อภิสิทธิ์-อนุพงษ์ดวงเสริมประคองแผ่นดิน

คมชัดลึก : อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังแห่งสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ ที่ใครๆ เรียกว่า "โหร คมช." เปิดใจกับ "คม ชัด ลึก" ภายหลังรัฐบาลผนึกกำลังกับกองทัพเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง จนต้องประกาศยุติการชุมนุมนั้น เป็นการประคับประคองกันฝ่าวิกฤติ

ผมขอย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน ได้ทำพิธีบุญประจำปี และมีการยกช่อฟ้าที่พุทธมณฑล สถานการณ์บ้านเมืองจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน

จะมีการปะทะกัน เหตุการณ์จะอยู่ในเกณฑ์รุนแรงพอสมควร การปะทะจะเกิดลักษณะข้างเคียง ไม่ได้ปะทะกันตรงๆ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะเริ่มปะทุ และจบลงในวันที่ 14 เมษายน แต่จริงๆ แล้ว เหตุการณ์เหมือนยังไม่จบ เพราะดูแล้วกลัวมือที่สาม แต่กลุ่มที่ปะทะกันจะคลี่คลายไป แต่ผมกลัวมือที่สามจะแฝงเข้า คือผู้ที่ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง

ดังนั้นอยากให้รวมตัวรวมใจเพื่อหาทางป้องกัน เพราะบ้านเมืองขณะนี้เริ่มกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ แต่กลุ่มมือที่สาม ที่เป็นปรปักษ์ของแผ่นดิน เป็นตัววิบากกรรมของแผ่นดิน ซึ่งเป็นเศษกรรมที่อาจจะได้รับ

หลังจากวันที่ 20 เมษายน ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งถึงปลายเดือนเมษายน ทุกอย่างจะเป็นปกติ แต่ในการปะทะกันครั้งก่อนเหมือนกับเป็นกรรมครั้งสุดท้ายที่รุนแรงแบบนี้ และมวลชนที่จะรวมตัวก่อให้เกิดความวุ่นวายหมดไปแล้ว

หลังจากนายกรัฐมนตรีผ่านเหตุการณ์รุนแรงมา นับจากนี้ไปจะบอกได้หรือไม่ว่าดวงของนายอภิสิทธิ์ จะไม่มีใครมาทำอันตรายได้

ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่า ถึงอย่างไรคุณอภิสิทธิ์ ก็จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี และการที่คุณอภิสิทธิ์ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ก็เพราะบุญบารมีของตัวเอง และหน้าที่ที่จะทำให้แก่บ้านเมืองกับแผ่นดิน นั่นคือหน้าที่ของคุณอภิสิทธิ์  แต่ต้องขอบอกว่าเหนื่อยหน่อย หรือบอกตรงๆ ว่าเหนื่อยหนักเลย เพราะจะมีสถานการณ์หลายๆ เรื่องประดังเข้ามา ที่จะเป็นภาระที่หนัก ดังนั้นขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจร่วมกันในการนำพาประเทศให้รอดพ้นวิกฤติ

ดวงของนายกฯ กับ พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มีความเกื้อหนุนกันใช่หรือไม่ ที่จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น

เป็นผู้ที่มีหน้าที่ประคองบ้านเมืองให้ถึงตลอดรอดฝั่ง เพราะที่ดูบุญและกรรม ทั้ง คุณอภิสิทธิ์ และ พล.อ.อนุพงษ์  ก็เป็นดวงที่เสริมกัน ที่ประคองแผ่นดินไปด้วย แต่ก็จะมีเสี้ยนหนามคอยตำอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรมาก เพราะเหตุการณ์จบไปแล้ว ตอนนี้ทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะต่างประเทศก็เข้าใจในชาติบ้านเมืองของเรา อย่างกรณีของสหรัฐอเมริกาก็ออกมาประณาม ซึ่งตรงนี้ทุกคนรู้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร ดังนั้นทุกอย่างจะต้องร่วมมือกัน

อานิงสงส์ผลบุญที่พวกเรา หรือหลายๆ ฝ่ายที่ช่วยกันสวดมนต์ หรือหลายท่านที่มีการชี้แนะ รวมถึงการยกช่อฟ้า และการทำบุญครั้งใหญ่ของสำนักสุขิโต

เมื่อวันที่ 5 เมษายน ก็เป็นการช่วยประคองเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ให้สงบ ดังนั้นขอร้องกลุ่มที่ออกมาที่ไม่เป็นผลดีกับบ้านเมืองให้สงบ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ตอนนี้ทุกอย่างคือธรรมะต้องชนะอธรรมอยู่แล้ว ตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ถึงการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายๆ ของประเทศที่ผ่านมา

เหมือนกับว่าตอนนี้ท่านเงียบไปแล้ว เพราะตอนนี้ท่านรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ตัวของท่านเองไม่ได้นึกคิดอะไร หรือทำร้ายกับใคร

แต่คนที่อยู่รอบข้าง หรือคนที่ได้ประโยชน์จากตัวท่าน เป็นคนที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้น เป็นตัวที่คอยชี้แนะชี้นำในทางที่ผิดๆ ต่อท่าน ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ นิ่ง ทุกอย่างก็จะจบลงด้วยดี เหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นเป็นคนรอบข้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีผลประโยชน์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือเอาผลประโยชน์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ มาทำให้เกิดความวุ่นวายกับชาติบ้านเมือง ดังนั้นทุกอย่างจะต้องปล่อยไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตย เพราะเมื่อถึงเวลา คุณอภิสิทธิ์ ก็จะต้องคืนอำนาจให้แก่ประชาชน ให้บ้านเมือง ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

กรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณหมดหรือไม่ หรือว่าอยู่ในช่วงใช้กรรม

เหมือนกับท่านต้องเจอวิบากกรรม ดังนั้นถ้านิ่ง และทำเหมือนกับศาสนิกชนทั่วไป ทุกอย่างก็จะนิ่งไป ไม่น่าจะมีอะไรมากมาย ถ้าท่านนิ่งก็จะหมดวิบากกรรม แต่ถ้าดิ้นไปตามกระแส หรือจากกลุ่มรอบข้างชี้นำในทางที่ผิดท่านก็จะมีกรรมยิ่งลึกเหตุการณ์รุนแรงจะเกิดขึ้นหรือไม่

เหตุการณ์รุนแรงจะไม่มีแล้ว และในช่วงปีนี้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นการปะทะครั้งสุดท้าย แต่จะมีก็มีแต่เสี้ยนหนามคอยทิ่มแทง แต่ไม่รุนแรง

ดังนั้นจะต้องให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศและประคับประคอง เหตุการณ์ร้ายๆ จะไม่มีแล้ว เพราะทุกคนเข้าใจถึงเหตุและผลหมดแล้ว ต่อไปปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้ทำงานไป เพราะอย่างไรก็ตามก็เป็นหน้าที่ เป็นวาระ หรือยุคของท่าน อย่าไปเปลี่ยนยุคเลย