"ธานี"นัดถกคดีลอบยิง"สนธิ" 20เม.ย. คาดคนร้ายดักซุ่มใกล้จุดเกิดเหตุไม่ได้ขับตาม ชี้ปลอกกระสุนเอ็ม 16 แบบ A-2 ใช้เฉพาะราชการหน่วยหนึ่งเท่านั้น เร่งประสาน"แฟนพันธุ์แท้" ดูภาพรถกระบะยี่ห้อ-รุ่นอะไร "สนธิ-คนติดตาม" ออกจากไอซียูรอกลับบ้าน "ภูมิใจไทย" ยัน"เนวิน"ไม่เกี่ยว
ดึงแฟนพันธุ์แท้ดูรถคนร้าย
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 19 เมษายน ว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ได้นัดประชุมพนักงานสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน วันที่ 20 เมษายน เวลา 09.30 น. หลังจากนั้น จะเรียกประชุมในคดีคนร้ายลอบยิงนายสนธิต่อ ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ได้มอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายสืบสวนไปดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยสันนิษฐานว่า คนร้ายไม่ได้ขับรถ ตามนายสนธิ แต่ดักซุ่มอยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ โดยคนร้ายมีอาวุธปืนทั้งหมด 6 กระบอก แต่ปืนเอ็ม 79 นั้น ยังไม่ทราบว่าเป็นกระบอกเดียวกับปืนเอ็ม 16 หรือเป็นคนละกระบอก ส่วนจำนวนคนร้ายคาดว่ามีประมาณ 6-7 คน ใช้รถประมาณ 2 คัน เป็นรถกระบะทั้งหมด
"ตำรวจได้ประสานไปยังผู้ที่เชี่ยวชาญ หรือแฟนพันธุ์แท้รถกระบะ เพื่อให้มาดูภาพว่ารถที่คนร้ายใช้เป็นรถกระบะ ยี่ห้อ รุ่นอะไร" ผบช.น.กล่าว และว่า พนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบปากคำนายสนธิ และผู้ติดตาม
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกกดดันหรือไม่ที่กลุ่มพันธมิตรเรียกร้องให้เร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวว่า ตำรวจมีรู้สึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นความกดดันต่อตัวเองอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ทำงานได้ให้ความเคารพต่อหน้าที่ ทำให้ตำรวจต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง และพยายามติดตามความคืบหน้าของคดีอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาตน และรอง ผบช.น.ที่เกี่ยวข้องหลายคนก็ไม่ได้กลับบ้าน บางคนทำงานและนอนอยู่ที่ บช.น.ด้วยซ้ำ
ตรวจรถหาหลักฐานเพิ่มเติม
เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.พงษ์นเรศ ตินติวัฒนา นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ประสานกับ พ.ต.ท.สุเมธ จิตต์พานิชย์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ชนะสงคราม เจ้าของคดีเข้าสอบรถยนต์ของนายสนธิ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยใช้แม่แรงขนาดใหญ่ยกรถและถอดล้อทั้ง 4 วง และยางทั้ง 4 เส้น เพื่อตรวจสอบร่องรอยและหัวกระสุน พบล้อหน้าด้านขวา ถูกยิงเข้าไปในเนื้อยาง จำนวน 1 รู และหัวกระสุนปืนอาก้า พุ่งเข้าไปชนขอบล้อแม็กซ์เป็นรอยยุบ ล้อหน้าด้านซ้าย ถูกยิงทะลุเข้าไปในเนื้อยางและแฉลบออกรวม 2 รู แต่ไม่พบหัวกระสุน ล้อหลังขวาถูกยิงเข้าไปในเนื้อยางและแฉลบออกรวม 2 รู มีเศษหัวกระสุนไม่ทราบขนาด สีทองแดง ตกอยู่ 1 ชิ้น ส่วนที่ล้อหลังซ้าย ถูกยิงทะลุเนื้อยาง 1 รู หัวกระสุนปืนไม่ทราบขนาด สีบรอนซ์เงินตกอยู่ นอกจากนี้ ยังมีเศษหัวกระสุนไม่ทราบขนาด สีทองแดงตกอยู่ 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ที่พบในที่เกิดเหตุนั้น พบว่าเป็นแบบ เอ 2 ที่ใช้เฉพาะราชการหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น
"สนธิ-คนติดตาม" รอกลับบ้าน
ด้าน นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นพ.สุรชัย เคารพธรรม ศัลยแพทย์ระบบประสาท นพ.สุวิทย์ ศรีอัษฎาพร ศัลยแพทย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน นพ.รัฐพลี ภาคอรรถ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ด้านผู้ป่วยวิกฤต และคณะแพทย์แถลงอาการของนายสนธิ ว่า อาการดีขึ้นตามลำดับ ไม่มีอาการแทรกซ้อน สามารถลุกขึ้นยืนได้ รับประทานอาหารได้ตามปกติ อาการเป็นที่น่าพอใจ รอตัดไหมและกลับบ้านได้ภายใน 7 วัน ส่วนนายวายุภักดิ์ มังคละสินธุ์ ผู้ติดตามนายสนธิ อาการก็ปลอดภัยดีน่าจะกลับบ้านได้เร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ราย พ้นขีดอันตราย และออกจากห้องไอซียูแล้ว แพทย์ให้นอนรักษาตัวสักระยะ
นพ.สุรชัยกล่าวถึงอาการของนายอดุย์ แดงประดับ คนขับรถของนายสนธิ ว่า ผู้ป่วยยังรู้สึกตัวดี มีการตอบสนองดี เช่น ให้ยกแขน หรือหลับตา ก็ยังทำตามที่แพทย์สั่งได้ ส่วนแขนขาที่อ่อนแรงนั้นอาการยังคงที่ อย่างไรก็ตามอาการขณะนี้ถือว่ายังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์คงต้องพักฟื้นในห้องไอซียูต่อไป
"อัศวิน" เยี่ยม-"วิทยา" ส่งดอกไม้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ได้เข้าเยี่ยมอาการนายสนธิ พร้อมตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรรักษาความปลอดภัย โดย พ.ต.อ.ไพศาลกล่าวว่า ยังไม่มีการปรับเพิ่มหรือลดกำลังแต่อย่างใด ยังคงวางกำลังตำรวจจบริเวณห้องโถงใหญ่ชั้น 1 วันละ 2 ผลัด ผลัดละ 12 นาย ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่บรรยากาศการลงชื่อในสมุดเยี่ยมที่ใต้ถุนตึก สก. รพ.จุฬาฯ ยังมีแนวร่วมพันธมิตรทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีบุคคลสำคัญส่งกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยม อาทิ นายสนิท วรปัญญา อดีตประธานวุฒิสภา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น
"ภูมิใจไทย" ยัน"เนวิน"ไม่เกี่ยว
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงกรณีที่นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายนายสนธิ ระบุว่านักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังมวลชนเสื้อสีน้ำเงิน ร่วมมือกับกลุ่มใหญ่ตำรวจ ทหารใหญ่ที่ใส่เกียร์ว่างและรัฐมนตรีคนหนึ่งผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนายสนธิว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน ซึ่งนายจิตตนาถอาจจะจินตนาการมากเกินไป หรือเป็นไปได้ที่อาจจะไปฟังข้อมูลของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวหานายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน ว่าอยู่เบื้องหลังกลุ่มคนเสื้อสีน้ำเงินแล้วเอามาต่อจิ๊กซอว์ ให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ สีน้ำเงินของพรรคภูมิใจไทยนั้นเป็นสีน้ำเงินของพระมหากษัตริย์ ที่พรรคต้องการจะสื่อว่าเป็นพรรคการเมืองที่จะทำหน้าที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ถูกกลุ่มบุคคลต่างๆ ก้าวล่วงอยู่บ่อยครั้ง และสีน้ำเงินไม่ต้องการความรุนแรง แตกแยก เพราะต้องการสร้างความสมานฉันท์และแก้ไขปัญหาตามระบอบประชาธิปไตย
"จริงอยู่ที่นายจิตตนาถ เป็นไทยเดย์ดอทคอม เป็นลูกชาย นายสนธิ แต่นายจิตตนาถจะไปรู้อะไรกับเรื่องการเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งอาจจะไปฟังมาจากนายจตุพร อีกทีแล้วเอามาพูด ซึ่งคนอย่างนายจตุพร นั้นใครๆ ก็รู้ว่าไม่สามารถเชื่อถือได้ นายจิตตนาถ อาจจะฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด" นายศุภชัยกล่าว
จับตาปลอกกระสุนเอ็ม16เอ-2 ใช้ในหน่วยงานหนึ่ง ดึงแฟนพันธุ์แท้ดูรถคนร้าย ภท.ยันเนวินไม่เกี่ยว
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง จับตาปลอกกระสุนเอ็ม16เอ-2 ใช้ในหน่วยงานหนึ่ง ดึงแฟนพันธุ์แท้ดูรถคนร้าย ภท.ยันเนวินไม่เกี่ยว