคืบหน้าคดียิงนายสนธินั้น ขอให้ถามข้อมูลจาก พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. โดยตรงจะได้ไม่คลาดเคลื่อน และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
ส่วนที่ ตึก สก.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นที่รักษาตัวนายสนธิ กับคนขับรถ และผู้คุ้มกันที่ถูกยิงบาดเจ็บนั้น   พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ. ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน มาตรวจความปลอดภัย   ขณะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำนวนมาก มาลงชื่อในสมุดเยี่ยม อาทิ นายสนิท วรปัญญา  อดีตประธานวุฒิสภา นายมารุต บุนนาค ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายชัยอนันต์ สมุทวานิช นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต นายสุขสันต์ เจริญจิตรตระกูล อดีตการ์ดพันธมิตรฯ ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขาต้องใช้เหล็กดาม จากเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลา 2551 โดย นายสุขสันต์ กล่าวว่า เดินทางมาจาก จ.ชลบุรี  เพราะเป็นห่วงนายสนธิมาก เมื่อทราบว่าอาการดีขึ้นแล้วก็เบาใจ  

ขณะที่เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมมงคลนาวิน ชั้น 10 ตึก สก.

รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายบริหาร และรักษาการ ผอ.รพ.ฯ  ศ.นพ.สุวิทย์  ศรีอัษฎาพร ศัลยแพทย์ ผศ.นพ.สุรชัย เคารพธรรม ศัลยแพทย์ระบบประสาท ร่วมแถลงข่าวว่า นายสนธิอาการดีขึ้นตามลำดับ ไม่มีอาการแทรกซ้อน ลุกขึ้นเดินได้ ทานอาหารได้ตามปกติ รักษาตัวอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ตัดไหมแล้วสามารถกลับบ้านได้ ส่วนนายวายุภักดิ์  มังคละสินธุ์ เลขานุการและการ์ดประจำตัว ได้รับบาดเจ็บที่แขนและขา อาการดีเช่นกัน ทั้งคู่ออกจากห้องไอซียูแล้ว    
               

สำหรับนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถนั้น ศ.นพ.สุวิทย์ ศรีอัษฎาพร ศัลยแพทย์ กล่าวว่า สมองบวม แต่หลังจากผ่าตัดครั้งที่ 3 ผลเป็นที่น่าพอใจ


สมองคงที่ ควบคุมภาวะต่างๆ ได้ รู้สึกตัวและตอบสนองได้ดี เช่นบอกให้ลืมตา  ยกแขนก็ทำตามได้ ส่วนอาการแขนขาที่ไม่มีแรงนั้น อาการยังคงเหมือนเดิม บาดแผลที่แขนข้างขวาและหน้าอกอาการน่าพอใจ ต้องใช้เวลาพักฟื้นสักระยะ และจะดูอาการวันต่อวัน เพราะยังไม่พ้นขีดอันตราย และต้องอยู่ในห้องไอซียู รศ.นพ.อดิสร    ภัทราดูลย์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ยังได้กล่าวชื่นชมการรักษาของโรงพยาบาลมิชชั่นและโรงพยาบาลวชิระว่าสามารถรักษาเบื้องต้นได้ดีและมีมาตรฐานดีมาก ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการรักษาความปลอดภัยที่ นายสนธิ ระบุว่า ต้องการให้การ์ดส่วนตัวมาดูแลนั้น รศ.นพ.อดิศร    ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานกัน ติดกล้องวงจรปิดบันทึกภาพบุคคลเข้าออกตลอดเวลา เพิ่มกำลังคนมากกว่าปกติ                              
 

เวลา 12.20 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ นายสำราญ รอดเพชร นายสาธิต แก้วหวาน แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 มาที่ตึก สก. เข้าเยี่ยมนายสนธิโดยใช้เวลา 30 นาที


หลังจากนั้น นายพิภพ กล่าวว่า นายสนธิอาการดีขึ้น ไม่วอกแวกไม่ระแวง ไม่หวาดกลัว ไม่ได้มีความเป็นห่วง และไม่ทำให้ทุกคนรู้สึกกังวล ส่งผลให้แกนนำพันธมิตรฯและคนเสื้อเหลืองเข้มแข็งขึ้น แต่พันธมิตรฯ จะยังไม่รวมตัวขับเคลื่อนทางการเมือง มีเพียงคอนเสิร์ตการเมืองสัญจรโดยต่อไปจะจัดที่ จ.ระยอง และ นครศรีธรรมราช ขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ ใช้สติปัญญา ไม่ตื่นตระหนก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเกมอำนาจที่ต้องการให้ประชาชนสอง ฝ่ายทะเลาะกัน  ดังนั้นไม่ว่ากลุ่มสีเหลือง หรือสีแดงจะต้องต่อสู้ร่วมกันแยกแยะให้ชัดเจน เพื่อหนีออกจากหลุมดำ
 

นายพิภพ ยังกล่าวอีกว่า คนที่ลอบยิง นายสนธิ เป็นคนมีอำนาจ อยู่ในอำนาจเก่า หรือเป็นคนที่กำลังจะหมดอำนาจ และใช้อาวุธสงคราม


อาวุธเหล่านี้อยู่ในกลุ่มบุคคลในเครื่องแบบ จึงไม่ยากในการสืบหา นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี จะต้องดูคดีด้วยตัวเอง แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงฝ่ายสืบสวนสอบสวน นายกรัฐมนตรีต้องกล้าตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงผู้นำด้านความมั่นคง คงไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร ดีเอสไอ ก็ต้องเปลี่ยน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะต้องจัดตั้งกองกำลังใหม่ที่มีความจงรักภักดีเข้ามาร่วมงานด้วย ถ้าไม่ใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยน ก็จะไม่มีโอกาสอีก และนายกรัฐมนตรี อาจถูกลอบทำร้าย คล้ายกับเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย
 


แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อไปว่า  พอใจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีและขอชื่นชม แต่ยังไม่เพียงพอ


เพราะเรื่องใหญ่จะทำเพียงคนเดียวไม่ได้ ต้องปรับเปลี่ยนงานความมั่นคง ตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมา เพราะผู้นำความมั่นคงขณะนี้ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ ส่วนแกนนำพันธมิตรฯ เองก็ระวังตัวเป็นปกติ ไม่หวาดกลัวอะไร เพราะเคยผ่านเหตุการณ์ 193 วันมาแล้ว มีความเข้มแข็งขึ้น ทุกฝ่ายต้องมีสติปัญญาในการตรวจสอบ อย่าขับเคลื่อนออกมาฆ่าฟันกันเอง นายสนธิถือเป็นนักหนังสือพิมพ์ การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นการคุกคามสื่อ   โดยระบอบเผด็จการของคนในเครื่องแบบซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ นายอภิสิทธิ์ ควรปฏิรูปทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมการศึกษา ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ ประกาศแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต้องระวังอย่านำอำนาจเก่ากลับมา หรือพวกอำนาจใหม่ที่มีแนวคิดเก่าเข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้ขบวนการภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาธิปไตยมีความเข้มแข็ง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์