เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา (18 เม.ย.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่ สน.ชนะสงคราม
เพื่อประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อคลี่คลายคดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถตู้ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเมื่อมาถึง พล.ต.อ.จงรัก ได้เข้าตรวจสอบรถโตโยต้า อัลพาร์ด ที่นายสนธินั่งมา ก่อนเข้าห้องประชุมไป อย่างไรก็ตามได้แจกเอกสารข่าวต่อสื่อมวลชน มีเนื้อหาระบุว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมวัตถุพยานทั้งหมด เพื่อนำมาประกอบเชื่อมโยงกัน เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายมีจำนวน 5 คนขึ้นไป โดยพยานบุคคลจะสามารถระบุรูปพรรณของคนร้ายได้ดีที่สุด ส่วนประเด็นการลอบยิงตำรวจพุ่งเป้า มี 2 ประเด็น คือ เรื่องการเมือง และความขัดแย้งส่วนตัว
ในเอกสารระบุว่า
ประเด็นการเมือง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่านายสนธิมีความขัดแย้งกับบุคคลหลายฝ่าย ซึ่งต้องสืบสวนว่าความขัดแย้งแต่ละเรื่อง จะนำมาสู่การลอบยิงหรือไม่ ส่วนประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว ต้องรอสอบปากคำนายสนธิ หลังหายจากอาการบาดเจ็บ ว่าติดใจสงสัยในเรื่องใด
พล.ต.อ.จงรัก ยังระบุในเอกสารว่า
ไม่หนักใจที่คดีมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา ส่วนกระแสข่าวที่ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มคนมีสีนั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมามีหลายคดีที่คนร้ายเป็นพลเรือน แต่ใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุ จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนร้ายเป็นคนในเครื่องแบบหรือไม่
ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้นำตัวนายอนุรักษ์ พุฒซ้อน เจ้าของรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ถง 4071 กทม. ที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ขณะขับตามหลังรถของนายสนธิมาในวันเกิดเหตุ มาเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก และพนักงานสอบสวน
โดยนายอนุรักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า
ขณะเกิดเหตุกำลังขับรถมุ่งหน้าไปตลาดบางลำภู เพื่อขายไข่ไก่ ที่บรรทุกมาเต็มกระบะหลังรถ จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น แต่รถตนจอดอยู่หลังรถประจำทาง จึงไม่เห็นเหตุการณ์ และไม่เห็นคนร้าย กระทั่งเวลาผ่านไป 2-3 นาที จึงเห็นว่ามีการช่วยเหลือนำคนบาดเจ็บขึ้นรถยนต์สีดำขับออกไป กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ เห็นภาพรถกระบะของตนทางข่าวโทรทัศน์จึงตกใจ และรีบออกมาพบตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับคดีนี้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า
รถกระบะที่นายอนุรักษ์ขับมาในวันนี้ มีสัญญาณไฟฉุกเฉินติดอยู่บนหลังคารถ และมีสติกเกอร์แม่เหล็กของหน่วยแพทย์กู้ชีพกรุงเทพมหานคร ติดอยู่ที่ตัวถังด้านข้างรถทั้งสองด้าน โดยนายอนุรักษ์อ้างว่า ปกติทำงานเป็นอาสามัครของหน่วยกู้ภัยด้วย แต่เวลาไปตลาดในตอนเช้า จะถอดไฟฉุกเฉินและแกะสติกเกอร์ออกจากรถ
ขณะที่วันเดียวกันนี้ รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหาร และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบศัลยกรรม แถลงผลการรักษาว่า
นายสนธิ ยังมีอาการปวดศีรษะบริเวณที่ทำการผ่าตัดเอาเศษโลหะออก ยังสามารถรับรู้เรื่องได้ดี บริเวณร่างกายไม่มีอะไรน่าห่วง สามารถที่จะรับประทานอาหารได้
สำหรับนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถที่อาการสาหัส หลังจากรับตัวมาได้ทำการผ่าตัดรอบแรกบริเวณท้ายทอย เนื่องจากมีอาการสมองบวม เหมือนว่าจะขาดเลือด อาการตอนนี้เซื่องซึม รู้สึกตัวช้า คาดว่าจะต้องมีการผ่าตัดอีกรอบ ในส่วนของร่างกายเมื่อเปรียบกับเมื่อวานนี้(17 เม.ย.) ก็ดีขึ้นตามลำดับ
ส่วนอาการของนายวายุภักษ์ มังคละสินธุ์ คนติดตามอาการดีขึ้นโดยลำดับ มีอาการปวดเฉพาะที่บริวณแขน คาดว่าใน 1 สัปดาห์นายสนธิ และนายวายุภักษ์ น่าจะกลับบ้านได้