โหด !! สาวแก่โดนทุบหัวเละ

เจอแล้วเก๋งยาริสที่คนร้ายใช้สังหารเศรษฐินีสาวใหญ่ทิ้งศพริม"โลคัลโรด" สงสัยโดนฆาตกรหนุ่มหน้าตี๋ลวงไปเข้าบ่อนใหญ่แล้วพาไปฆ่าชิงเงินสด ตร.เจอรถจอดทิ้งไว้ย่านประเวศ มีคราบเลือดที่เบาะหน้า พยานระบุก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปเบิกเงิน 1.5 แสนที่แบงก์ มีชายหน้าตี๋ขับเก๋งยาริสคอยรับส่ง และเป็นคนชักชวนผู้ตายไปเสี่ยงโชคในบ่อนใหญ่ สงสัยรู้ว่าเบิกเงินมาเยอะเลยลงมือฆ่าชิงเงินสด ตร.เช็กจนรู้ตัวฆาตกรแล้ว บุกค้นบ้านแต่คลาดกันหวุดหวิด เผยตรวจบัญชีผู้ตายมีเงินมากถึง 16 ล้านบาททีเดียว

บ้านเลขที่ 200 ถนนบ้านดอน ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เศรษฐินีเจ้าของบ้านเช่าตายปริศนาริมถนนกำแพงเพชร 5 หรือโลคัลโรด แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. พบบาดแผลที่ศีรษะเปิดถึง 9 แห่ง แต่ตามตัวกลับไม่มีร่องรอยถลอก นอกจากนี้พบเงินสดอีก 1 แสนบาทซุกอยู่ในเสื้อชั้นใน โดยตรวจสอบพบว่าเพิ่งไปเบิกเงินสด 1.5 แสนบาทจากธนาคาร แยกซุกในเสื้อชั้นใน 1 แสน ส่วนเงินที่อยู่กระเป๋ากางเกง 50,000 บาทนั้นหายไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจระบุจุดเกิดเหตุไม่เหมาะที่จะมาเดิน มุ่งปมอาจจะถูกลวงมาฆ่าชิงเงินหรือประสบอุบัติเหตุ เร่งสอบหาเงินสดอีก 5 หมื่นที่หายไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พ.ต.ท.กานต์ ธรรมเกษม สว.สส.สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า คดีนี้พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 มอบหมายให้พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผบก.น.2 จัดทีมสืบสวนประกอบด้วยชุดสืบสวนกก.สส.น.2 และฝ่ายสืบสวนสน.บางซื่อ ร่วมคลี่คลายคดี เบื้องต้นจากการตรวจสอบเส้นทางเริ่มจากจุดที่ผู้ตายไปถอนเงินที่ธนาคารกรุงไทยจำนวน 150,000 บาท โดยแยก 1 แสนบาทซุกไว้ในเสื้อชั้นใน และอีก 50,000 บาทใส่ในกระเป๋ากางเกง กระทั่งพบศพเงิน 50,000 บาทได้หายไป ซึ่งอาจจะถูกชิงทรัพย์ นอกจากนี้ยังตรวจพบเงินในบัญชีของคนตายยังมีเงินอยู่อีก 16 ล้านบาท ถือว่าเป็นคนที่มีฐานะดีมากระดับเศรษฐินีทีเดียว

เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพยานแวดล้อมพบว่า ตอนที่ผู้ตายไปเบิกเงินครั้งนั้นพบว่ามีชายวัยกลางคนคนหนึ่งขับรถโตโยต้า ยาริส ป้ายแดง ไปส่งและรับออกไปกระทั่งมากลายเป็นศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกตามหารถคันดังกล่าว กระทั่งวันที่ 29 ก.ค. เวลา 10.00 น. บริษัทประกันภัยแจ้งให้ทราบว่า พบรถโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ป้ายแดง ทะเบียน ษ-4358 กทม. จอดทิ้งไว้หน้าร้านส้มตำ ถ.ศรีนครินทร์ ท้องที่สน.ประเวศ จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปตรวจสอบ และตรวจเก็บรายละเอียดภายในรถ พบว่าที่เบาะนั่งด้านหน้าข้างคนขับและเข็มขัดนิรภัยมีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่ พร้อมทั้งยังได้ส่งมอบรถให้พฐ.นำไปตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป ซึ่งผลการตรวจยังไม่ส่งกลับมา โดยเฉพาะประเด็นคราบเลือดที่พบเป็นของผู้ตายหรือไม่

"สำหรับผลการผ่าพิสูจน์ศพนางสุดานั้น แพทย์ระบุว่าแผลที่ปรากฏที่ท้ายทอยและกระหม่อมถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกจนทำให้กะโหลกศีรษะแตก ซึ่งจากการสอบถามแพทย์ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แพทย์ระบุว่าสามารถเกิดได้ทั้ง 2 อย่างคือ อุบัติเหตุ และถูกฆาตกรรม ซึ่งมีแนวโน้มฆาตกรรมมากกว่า" สว.สส.สน.บางซื่อกล่าว

ครั้งแรกจากการตรวจสอบเบื้องต้นคิดว่าเกิดจากอุบัติเหตุ แต่เมื่อแพทย์ตรวจสอบบาดแผลแล้วไม่ใช่ลักษณะอุบัติเหตุ เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการฆาตกรรม จึงสั่งรื้อคดีติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งพบพยานคนหนึ่งเห็นชายวัยกลางคนลักษณะเป็นคนจีนมาเกาะติดกับผู้ตาย และชักชวนไปเล่นการพนันในบ่อนใหญ่แห่งหนึ่งด้วยกันจนทราบว่าผู้ตายมีเงิน กระทั่งไปเห็นผู้ตายกดเงินออกมาจากธนาคาร จึงลงมือชิงทรัพย์ และเมื่อถูกเจ้าหน้าที่กดดันตามหาตัวก็เลยนำรถไปจอดทิ้งไว้เพื่อให้ไฟแนนซ์ยึดคืน

ภายหลังพบรถคันดังกล่าวแล้ว พ.ต.อ.วิชัยสั่งการพ.ต.ท.สมศักดิ์ นิเต็ม สว.กก.สส.น.2 พร้อมทีมงานออกติดตามหาตัวเจ้าของรถคันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่ารถเพิ่งดาวน์ออกมาได้ไม่นาน โดยเจ้าของเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จ.นนทบุรี จากการเข้าตรวจสอบบ้านพักยังไม่พบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามหาตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนางสุดาหรือไม่

จากการตรวจสอบพบว่านางสุดา ผู้ตาย เป็นเจ้าของกิจการบ้านเช่า ที่ ถ.ประชาราษฎร์สาย 1 แยก 14 เขตบางซื่อ มีลูกชายเป็นผู้เฝ้าดูแล ปกติผู้ตายพักอยู่กับสามีที่ จ.สุราษฎร์ธานี ช่วงนี้มาควบคุมดูแลการซ่อมแซมบ้านเช่าแทนลูกชาย นอกจากนี้ทราบว่าผู้ตายได้รับการชักจูงจากญาติคนหนึ่งพาไปเล่นพนันที่บ่อนใหญ่แห่งหนึ่ง การเดินทางไปไหนมาไหนมักจะใช้บริการรถโดยสารประจำทาง หรือรถแท็กซี่

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด