วันนี้ (16 เม.ย.) น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้ประเมินสถานการณ์บ้านเมืองหลังจากนี้ว่า
สิ่งสำคัญที่รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบได้ โดยไม่มีประชาชนสูญเสียชีวิตเพราะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน แต่อาจจะมีการเคลื่อนไหวในรูปแบบของแนวร่วมผู้อยู่เบื้องหลัง อาทิ การเคลื่อนไหวจะลงสู่ใต้ดินมากขึ้น การบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด อย่างกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ อย่างไรก็ดี พรรคขอยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนในการชี้แจงข้อเท็จจริง ขณะที่คณะกรรมการอำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ได้เรียงลำดับเหตุการณ์ สถานการณ์ให้ประชาชนได้รู้ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว และพรรคขอเตือนว่า การปล่อยข่าวลือใด เพื่อให้เกิดความแตกแยก มีความผิดตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน และผิดกฎหมายอาญาของบ้านเมือง
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า พรรคจะจัดกิจกรรม เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาสู่ความสงบ พรรคยังคงสนับสนุนใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป
จนกว่าจะมีการประเมินในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ในวันที่ 17 เม.ย. และสนับสนุน กอฉ. ในการควบคุมสถานการณ์ และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ร่วมก่อการ และผู้สนับสนุนที่ร่วมก่อการ ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเด็ดขาด เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป รวมถึง การขยายผลสืบค้นผู้ที่ร่วมมือก่อการจลาจล ที่ถูกบันทึกไว้ ทั้งสื่อและเจ้าหน้าที่ให้มาลงโทษ ส่วนผู้เข้าร่วมชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่ได้ร่วมการก่อการใดๆ ก็ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการชุมนุม 2 เยี่ยวยาฟื้นฟูผลกระทบที่ได้รับจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าเสื้อสีใด โดยจะเน้นการสมานฉันท์ภายใต้กรอบกฎหมาย พร้อมทั้งกอบกู้วิฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้
คือ กัมพูชา สหรัฐอาหรับอิมมิเรต และ นิการากัว ที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เผยว่ามีพาสปอรต์ในประเทศดังกล่าว แต่ไม่อยากให้ และประเทศไทยจะเคารพสิทธิของทุกประเทศ แต่เป็นการขอความร่วมมือมิตรประเทศ เพื่อให้แจ้งว่ามีการใช้พาสปอรต์ของประเทศใด เพื่อให้ประเทศนั้นแจ้งกับมา และประเทศติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดี