นายกฯ มั่นใจมิตรประเทศไม่ให้ แม้ว ใช้เป็นฐานโจมตีไทย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 เมษายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลครั้งแรก หลังถูกผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล

และได้เชิญ เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย และตัวแทนจากกว่า 70 ประเทศ เข้าพบโดยนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงตั้งแต่สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ตั้งแต่มีกลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล และมีการดาวกระจายปิดการจราจร จนถึงบุกเข้าไปล้มการประชุมผู้นำอาเซียน+ 3 /+6 ที่พัทยา รวมทั้งความจำเป็นที่รัฐบาลต้องใช้ พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ทั้งที่พัทยา กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

นอกจากนี้ นายกฯยังได้ พร้อมแจ้งข้อมูลกรณีที่ทางการไทยเพิกถอนหนังสือเดินทางของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมขอความร่วมมือกับประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตด้วย

ทั้งนี้โดยมีรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมหลายคน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช. พาณิชย์ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช. ศึกษาธิการ

หลังจากนั้น เวลา 16.45 น. นายอภิสิทธิ์ ได้แถลงผลการชี้แจงเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ดังนี้
 
"ขออนุญาตเรียนสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชน หลังจากที่ผมได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชนผ่านสื่อเมื่อวานซืนตลอดระยะเวลาของเมื่อวานนี้  ยังได้ทำหน้าที่ในการติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งการดำเนินมาตรการต่าง ๆ  เพื่อที่จะให้การฟื้นฟูสภาพพื้นที่ก็ดี และการดำเนินการเพื่อให้เกิดความมั่นใจในเรื่องของความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยก็ดี  เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด  ขณะเดียวกันก็ยังคงมีเรื่องของข่าวสารต่าง ๆ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องคลี่คลายไปอยู่เป็นระยะ ๆ  เรียนว่าในภาพรวมในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนคงจะได้เห็นภาพพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้ไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ เล่นน้ำหรือทำอย่างอื่นกัน  ซึ่งเป็นภาพที่ผมคิดว่าทำให้พวกเราทุกคนมีความสุข มีความพึงพอใจ  และขณะเดียวกันการหยุดราชการในช่วงวันนี้และวันพรุ่งนี้จะมีส่วนสำคัญในการที่จะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ในด้านต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น   
 
ผมขอเรียนว่าในส่วนของความเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล หรือในต่างจังหวัดขณะนี้  เจ้าหน้าที่และรัฐบาลได้ใช้วิธีการในการที่จะพูดคุย เพื่อให้เกิดความเข้าใจครับว่า ภาวะการณ์ที่เราใช้ประกาศภาวะฉุกเฉินในขณะนี้เป็นภาวะการณ์ชั่วคราว  และในที่สุดแล้วการเคลื่อนไหวซึ่งเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญก็ย่อมจะต้องกลับมาใช้ได้อย่างแน่นอน  เพียงแต่ว่ากิจกรรมใดๆ ซึ่งเป็นลักษณะของการยั่วยุให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย อันนี้จะต้องหยุด แล้วก็ถ้าเราสามารถที่จะหยุดสิ่งเหล่านี้ได้  เกิดความสงบเรียบร้อยทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ  แล้วก็กระบวนการในการพูดคุยเพื่อหาทางออกในเรื่องของความปรองดองสมานฉันท์ก็จะทำได้อย่างรวดเร็ว  ซึ่งก็เป็นเจตนาของรัฐบาลอยู่แล้ว 
 
อย่างไรก็ตาม  แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นวันหยุดวันนี้ผมได้ถือโอกาสเชิญท่านทูตของทุกประเทศ เพื่อที่จะมาให้ท่านได้รับทราบสถานการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งจุดยืนนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนมีการพูดคุยซักถามในสิ่งที่ยังเป็นความสงสัยของบรรดาทูตานุทูตของประเทศต่าง ๆ ซึ่งได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว  พรุ่งนี้ผมจะนัดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะพิจารณาในเรื่องของการดำเนินการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์  ไม่ว่าจะเป็นการให้เพื่อนคณะรัฐมนตรีได้รับทราบในรายละเอียดถึงเหตุการณ์และการตัดสินใจของผมและคณะรัฐมนตรีที่มีการประชุมโดยวิธีการตามพระราชกฤษฎีกา  แต่ไม่ใช่พร้อมกันทั้งคณะทั้งหมด รวมไปถึงการตกลงในแนวทางของการที่จะทำงานกันต่อไป  เพราะฉะนั้น พรุ่งนี้จะมีการประชุมเรื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นการเฉพาะ  อาจจะมีวาระอื่น ๆ ที่มีความจำเป็น เช่น การพิจารณาเกี่ยวกับการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดภาคใต้  ซึ่งได้มีการเสนอในเรื่องของการที่จะต่ออายุหรือไม่ มา เพราะจะหมดอายุในวันที่ 19 เมษายน  การประชุมพรุ่งนี้จะครอบคลุมในทุกเรื่อง และจะเรียนให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทราบต่อไป   
 
นอกจากนั้น วันนี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายชัย ชิดชอบ) และได้เรียนว่าหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้  ผมจะทำหนังสือเป็นทางการเพื่อที่จะขอให้ท่านประธานสภาฯ ได้นัดประชุมสภาฯ เป็นการประชุมร่วม  เพื่อให้รัฐบาลได้เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกทั้งสองสภาในเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น  เพราะฉะนั้น คาดว่าในวันพุธและวันพฤหัสบดีหน้า ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เวลาถึง 2 วันก็จะเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายทั่วไปรับฟังความคิดเห็น  ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่จะขอทางสภาฯ  ได้  อันนี้เป็นเรื่องความคืบหน้าหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในขณะนี้ และพรุ่งนี้จะเรียนให้ทราบอีกครั้งหนึ่งหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี"
 
ถาม  ตัวแทนของทูตประเทศต่าง ๆได้สอบถามอะไรเป็นพิเศษ
นายกรัฐมนตรี   ท่านได้สอบถามถึงมาตรการที่เราใช้ที่พัทยา  ที่กรุงเทพฯ เป็นอย่างไร  เหตุการณ์ที่ลุกลามจะให้ควบคุมกลับมาอยู่ในภาวะอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบันจะต้องทำอะไรเพิ่มเติมบ้าง ก็เป็นการแลกเปลี่ยนในแง่ของความคิดเห็น  และการแสดงความห่วงใยต่าง ๆ   
 
ถาม  ทางทูตได้สอบถามถึงการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงบ้างหรือไม่
นายกรัฐมนตรี  ที่มีถามจะเจาะจงไปที่กรณีของ 2 ศพที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยา  ที่ผมตรวจสอบข้อเท็จจริงมาคือว่าบุคคลทั้ง 2 ยังมีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 แต่ผมกำลังจะให้เขายืนยันมาอีกครั้งหนึ่งในรายงานต่าง ๆ ซึ่งถ้าเขามีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 ผมคิดว่าทุกคนคงจะจำได้ว่าตั้งแต่ช่วงดึกของวันที่ 13 ไปจนถึงเช้า ไม่ได้มีการดำเนินการอะไรเพิ่มเติม  นอกจากขยับกำลังต่าง ๆ เข้ามา และพอรุ่งเช้าก็มีการยุติการชุมนุม  ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่บุคคลทั้งสองจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ถาม  ตกลงจะมีการยกเลิก พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อไหร่
นายกรัฐมนตรี  จะประเมินดูว่าขณะนี้มีการใช้อำนาจตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ในเรื่องใดบ้าง หมดความจำเป็นเมื่อไหร่
 
ถาม  เป็นห่วงหรือไม่ว่าถ้ายกเลิก พ.ร.ก. แล้วกลุ่มเสื้อแดงจะกลับมาเคลื่อนไหวอีก
นายกรัฐมนตรี  ผมย้ำครับว่า หลังจากที่ยกเลิก พ.ร.ก.แล้วการชุมนุมทางการเมืองทำได้  และการแสดงความคิดเห็นโดยสงบปราศจากอาวุธทำได้  แต่เรื่องของการไปยุยงปลุกปั่นให้ใครทำผิดกฎหมาย  ทำไม่ได้  และแนวทางนี้ก็เป็นแนวทางที่เราใช้อยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ท่านจะเห็นคือว่าคนที่มาชุมนุมอยู่หลังจากที่มีการประกาศ พ.ร.ก.แล้ว ที่จริงต้องถือว่าทำผิดกฎหมายทุกคน  แต่รัฐบาลถือว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีเจตนาที่สร้างความวุ่นวายขึ้น  ก็จะเจาะจงไปเฉพาะบุคคลซึ่งได้แสดงออกอย่างชัดเจน  ในการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย  จะขีดวงกันตรงนี้   พี่น้องประชาชนจะได้สบายใจว่าถ้าท่านมาด้วยความสุจริตใจ ท่านมาแล้วไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย  ก่อนหน้าที่มี พ.ร.ก. ท่านไม่ต้องห่วง 
 
ถาม  ได้ให้ความมั่นใจกับทูตประเทศต่าง ๆ อย่างไรบ้างว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อไหร่ และให้ความมั่นใจเรื่องการลงทุนอย่างไร
นายกรัฐมนตรี   ในส่วนของทางเศรษฐกิจไม่ได้พูดกันมากนัก  อาจจะมีพูดถึงการท่องเที่ยวอยู่บ้าง  ซึ่งผมได้เรียนให้ทราบว่า เราได้เดินหน้ามามากในการที่ทำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา แต่ว่าก็อธิบายให้ฟังว่าความตั้งใจต่อไปที่จะทำให้ความสงบเรียบร้อยนี้ดำรงอยู่  ไม่ว่าจะมี พ.ร.ก.หรือไม่ก็ตาม  ก็มีงานทางการเมือง งานทางด้านกฎหมายที่เราต้องทำต่อไป   ก็ได้อธิบายคร่าว ๆ  ให้ทราบว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำเช่นนั้น 
 
ถาม   ทูตานุทูตมีความกังวลต่อสถานการณ์ในประเทศไทยหรือไม่ 
นายกรัฐมนตรี  ผมคิดว่าความห่วงใยหรือความรู้สึกของเขาคงไม่ต่างจากคนไทย  คนไทยก็คงมีความรู้สึกว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก็คลี่คลายไป  แต่ถามว่าหลายคนมีความกังวลใจอยู่ในใจไหม  ผมว่าเราก็คิดไม่ต่างกัน  ท่านทูตก็อยู่เมืองไทย  คงรู้สึกไม่ต่างกันล่ะครับ จริง ๆ แล้วมีคำถามย้อนกลับไปที่พัทยาเล็กน้อยว่า มาตรการที่ดูแลในเรื่องการชุมนุมอาจจะดูเข้มน้อยไป  ซึ่งเป็นมุมมองที่เราก็เข้าใจ และประเด็นในเรื่องของการดูแลการชุมนุมในที่สาธารณะ  โดยเฉพาะเวลาที่มีบุคคลสำคัญหรือมีการประชุมระดับระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่คงจะต้องมาทบทวนกัน 
 
ถาม  รัฐบาลจะมีแนวทางในการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกับคนในชาติได้อย่างไร
นายกรัฐมนตรี  อย่างที่ผมได้เรียนแล้วว่า หลังจากเหตุการณ์สงบลง  ผมพูดชัดเจนเลยว่าผมไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการมีชัยชนะของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด  ในทางตรงกันข้าม  ผมยังเชิญชวนทุกคนว่าทำบ้านเมืองให้สงบเร็วที่สุดและมาพูดคุยกัน สิ่งที่เรียกร้องที่เป็นเหตุเป็นผล  สิ่งที่ยังอยู่ในใจ  มาพูดคุยกันได้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัฐธรรมนูญ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความผิดทางการเมือง  ไม่ว่าจะเป็นความคลางแคลงใจว่าการดำเนินคดีต่าง ๆ จะเป็นสองมาตรฐานหรือไม่  ผมยินดีพูดคุยในเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด  เพราะว่าผมถือว่าเป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วในเรื่องของการแก้ไขปัญหาทางการเมือง  และการให้เกิดความมั่นใจว่ามีความยุติธรรม 
 
ถาม  เป็นห่วงหรือไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะลงไปเคลื่อนไหวใต้ดิน
นายกรัฐมนตรี  ผมไม่ต้องการให้คนไทยจะใต้ดินหรือบนดินทำร้ายประเทศ  เพราะฉะนั้น ผมยืนยันอีกครั้งหนึ่งครับ  ผมเชื่อว่าคนที่มาชุมนุมส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด เขาไม่ได้คิดร้าย และผมก็ยืนยันว่าผมเชิญชวนเขาเข้ามาแลกเปลี่ยนพูดคุยว่าจะแก้ปัญหาทางการเมืองที่เห็นไม่ตรงกันอย่างไร  แต่ส่วนคนที่ทำผิดกฎหมายหรือมีความตั้งใจที่จะใช้วิธีที่ผิดกฎหมายจะอยู่บนดินหรือใต้ดิน ก็ไม่เป็นประโยชน์กับใครทั้งสิ้น และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแล   เมื่อสถานการณ์หรือเงื่อนไขของวิธีการการเคลื่อนไหวเปลี่ยนไป  รัฐบาลก็ต้องปรับวิธีการในการแก้ไขปัญหาด้วย 
 
ถาม  คิดว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่
นายกรัฐมนตรี  ก็เป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องดูแลให้ได้ 
 
ถาม  กรณีที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน ระบุว่าหากนายกฯ ลงพื้นที่อาจถูกคนเสื้อแดงยิง
นายกรัฐมนตรี   ผมไม่ทราบว่าเจตนาของท่านคืออะไร  แต่ผมอยากจะชวนในฐานะนักการเมืองด้วยกัน ว่าเรามาช่วยสร้างวัฒนธรรมความไม่รุนแรงในเรื่องของการแข่งขันต่อสู้กันทางการเมืองจะดีกว่า 
 
ถาม  จะยังใช้ความสุภาพในการแก้ปัญหาต่อหรือไม่
นายกรัฐมนตรี    ผมก็นำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมามากโดยไม่ได้ทิ้งเรื่องของความสุภาพ เพราะผมคิดว่าตรงกันข้าม  ถ้าเรายิ่งพยายามใช้ความกร้าวเข้าหากัน  ความสงบจะไม่เกิดขึ้น   ก็ต้องเป็นเรื่องที่เราต้องคลี่คลายพยายามแก้ไขที่ต้นเหตุจากนี้ไป  ที่ผ่านมาถือว่าเราต้องแก้เหตุการณ์เฉพาะหน้าให้ได้ก่อน  ตอนนี้ต้องหมุนกลับไปที่ต้นเหตุ  ผมเรียนตามตรงว่าเป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วตั้งแต่แรก เพียงแต่ผมนึกว่า  ถ้าเราทำให้เรื่องการประชุมอาเซียนผ่านพ้นไปด้วยดี เราก็สามารถที่จะกลับมาดูในเรื่องนี้ได้  เพราะเรื่องเศรษฐกิจก็เดินไปพอสมควร   เพราะฉะนั้น  ก็เป็นความตั้งใจอยู่แล้วว่าจังหวะเวลานี้น่าจะต้องกลับมาดูเรื่องนี้กัน  เพราะผมทราบว่าความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล หรือต่อสภาพการเมืองในปัจจุบันจำนวนหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่เราควรจะต้องรับฟังและตอบสนอง 
 
ถาม  จากนี้ไปต้องจัดทัพด้านความมั่นคงใหม่หรือไม่
นายกรัฐมนตรี   ผมคิดว่าให้เรื่องเรียบร้อยก่อน  แล้วจะมาทบทวนกันอีกที 
 
ถาม  ความคืบหน้าในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  หลังจากที่มีถอนพาสปอร์ตแล้วจะทำอย่างไร
นายกรัฐมนตรี  อย่างที่เรียนครับได้แจ้งหน่วยงานสากลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว   
 
ถาม  มีกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปประเทศแอฟริกา
นายกรัฐมนตรี   ยังเลยครับ  วันนี้รู้สึกมีข่าวเยอะ ตั้งแต่นิคารากัว  ไปโน่นไปนี่  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงได้พูดคุยกับต่างประเทศและทูตานุทูตชัดเจนว่า เรามีความเป็นห่วงเวลาที่ท่านอดีตนายกฯ ไปเคลื่อนไหวในทางการเมือง เพราะอันนี้ก็เป็นสิ่งซึ่งมิตรประเทศต้องช่วยกันดูแล    
 
ถาม  การถอนพาสปอร์ตของอดีตนายกฯ จะเป็นประโยชน์ในการติดตามตัวได้มากน้อยแค่ไหน
นายกรัฐมนตรี  ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่ามีเอกสารเดินทางที่สามารถใช้ได้มากน้อยแค่ไหน 
 
ถาม  แต่ละประเทศเขารับปากที่จะดูแลให้พ.ต.ท.ทักษิณฯ ไม่เคลื่อนไหว
นายกรัฐมนตรี  ผมเชื่อว่าทุกประเทศที่เป็นมิตรประเทศ เราปฏิบัติในหลักการนี้อยู่แล้วเป็นการทั่วไป  คงไม่ยอมให้ใครมาใช้พื้นที่หรือสถานที่ของตัวเองไปก่อปัญหาความมั่นคงให้กับประเทศอื่น 
 
ถาม  หมายความว่ารัฐบาลไทยจะนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดีในไทยได้ใช่หรือไม่ 
นายกรัฐมนตรี  ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ  ผมไม่สามารถบอกได้เพราะว่าไม่ทราบว่าจะไปพบตัวหรือไปดำเนินการได้อยู่ที่ประเทศไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าในประเทศนั้นกระบวนการในเรื่องการส่งตัวหรือไม่จะเป็นอย่างไร  ไปพูดในลักษณะทั่วไปไม่ได้ 
 
ถาม  ถ้านำตัวกลับมาได้จะจบปัญหาได้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี  ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องว่าจะจบปัญหาหรือไม่จบปัญหา ในส่วนนี้เป็นเพียงเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมาย  การจบปัญหาที่แท้จริงถาวรก็คือปัญหาในการที่จะต้องหาทางออกทางการเมืองร่วมกันมากกว่า 
 
ถาม หลังจากที่รัฐบาลไทยต้องเลื่อนการประชุมอาเซียนบวก 3 บวก 6 ออกไป หลังสถานการณ์ตรงนี้จะมีความเป็นไปได้ในการจัดอีกครั้ง 
นายกรัฐมนตรี  กำลังปรึกษาอยู่ คิดว่าภายใน 2 วันจะได้ข้อยุติ 
 
ถาม  ได้มีการประสานไปยังประเทศต่าง ๆ หรือยัง
นายกรัฐมนตรี  ทางกระทรวงได้ดำเนินการอยู่ และเลขาธิการอาเซียนจะพบผมภายในวันสองวันนี้ 
 
ถาม  คิดว่าเขามีความข้องใจจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี  ที่จริงแล้วประเทศทั้ง 16 ประเทศสัมผัสกับเหตุการณ์ด้วยตัวเองอยู่แล้ว  และก็ติดตามสถานการณ์  วันนี้ก็มีทูตและผู้แทนของประเทศเหล่านี้มาร่วมฟังอีกครั้งหนึ่งด้วย 
 
ถาม  แสดงว่าการจัดครั้งต่อไปจะไม่ล้มเหลว
นายกรัฐมนตรี  เราคงปล่อยให้ล้มเหลวไม่ได้ เพราะฉะนั้น ผมจะต้องทบทวน และแก้ไขจุดที่เป็นข้อบกพร่องทั้งหลายให้ได้   
ถาม  กระแสข่าวที่มี 3 ประเทศเช่นกัมพูชา  ดูไบ และนิคารากัวให้หนังสือเดินทางพ.ต.ท.ทักษิณ
นายกรัฐมนตรี  กำลังตรวจสอบอยู่ ยังไม่มีที่ไหนยืนยัน 

---------------------------------------