ระบุทีมยิงสนธิ มากกว่า5 ยังไม่ฟันธง มีสี

จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้รับบาดเจ็บพร้อมนายวายุภักดิ์ มังคละสินธุ์ ผู้ติดตามและนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ

เหตุเกิดบนถนนสามเสน บริเวณหน้าวัดเอี่ยมวรนุช เขตพระนคร กทม. เมื่อก่อนรุ่งสางวันที่
17 เม.ย. ระหว่างที่นายสนธินั่งรถโตโยต้า เวลไฟร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน วล 89 เพื่อไปจัดรายการที่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ย่านถนนพระอาทิตย์ โดยนายสนธิถูกสะเก็ดกระสุนปืนเข้าบริเวณขมับ แพทย์ รพ.วชิรพยาบาล ผ่าตัดช่วยเหลือจนอาการปลอดภัย ก่อนที่เหยื่อกระสุนปืนทั้งหมดจะถูกย้ายไปพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.จุฬาฯ

ตร.ตรวจเข้มกันเหตุร้าย

ต่อมาตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 18 เม.ย. ที่ห้องไอซียู ศัลยกรรมประสาท ชั้น 8 ตึก สก. รพ.จุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นที่พักฟื้นรักษาอาการบาดเจ็บของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นายอดุลย์ แดงประดับ พนักงานขับรถ และนายวายุภักดิ์ มังคละสินธุ์ เลขานุการและการ์ดประจำตัวนายสนธิ โดยที่ชั้นล่างยังคงมีบรรดาแฟนคลับของกลุ่มพันธมิตรฯเดินทางมาลงนามในสมุดเยี่ยมอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญได้ส่งกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมอาการ อาทิ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์รองนายกรัฐมนตรี คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทย์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของ รพ.ได้ปิดประตูด้านหน้าไม่ให้คนเข้า-ออก โดยเปิดเพียงประตูด้านหลังให้ผู้ป่วยเข้าออกได้อย่างสะดวก ขณะที่บริเวณด้านหน้าของลิฟต์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.จักรวรรดิ จำนวน 5 นาย  สับเปลี่ยนมาคอยดูแลความเรียบร้อยตลอดทั้งวัน ซึ่งจะเรียกตรวจกระเป๋าบุคคลที่จะเข้าไปภายในอาคารอย่างละเอียด

อาการโชเฟอร์ยังโคม่า

ต่อมา เวลา 09.20 น. คณะแพทย์และพยาบาลได้เข็นร่างของนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ ซึ่งมีอาการอยู่ในขั้นโคม่า กลับจากห้องเอกซเรย์ ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 8 เพื่อพักฟื้นหลังจากผ่าตัดสมอง โดยสภาพของนายอดุลย์ยังคงนอนหมดสติอยู่บนเตียงผู้ป่วยมีเครื่องช่วยหายใจครอบที่ปากอยู่ตลอดเวลา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ทางแพทย์ก็บอกว่าไม่มีอะไร เพียงแต่นำนายอดุลย์ไปเอกซเรย์หลังจากการผ่าตัดรอบ 2 เท่านั้น

แพทย์แถลง สนธิดีขึ้น

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมมงคลนาวิน ชั้น 10 ตึก สก. รพ.จุฬาฯ รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รอง ผอ. รพ.จุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหาร และรักษาการ ผอ. รพ.จุฬาฯ ศ.นพ.สุวิทย์ ศรีอัษฎาพร ศัลยแพทย์ ผศ.นพ.สุรชัย เคารพธรรม ศัลยแพทย์ระบบประสาท ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าอาการของผู้ป่วยทั้ง 3 คน ว่า ขณะนี้นายสนธิยังพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู แต่อาการโดยรวมดีขึ้นมาก สามารถพูดคุย รับประทานอาหารได้ พร้อมทั้งยังสามารถลุกขึ้นเดินและนั่งเองได้ มีเพียงอาการเวียนศีรษะเล็กน้อย สภาพร่างกายถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติเหมือนคนไข้ทั่วไปที่เริ่มฟื้นตัวหลังจากบาดเจ็บใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม แม้อาการจะดีขึ้น แต่ยังไม่พร้อมจะให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาพักรักษาตัวที่ รพ. ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้าน อย่างไรก็ตาม ยังคงงดเยี่ยม เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนเต็มที่และเป็นการรักษาความปลอดภัยไปในตัว

ผ่าตัดสมองคนรถอีกครั้ง

ผศ.นพ.สุรชัย กล่าวถึงอาการของนายอดุลย์ ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้นำตัวไปเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ทางสมอง เนื่องจากพบว่ามีอาการซึมผิดปกติ หลังจากผ่าตัดไปแล้วครั้งที่ 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อไปเอกซเรย์พบว่า เนื้อสมองน้อยบริเวณท้ายทอยฝั่งซ้ายมีอาการบวมขึ้นขนาด 4x4 เซนติเมตร คาดว่าอาจเกิดจากภาวะขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง  แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดสมองด้านขวาเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หลังจากแถลงข่าวจะทำการผ่าตัดสมองนายอดุลย์อีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 สำหรับนายอดุลย์ โดยใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง ส่วนอาการบาดเจ็บที่หน้าอกพบว่า มีเนื้อตายเล็กน้อย ซึ่งแพทย์สามารถควบคุมได้ ส่วนอาการกระดูกหักที่แขนขวาอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่น่ากังวล สำหรับรายที่ปลอดภัยที่สุด คือ นายวายุภักดิ์ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนและขา ขณะนี้แพทย์ดูอาการเพื่อป้องกันการอักเสบของแผลเท่านั้น  สภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นถึงร้อยละ  95 คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์จะสามารถกลับบ้านได้ แต่ผู้ป่วยทั้ง 3 ราย รายที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ นายอดุลย์ ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด

ไม่ติดป้ายชื่อหน้าห้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าห้องไอซียู แผนกศัลยกรรม ชั้น 8 ตึก สก. ซึ่งเป็นที่พักรักษาตัวของทั้ง 3 คน โดยน่าสังเกตว่าบริเวณหน้าห้องพักรักษาตัวไม่มีการระบุชื่อของผู้ป่วย เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งยังห้ามบุคคลอื่นเข้าเยี่ยม ยกเว้นญาติผู้ป่วยเท่านั้น  นอกจากนี้  ยังมี รปภ.ของกลุ่มพันธมิตรฯ คอยนั่งเฝ้าอยู่บริเวณด้านหน้าห้องอยู่ตลอดเวลา

ญาติอดุลย์ขอชีวิตอัลเลาะห์

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้เข็นเตียงของนายอดุลย์ เพื่อเข้าผ่าตัดครั้งที่ 3 โดยใบหน้าและศีรษะของนายอดุลย์บวมอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม บิดาของนายอดุลย์ ที่เดินทางมาจาก จ.เพชรบุรี คอยเฝ้าอาการของบุตรชายอยู่ตลอดเวลา ด้วยสีหน้าเศร้าโศกเสียใจและร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา โดยพยายามพูดขอให้อัลเลาะห์คุ้มครองนายอดุลย์รอดพ้นจากความตาย

ลูก สนธิเผยพ่อแค้นมาก

ด้าน นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายนายสนธิ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังเข้าเยี่ยมอาการบิดา ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีว่า พ่อบอกกับตนว่ารู้สึกปวดแผล และมีอาการวิงเวียนศีรษะ  แต่อาการโดยรวมดีขึ้น และบอกด้วยว่า พ่อแค้นมาก  และยังฝากตำหนิ นายพิสิษฐ์ กีรติกานกุล พิธีกรรายการจมูกมด  ทางช่อง  7  ที่กล่าวผ่านรายการเกี่ยวกับอาการของนายสนธิว่าโดนยิงอย่างไร กลับไม่เป็นอะไรมาก  ขนาดอาวุธสงคราม ซึ่งการพูดจาแบบนี้ควรมาดูสภาพของรถที่พ่อตนนั่งก่อนว่าเป็นอย่างไร  ก่อนจะพูดอะไรควรใช้วิจารณญาณมากกว่านี้  ไม่ใช้พูดเอาสนุกเท่านั้น ไม่เจอกับตัวเองก็ไม่รู้หรอก

ปลื้ม มาร์คโทร.ถามอาการ

นายจิตตนาถกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้โทร.มาแสดงความห่วงใย และสอบถามอาการผ่านทางนางจันทร์ทิพย์ ลิ้มทองกุล แม่ของตน  ซึ่งครอบครัวของตนรู้สึกดีใจมาก อยากฝากคนที่ลงมือกระทำการอย่างเหี้ยมโหดในครั้งนี้ว่า ไม่ว่าจะรับเงินใครมา แต่ผลจากการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดการสูญเสียบาดเจ็บ ไม่ใช่ครอบครัวของใครก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าจะรู้สึกอย่างไร

เปิดบัญชีระดมเงินช่วย อดุลย์

ลูกชายนายสนธิยังกล่าวอีกว่า ที่น่าสงสารมากคือ นายอดุลย์ เพราะอาการหนักกว่าเพื่อน ถ้าผู้ใดต้องการให้ความช่วยเหลือนายอดุลย์ ในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล สามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 008-2-041062 ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำพู ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ทางแกนนำ พธม. มีใครมาเยี่ยมบ้างหรือไม่ นายจินตนาถกล่าวว่า ยังไม่มี เนื่องจากส่วนใหญ่เดินทางไป จ.ภูเก็ต เพื่อร่วมขึ้นเวทีคอนเสิร์ตการเมือง ทั้งนี้ อยากให้ทางแกนนำทุกคนตั้งสติเสียก่อน อย่าหลงตามเกมของผู้ไม่หวังดี

ภักดิพร-ปลื้มรุดเยี่ยม

ต่อมาเวลา 13.45 น. นางภักดิพร สุจริตกุล ภริยานายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรค ปชป. พร้อมด้วยน้องปลื้ม-สุรบถ หลีกภัย บุตรชาย เดินทางเข้าเยี่ยมอาการนายสนธิ พร้อมกับมอบเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีขาว ให้กับนายสนธิอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีนางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ส.ส.กทม.พรรค ปชป. นางรัตนา สัจจเทพ ในนามลูกศิษย์มหาวิทยาลัยราชดำเนิน พร้อมด้วยเหล่าบรรดาแฟนคลับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งมีทั้งสวมเสื้อสีเหลืองและอื่นๆมาลงนามเยี่ยมอาการกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

ยก สนธิคนสำคัญระดับชาติ

ด้าน พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยว่า ผบช.น.ได้มีคำสั่งให้รักษาความปลอดภัยแบบ วีวีไอพีเพราะนายสนธิเป็นคนสำคัญระดับประเทศ โดยได้จัดกำลังตำรวจดูแลความเรียบร้อยบริเวณชั้นล่างของอาคารจาก 8 โรงพักใน บก.น.6 จำนวน 12 นาย ผลัดละ 12 ชั่วโมง ส่วนชั้นที่นายสนธิ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะมีการ์ดของพันธมิตรฯ ดูเองโดยไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง มั่นใจว่าจะสามารถรักษาความปลอดภัยได้ล้านเปอร์เซ็นต์ แบบมดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ ตอม อย่างไรก็ตามอยากจะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกคนที่จะเข้ามาดูแลความเรียบร้อยในโรงพยาบาลนี้ ขอให้แต่งเครื่องแบบ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสับสน ถ้าใครแต่งนอกเครื่องแบบและพกอาวุธมา ถ้าตรวจค้นพบก็อย่ามาโกรธกัน

จงรักประชุมมือปราบ

ส่วนความคืบหน้าคดีกลุ่มมือปืนใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม สนธิ ลิ้มทองกุลแกนนำพันธมิตรฯนั้น วันเดียวกัน ที่ สน.ชนะสงคราม มีการเรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีพยายามฆ่านายสนธิ ประกอบด้วย พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ

เชื่อคนร้ายมีมากกว่า 5 คน

จากนั้น พล.ต.อ.จงรักออกมาเปิดเผยว่า วันนี้มาประชุมวางแนวทางในการสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี โดยสั่งการให้มีการรวบรวมวัตถุพยานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ ได้แก่ ปลอกกระสุนปืน รวมทั้งตรวจสอบกล้องวีดิโอวงจรปิด ซึ่งบางกล้องก็เสีย บางกล้องก็ใช้ได้ ให้นำภาพมาประติดปะต่อกัน เพื่อให้ทราบถึงจำนวนคนร้ายที่ลงมือปฏิบัติการ และยานพาหนะที่นำมาใช้ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะมีคนร้ายประมาณ 5 คนขึ้นไป และสิ่งสำคัญที่จะยืนยันรูปร่างลักษณะคนร้ายก็คือ พยานบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ซึ่งได้กำชับให้พนักงานเร่งสอบสวนพยานบุคคล ซึ่งสามารถที่จะระบุรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้

ยังไม่ตัดประเด็นส่วนตัว

ส่วนประเด็นการลอบสังหาร พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า ยังคงตั้งไว้ 2 ประเด็น คือการเมืองกับเรื่องส่วนตัว ซึ่งเรื่องส่วนตัว ต้องรอให้คุณสนธิหายดีและพร้อมเสียก่อน จึงจะสอบสวนหาว่าสงสัยใคร ทางตำรวจจะสืบสวนขยายผลตามที่นายสนธิเชื่อเช่นนั้น และหากพบว่าไม่มีเรื่องส่วนตัว ประกอบกับไม่มีพยานหลักฐานยืนยันได้ก็จะตัดประเด็นส่วนตัวออกไปภายหลัง

ไม่หนักใจเคยมีปัญหา พธม.

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัว พล.ต.อ.จงรัก หลายครั้งเคยมีปัญหากับกลุ่มพันธมิตรฯ มาก่อนจะทำคดี แล้วเขาจะไว้วางใจหรือไม่  พล.ต.อ.จงรักตอบว่าไม่หนักใจ ตนเป็นตำรวจอาชีพ ทำงานตรงไปตรงมา ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตลอดชีวิตการทำงานยึดหลัก 3 ประการ คือ 1. ต้องมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 2. ปัดเป่าความเดือดร้อนของประชาชน 3. ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

ไม่ฟันธงฝีมือคนมีสี

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายใช้อาวุธสงครามก่อเหตุจะเป็นคนมีสีหรือไม่  พล.ต.อ.จงรักตอบว่า  ที่ผ่านมาตำรวจเคยจับคนร้ายที่เป็นพลเรือนแล้วใช้อาวุธสงครามมาก็หลายครั้ง  จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ลงมือครั้งนี้จะเป็นคนมีสีหรือไม่ เพราะยังไม่มีหลักฐานยืนยัน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย  ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา  ผบช.น.  จัดกำลังสายสืบไปดูแลนายสนธิ ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก

เจ้าของดีแมคซ์โผล่เคลียร์

พล.ต.อ.จงรักยังกล่าวอีกว่า จากการลงรูปรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ทะเบียน ถง 4071 กรุงเทพมหานคร ตามสื่อมวลชนระบุว่าเป็นรถต้องสงสัย ปรากฏว่าวันนี้ นายอนุรักษ์ พุฒซ้อน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ซอยนนทบุรี 46 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี เจ้าของรถคันดังกล่าว  ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว ซึ่งต้องไปสอบกันใหม่แล้วว่ารถคนร้ายเป็นคันใดกันแน่

มั่นใจจับมือสังหารได้แน่

ขณะที่ พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม  กล่าวยืนยันว่า  ในเร็ววันนี้จะสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน  ทั้งพยานแวดล้อมและภาพจากกล้อง CCTV ในพื้นที่ละแวกใกล้เคียง

แค่ขับตามหลังรถ สนธิ

นายอนุรักษ์ พุฒซ้อน ที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า มีอาชีพขายไข่ในตลาดบางลำพู เมื่อเห็นรูปรถไปปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ พร้อมถูกระบุว่าเป็นรถต้องสงสัย   จึงตัดสินใจเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในวันดังกล่าวตนขับรถไปกับมารดา ช่วงขณะเกิดเหตุขับอยู่ด้านหลังรถนายสนธิ แล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงหักหลบเข้าข้างทางไปอยู่หลังรถเมล์ ได้ยินเสียงปืนดังประมาณ 2 นาที จึงสงบ แล้วเห็นรถคันสีดำที่ทราบตอนหลังว่าเป็นลูกน้องนายสนธิ รับตัวนายสนธิไปส่งโรงพยาบาล ส่วนรูปพรรณคนร้ายนั้นมองไม่เห็น ผู้สื่อข่าวถามว่า รูปรถที่ลงข่าวไม่มีโลโก้กู้ชีพ  และไม่มีไซเรน  แต่ทำไมวันนี้ถึงติดมาด้วย นายอนุรักษ์ตอบว่า นอกจากจะขายไข่แล้วยังเป็นอาสากู้ชีพวชิรพยาบาล   บางครั้งจะติดโลโก้ชนิดที่เป็นแม่เหล็กดูด แต่บางวันก็ไม่ติด จากนั้นได้นำผู้สื่อข่าวไปพิสูจน์ ปรากฏว่าโลโก้เป็นแบบแม่เหล็กสามารถถอดออกได้ตามที่อ้าง

สันติบาลจัด รปภ.บุคคลสำคัญ

พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. กล่าวถึงคดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ไม่มีข่าวการลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล มาก่อน เท่าที่ทราบตั้งแต่ช่วงชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นายสนธิได้มีความระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดี คนร้ายที่คิดลงมือทำร้ายนายสนธิต้องวางแผนและคอยติดตามนายสนธิก่อนลงมือทำงาน แต่ช่วงเกิดเหตุมีกลุ่มการ์ดนายสนธิเข้ามาขัดขวางทำให้คนร้ายลงมือได้ลำบากไม่สามารถเข้ามายิงซ้ำได้ ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข่าวลอบสังหารบุคคลสำคัญ รวมทั้งเสนอ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ในการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ.บุคคลสำคัญที่อยู่ในข่ายต้องให้ความคุ้มครอง เนื่องจากมีความจงใจทำให้สถานการณ์บ้านเมืองมีความรุนแรงขึ้น ได้เพิ่มความเข้มในการหาข่าวทุกพื้นที่ติดตาม การเคลื่อนไหวชุมนุมและกลุ่มที่จ้องทำร้ายบุคคลสำคัญ

ปชป.จี้ ตร.เร่งคลี่คดียิง สนธิ

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ต้องเร่งขยายผล จับกุมผู้กระทำผิดโดยด่วน เพราะขณะนี้มีความพยายามบิดเบือนข้อมูล ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์ของนายสนธิ หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาล เพราะต้องยอมรับว่าตรงนี้อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง โดยกรณีของนายสนธิต้องไม่ให้เป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าในสังคม หรือเป็นจุดเสี่ยงในการใช้มวลชนลุกขึ้นมาปะทะกันอีก ที่สำคัญสังคมจะต้องไม่ตกเป็นเหยื่อการปล่อยข่าวเท็จต่างๆ จนกลายเป็นชนวนรอบใหม่อีก

หวั่นลอบยิงนายกฯ-เทือก

เมื่อถามว่า ได้วิเคราะห์หรือไม่ว่า นายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ อาจเป็นเป้าหมายโดนลอบทำร้าย โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ เพราะก่อนหน้านี้มีการลอบสังหารองคมนตรี แกนนำพันธมิตรฯ และมีเหตุการณ์ลอบทำร้ายนายกฯที่พัทยา มาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ต้องให้ความระมัดระวังคุ้มครองบุคคลที่เป็นเป้า เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน อีกนานเท่าใด โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจของรัฐบาล เพราะเกี่ยวข้องกับภารกิจการสร้างความสงบ ความปลอดภัยของประชาชน จนกว่าปัจจัยเสี่ยงต่างๆ จะหมดไป เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่ายังคงมีการปลุกระดม ทำผิดกฎหมาย และบิดเบือนข้อเท็จจริงยังมีอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงตามมาได้

เสธ.แดงชี้ฝีมือระดับชาติ

ด้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับลวงพราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.50 ถึงกรณีที่ยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า มือปืนธรรมดาคงไม่กล้ารับงานนี้ น่าจะต้องเป็นระดับชาติ ระดับองค์กร สถาบันหรือชนชั้นปกครอง ซึ่งอาวุธที่ใช้ทั้งหมดเป็นอาวุธประจำกาย คือปืนเอ็ม 16 เอชเค 33 คาร์บิ้น อาก้าหรือเอเค 47 และกระบอกสุดท้ายที่จะขาดไม่ได้เลย คือเอ็ม 79 ซึ่งเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดสังหารบุคคลโดยเฉพาะ ซึ่งรถกระบะที่ไล่ยิงตามหลังระยะใกล้ชิดเกินไป โดยเขายิงทะลุกระจกหลัง 1 นัดเข้าไปตกที่รถของนายสนธิ จึงไม่ระเบิด ซึ่งคนยิงมีความชำนาญมาก ถ้าเป็นทหารยิงคงต้องเป็นทหารชั้นเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การที่นายสนธิต้องผ่าเปิดกะโหลกเพื่อนำสะเก็ดออกไม่ใช่กระสุนแท้ๆ เป็นเพียงสะเก็ดที่กระเด็นเข้าไป

ตุ๊ดตู่ประณามมือสังหาร สนธิ

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช. เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย โดยได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกลอบยิงว่า ต้องแสดงความเสียใจกับนายสนธิ และครอบครัว ที่ถูกลอบสังหาร ที่ผ่านมาการต่อสู้ระหว่างกลุ่มคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ถือว่าเป็นการต่อสู้ทางความคิด ไม่เคยใช้ กำลังหรือความรุนแรงเข้ามาประหัตประหาร ทั้งนี้ขอประณามผู้ที่ใช้อาวุธสงครามเข้ามาก่อการ เพราะไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว

บิ๊ก คมช.ชี้ก่อการอุกอาจ

ด้าน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องใช้ เวลาในการวางแผนและเตรียมการมานานพอสมควร เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์กล่าวว่า ไม่อยากพูดอย่างนั้น แต่คิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกันมา ส่วนจะเป็นการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือบริวาร หรือเป็นการกระทำของมือที่สาม เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องไปดำเนินการ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมากและถือเป็นการเหยียบจมูกรัฐบาล กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงและเกิดขึ้นท่ามกลางการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คิดว่าคนที่ทำต้องการแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความสามารถ คือแม้จะมีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไม่สามารถขัดขวางการกระทำของกลุ่มเขาได้ ถ้าหากเขาต้องการจะทำและบังเอิญไปสอดคล้องกับคำปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เคยปราศรัยว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีน้ำยา ซึ่งตนไม่อยากระบุว่าเป็นการกระทำของใคร แต่ต้องดูสถานการณ์ที่สืบเนื่องและสอดคล้องกัน

คนลงมือเป็นใครก็ได้

เมื่อถามว่า เป้าหมายของการยิงนายสนธิเขาต้องการอะไร พล.อ.สมเจตน์กล่าวว่า นายสนธิเป็นจักรกลสำคัญของกลุ่มพันธมิตรฯ และมีจุดแข็งหลายๆอย่าง หากขาด นายสนธิไปคนหนึ่งจะทำให้การต่อสู้ของกลุ่มที่ไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะอ่อนแรงลง แต่ตนไม่ได้ปักใจว่าเป็นเพราะกลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ แต่อาจจะเกิดขึ้นจากมือที่สามก็ได้ เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรตั้งข้อสงสัยว่า คนที่ลอบยิงนายสนธิเป็นกลุ่มคนมีสีและอยู่ในอำนาจรัฐ พล.อ.สมเจตน์กล่าวว่า การกระทำเช่นนี้เป็นไป ได้ทั้งกลุ่มมีสี หรืออาจจะเป็นอดีตก็ได้ หรืออาจจะถูกฝึกขึ้นมาก็ได้ เพราะอาวุธสงครามในประเทศไทยหาไม่ยาก แต่เหตุที่มุ่งว่าเป็นการกระทำของคนมีสีเพราะอาวุธที่ใช้ เป็นอาวุธสงคราม ซึ่งคนมีสีมีอยู่ 2 ส่วน คือส่วนที่อยู่ในราชการและส่วนที่ออกจากราชการไปแล้ว แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นจากกลุ่มคนที่ไม่มีสีก็ได้ ถ้าจุดมุ่งหมายของเขา ต้องการทำให้สังคมมองว่าเป็นการกระทำจากคนมีสี คิดว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะทำตรงนี้ให้ออกมาชัดเจนว่าเป็นใคร เพื่อให้สังคมหายสงสัยและหายเคลือบแคลงทั้งนี้ หากเกิดความเคลือบแคลงจะทำให้เกิดความหวาด ระแวงไม่ไว้วางใจกัน จะทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้ยาก

ไม่เชื่อสร้างชนวนปฏิวัติ

เมื่อถามว่า แสดงว่ากลุ่มที่ทำต้องการให้เกิดความแตกแยกกันภายในกลุ่มพันธมิตรฯและแนวร่วม เพื่อให้ หวาดระแวงกันเอง พล.อ. สมเจตน์กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง แต่เราอย่าเพิ่งไปปักใจโดยไม่มีหลักฐาน เพราะถ้าเราปักใจจะเกิดความหวาดระแวงไม่ไว้วางใจกัน ซึ่งจะไปเข้าตามความต้องการของเขา ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นกับนายสนธิ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มใดก็แล้วแต่ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนของสังคมคือ ความหวาดระแวงและความไม่ปลอดภัยทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นสังคมที่อันตรายอย่างยิ่ง เมื่อถามว่า เมื่อประชาชนเกิดความหวาดกลัวจะมีการออกมาเรียกร้องให้ปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การปฏิวัติเป็นเรื่องอดีต และคิดว่าทหารปัจจุบัน ไม่ได้อยากปฏิวัติ เพราะกลไกปัญหาของสังคมหลากหลายมากมายเกินกว่าที่จะใช้เรื่องความมั่นคงเพียงอย่างเดียว ซึ่งการปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย.49 ที่ผ่านมา เป็นการปฏิวัติเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมทำตามแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย แต่ตราบใดที่รัฐบาลดำเนินการตามแนวทางประชาธิปไตย คิดว่าการปฏิวัติไม่เกิดขึ้น

ระวังแผนสร้างความระแวง

ลักษณะที่เกิดขึ้นในขณะนี้ถ้าไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้จะเป็นสังคมที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้สังคมอยู่ท่ามกลางความหวาดระแวงนั้น เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและฝ่ายข่าวกรองแห่งชาติ ต้องร่วมมือร่วมใจกันและเร่งรัดต่อคดีนี้ นำผู้กระทำความผิดและผู้จ้างวานมารับโทษโดยเร็วที่สุด ถ้าเร่งรัดดำเนินการ ความวิตกกังวลตรงนี้จะหายไป และจะได้ไม่สงสัยว่าทหารเป็นคนทำหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการอย่างนี้ อาจจะเป็นแผนให้เกิดความหวาด ระแวงซึ่งกันและกันพล.อ.สมเจตน์กล่าว

เลื่อนสรุปสำนวนปิดสุวรรณภูมิ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในขณะที่คดีใหม่ยังรอการคลี่คลาย ในส่วนคดีค้างเก่า ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้า โดย พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดสนามบินสุวรรณภูมิว่า ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปสำนวน เนื่องจากต้องสอบสวนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตัวแทนธนาคารแห่งประเทศ ไทย  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และกระทรวงอุตสาหกรรมเสียก่อน การสรุปคดีนี้เร่งรัดได้มากหรือน้อยขนาดไหน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยงาน ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ประสานไปแล้ว ทำให้ การแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องยังบอกไม่ได้ว่าจะต้องแจ้งข้อหาหนักเบาแค่ไหน  ต้องรอสอบค่าเสียหายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสียก่อน

แกนนำอาจเจอข้อหาหนัก

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนตำรวจภาค 1 ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายต่างประเทศ และตัวแทนของกรมสนธิสัญญาและฝ่ายกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ มาหารือในการสอบสวนคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากเป็นสนามบินนานาชาติ จึงส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ  คดีนี้มี นายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ และแกนนำพันธมิตรฯที่อยู่ในข่ายยั่วยุมวลชน คนเสื้อเหลืองปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง  ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายให้ความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดบางประการต่อการเดินอากาศยาน และการก่อการร้ายสากล ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

ผบ.ตร.สั่งเร่งรัดคดีม็อบ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่า จากการพูดคุยกับรอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ ผบช.ที่รับผิดชอบเพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เสียงวิพากษ์ วิจารณ์ที่มองกันว่าตำรวจไม่ทำอะไร  การวางตัวที่ไม่เป็นกลาง  เป็นเรื่องที่ต้องการให้ทุกคนไปถ่ายทอดและกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำการบังคับใช้กฎหมายให้เต็มที่ ต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่มีการแบ่งแยกเสื้อสีเหลือง แดงหรือสีใดๆทั้งสิ้น ตำรวจมีหน้าที่ต้องทำงานเพื่อประชาชน ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย แต่ในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นอำนาจของทหารเข้ามาดำเนินการควบคุมสถานการณ์การชุมนุม ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นการดำเนินการของทหาร จนทำให้หลายคนมองกันว่าตำรวจไม่ได้ทำอะไร

สั่งจับวิทยุชุมชนยุยง ปชช.

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลยังมีสถานีวิทยุชุมชนหลายแห่งที่มีดำเนินการผิดกฎหมาย ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กทช.ที่รับผิดชอบด้านการโทรคมนาคม เข้าดำเนินการตามกฎหมายตามสถานีวิทยุ ที่ไม่ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และดำเนินคดีกับสถานีวิทยุชุมชนที่พยายามชักชวนยั่วยุให้เกิดความแตกแยก ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งได้กำชับให้เร่งรัดตรวจสอบและดำเนินการกับคลื่นวิทยุทุกช่อง ที่เสนอข้อมูลข่าวสารที่ทำให้เกิดความสับสนของสังคม รวมทั้งให้ตำรวจสันติบาลลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาน ไม่ให้เชื่อในสิ่งที่มีการยั่วยุทำลายความมั่นคงของประเทศ

ตท.ประสานหมายจับ ทักษิณ

ขณะที่ พล.ต.ต.วิษณุ ปราสาททองโอสถ ผบก.ตท. กล่าวว่า กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการประสานกับประเทศในองค์กรตำรวจสากลให้ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีหมายจับคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีในประเทศไทย แต่ในส่วนของข้อหาอื่นที่ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ยังไม่ได้ ประสานไปทางตำรวจสากล เนื่องจากคดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนและยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเบื้องต้นตำรวจ UAE ได้แจ้งว่ามีการให้หนังสือเดินทาง พ.ต.ท.ทักษิณจริง

ออกหมายจับแดงเชียงใหม่

ส่วนความเคลื่อนไหวการดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก. ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์