"เสื้อแดง" ป่วนทั่วกรุง ไม่สะท้านเผชิญรถถัง-หุ้มเกราะ ถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน เหิมหนักยึดรถทหาร-รถเมล์ ปิดถนนแทบทุกสายของกทม. บุกล้อมศาลอาญา-สตช.กดดันปล่อยแกนนำ "ณัฐวุฒิ" กร้าว "พ.ร.ก.เศษกระดาษ"
ม็อบแดงกระจายกำลังกดดันรบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ก่อนการประกาศภาวะฉุกเฉินและช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันนั้น ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งดำเนินการปั่วป่วนไปทั่วกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 เมษายน นำโดยชมรมแท็กซี่ รวมตัวกันปิดการจราจรบริเวณหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกทั้งฝั่งขาเข้า และขาออก เนื่องจากมีกระแสข่าวตำรวจ เตรียมนำตัวนายอริสมันต์ไปยื่นคำร้องฝากขัง โดยเปิดการจราจรเฉพาะช่องชิดเกาะกลางถนนของทั้งสองฝั่งเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น ทำให้การจราจรโดยรอบทั้ง ถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ติดขัดอย่างหนัก
เวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่าตำรวจยังไม่ได้นำตัวนายอริสมันต์ มาฝากขังแต่อย่างใด ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปชุมนุมที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ถนนพระราม 1 เมื่อเวลา12.00 น. ที่นั่นกลุ่มเสื้อแดงกว่า 200 คน กระจายกำลังปิดล้อมประตูหน้าตร. เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายอริสมันต์ และสลายตัวไปภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ส่วนอีกกลุ่มราว 300 คน ปิดการจราจรบริเวณหน้าตร. ช่วงแยกราชประสงค์ ถึงแยกเฉลิมเผ่า ทั้ง 2 ฝั่ง ผู้ใช้ถนนต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
นอกจากนี้ ในช่วงเช้ายังกระจายกำลังไปยังหน้ากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) ถนนพหลโยธินประมาณ 20 นาที เนื่องจากได้ข่าวเป็นสถานที่คุมตัวนายอริสมันต์ จากนั้นเคลื่อนไปยังศาลอาญา ระหว่างเตรียมออกเดินทางนั้น กลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งยืนขว้างรถประจำทางครีมแดง สาย 29-ก วิ่งระหว่างบางเขนหัวลำโพง ที่ขับผ่านมา ให้หยุดรถและสั่งให้คนขับพาเสื้อแดงไปส่งหน้าศาลอาญารัชดา ผู้โดยสารที่มากับรถต้องกระโดดหนีลงจากรถ จนเกิดเหตุวุ่นวาย ระหว่างนี้มีรถแท็กซี่จำนวน หลายร้อยคันได้ขับตามรถคันดังกล่าวไป
ขึ้นเวทีปลุกปลอบไม่ทิ้งผู้ชุมนุม
ส่วนบนเวทีหน้าทำเนียบฯ นายวีระ มุสิกพงศ์ ประกาศให้คนเสื้อแดงที่รวมตัวหน้าศาลอาญาฯ ให้อยู่นิ่งๆ ไปก่อน โดยอ้างว่าตอนนี้ตำรวจนำตัวนายอริสมันต์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ พร้อมนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.อีกคนโดยไม่รู้ปลายทาง จึงขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป
ต่อมาเวลา 13.10 น. นายวีระขั้นปราศรัยอีกครั้งว่า เวลานี้ทุกอย่างเรียบร้อย ขอให้รวมตัวที่ทำเนียบฯ ข่าวสารไม่ชัดเจน ขอให้อย่าเคลื่อนที่ไปไหน และแจ้งว่าไม่มีนำตัวนายอริสมันต์มาที่ศาล มีการนำนายจตุพรขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปด้วย ยังไม่รู้นำทั้งสองไปไหน แต่ทางตำรวจแจ้งว่าปลอดภัย ซึ่งอาจจะเป็น ค่ายนเรศวร (หัวหิน) จึงขอให้ผู้ชุมนุมรอฟังข่าวสารอย่างชัดเจน แกนนำนปช.จะไม่ทิ้งผู้ชุมนุม ระหว่างนั้นนพ.เหวง โตจิราการ ขึ้นเวที เรียกร้องให้กำลังชายกรรจ์ ไป500คน ไปประจำการจุดยุทธสาสตร์บริเวณรอบทำเนียบฯเพื่อป้องกันถูกสลายชุมนุม
รถถัง-ฮัมวี่ติดอาวุธวิ่งเต็มเมือง
ภายหลังประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เวลา 15.50 น. มีกำลังทหารจากร.1พัน2รอ. จำนวน 80 นาย นั่งรถบัสทหารผ่านหน้าบ้านพิษณุโลก แต่ถูกกลุ่มเสื้อแดงสกัดไม่ให้วิ่งผ่านเข้าไปถึงเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบฯได้ พร้อมทั้งถามถึงอาวุธที่พกว่าจะนำมาทำไม ทำให้ทหารต้องถอยร่นออกไปทางสะพานขาว ส่วนบริเวณถนนสวรรคโลก มีกำลังทหารจากร.1พัน4รอ.ประมาณ 20 นาย ยืนปิดถนนทั้งสองด้านเพื่อกันไม่ให้รถผ่านเข้าออกบริเวณวังสวนจิตรลดา ขณะที่ถัดไปอีกประมาณครึ่งกิโลเมตร บริเวณแยกวัดวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม มีกำลังเสื้อแดงประมาณ 100 คนมายืนขวางปิดถนนเพื่อไม่ให้กำลังทหารผ่านไปยังถนนพิษณุโลก เช่นกัน นอกจากนี้ที่บริเวณแยกสุโขทัย ด้านที่จะผ่านไปทางรัฐสภา มีกำลังทหารประมาณ 10 กว่านาย พร้อมอาวุธครบมือยืนรักษาการณ์ไม่ให้รถผ่านเข้าออกด้วย
นอกจากนี้ ตามสี่แยกสำคัญๆ มีรถฮัมวี่ติดอาวุธหนัก(ปืนกล) กำลังทหารแต่งกายเต็มเครื่องแบบ พร้อมปืนเอ็ม16 กระจายคุมพื้นที่ ตามสี่แยกสำคัญที่จะเข้าไปทางตัวเมืองหรือที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมอยู่ ส่วนบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพักพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีรถหุ้มเกราะติดปืนกลหนัก จากม.พัน3รอ. จำนวน 2 คันเคลื่อนเข้าไปจอดเมื่อเวลา 16.00น. คันหนึ่งจอดเฝ้าอยู่หน้าบ้าน อีกคันหนึ่งวิ่งตระเวนรอบบ้าน ระหว่างที่วิ่งก่อนถึงแยกเทเวศร์ กลุ่มเสื้อแดงได้โยนประทัดใส่รถถัง สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนรอบๆ เป็นอย่างมาก
แท็กซี่ชนรถหุ้มเกราะ-แดงยึด3คัน
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีรถหุ้มเกราะจำนวน 2 คันวิ่งออกจากมาจากกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน ปรากฏว่ากลุ่มเสื้อแดงเห็น จึงได้ขับรถแท็กซี่ 2 คันเข้าขวางทางและชน แต่ก็ไม่สามารถหยุดรถหุ้มเกราะได้ โดยพลขับนำรถวิ่งหายไปด้านแยกจปร.ที่จะขึ้นสะพานพระราม 8 นอกจากนี้กลุ่มเสื้อแดงยังได้เข้าไปกรุ้มรุมทหารที่ยืนรักษาการณ์บริเวณด้านหน้าโรงเรียนกรมแผนที่ทหารอีกด้วย แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย และต่อมากลุ่มเสื้อแดงได้ปิดการจราจรถนนราชดำเนิน ด้วยการยึดรถเมล์จำนวน 3 คันและแผงเหล็กนำมากั้นบริเวณแยกจปร. นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยึดรถหุ้มเกราะได้ 3 คัน ที่แยกศรีอยุธยา แยกจปร. และแยกวัดเบญจมบิตรฯ
นั่งรถหุ้มเกราะถ่ายรูปเล่นกันสนุก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าภายหลังมีการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว มีการระดมกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ตรึงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยภายใน ตร.ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งยังคงอยู่ที่บรเวณแยกเฉลิมเผ่า ถนนอังรีดูนังค์ และเข้ายึดรถหุ้มเกราะของทหารที่นำออกมารักษาความสงบเรียบร้อย 2 คัน โดยขึ้นไปนั่งบนรถโบกธงชาติ ถ่ายรูปกันเป็นที่สนุกสนาน
เจอแท็กซี่ต้านต้องลากรถถังกลับ
นอกจากนี้ยังมีรถถังเคลื่อนเข้าประจำเพื่อรักษาความสงบที่กระทรวงการต่างประเทศ 1 คัน และบริเวณ 4 แยกศรีอยุธยาอีก 1 คัน เมื่อรถถังทั้ง 2 คันมาจอด มีบรรดาโชเฟอร์แท็กซี่และบรรดาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดสอบถาม จากนั้นพากันตะโกนด่าทหาร โดยรถแท็กซี่สีฟ้า โตโยต้าอัลติส ทะเบียน ทม-1803 กทม. ขับเข้าไปจอดเทียบรถถังและโชเฟอร์ลงจากรถไปชี้หน้าด่าทหารที่ขับรถถังออกมา จากนั้น โชเฟอร์คนดังกล่าว ขับรถกลับไปยังรถถังที่จอดอยู่ที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ แล้วลงไปด่าทอทหารที่ขับรถมาเช่นกัน โดยระบุว่า จะเสี่ยงกับแท็กซี่หรือ เพราะแท็กซี่มีแก๊สเต็มถัง หากพุ่งชนจะเกิดระเบิดขึ้นและตายเป็นตาย
ต่อมากลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 50 คน นำรถแท็กซี่รวม 10 คัน ไปช่วยกันปิดล้อมรถถังทั้ง 2 คันไว้ พร้อมกับขึ้นไปอยู่บนรถถังแม้ทหารจะอ้างรถถังเสีย ต้องรออีกคนมาลาก ขอให้ลงจากรถแต่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอม หากจะมาลากกลับก็จะขออยู่บนรถจะไม่ยอมลง ต่อมารถถังอีกคันก็มาลากรถถังที่เสียกลับเข้า ม.พัน 1 รอ.
กลุ่มเสื้อแดงยังปิดถนนบริเวณแยกยมราช ทำให้ต้องปิดการจราจรถนนพิษณุโลก ช่วงแยกยมราช ถึง แยกนางเลิ้ง รวมทั้งบริเวณแยกศรีอยุธยา มีกลุ่มเสื้อแดงรุมล้อม รถเกราะของทหาร ผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบแยกศรีอยุธยา
อ้างเสื้อแดงโดนทหารยิงเจ็บ3
ระหว่างนั้นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. แถลงข่าวด้านหลังเวทีชุมนุมหน้าทำเนียบฯว่า การที่นายอภิสิทธิ์ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มคนเสื้อแดงไม่สามารถยอมรับการกระทำของรัฐบาลอำมาตยาธิปไตยต่อไปได้ ซึ่งคนเสื้อแดงไม่ต้องการเห็นชัยชนะที่ต้องแลกมากับชีวิตของประชาชน เหตุการณ์ล่าสุดกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้ปืนยิงใส่ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 คน รายงานเบื้องต้นแจ้งมาว่า เสียชีวิตแล้ว 2 คน ซึ่งทั้ง 3 คนนั้นไม่มีอาวุธในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ การ์ดของคนเสื้อแดงได้รายชื่อผู้ที่โดนยิงจำนวน 3 คนได้แก่ นายพยงค์ ไทยอุดม, นายเชาวลิต ศรีนาคคำ และนายอนุชิต อนุตตระกูล หากรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ต้องการใช้วิธีความรุนแรงเข้ามาจัดการกับประชาชน กลุ่มคนเสื้อแดงคงจะยอมต่อไปไม่ได้ ซึ่งจะต้องตอบโต้ด้วยวิธีการของคนเสื้อแดงทุกรูปแบบ
ไม่กลัวทหารยึดเมล์10คันปิดถนน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การ์ดของคนเสื้อแดงได้จับกุมตัว พ.ต.ปกรณ์ สมภานต์ เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี โดยจับกุมตัวได้ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งการ์ด นปช.อ้างว่าเป็นคนที่ใช้ปืนยิงใส่คนเสื้อแดง ในระหว่างที่นำตัวมาด้านหลังเวทีได้ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ารุมทำร้ายจนศรีษะแตก ก่อนจะถูกรุมจนสะบักสะบอม โดย การ์ดของ นปช.ได้พยายามเข้าห้ามคนเสื้อแดงไม่ให้เข้ารุมทำร้าย พ.ต.ปกรณ์
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า พ.ต.ปกรณ์ เป็นบุคคลที่ใช้ปืนยิงใส่กลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งการร์ดของ นปช.ได้รวมตัวกันและยึดวิทยุสื่อสารพร้อมด้วยปืนขนาด 9 มม.บรรจุกระสุน 7 นัด ซึ่งทางแกนนำ นปช.จะควบคุมตัวเพื่อสอบสวนและจะนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
ไม่ตระหนกหยันพ.ร.ก.เศษกระดาษ
นายณัฐวุฒิแถลงว่าขอเรียกร้องให้ภาครัฐเปิดพื้นที่ให้กลุ่ม นปช.ได้ใช้สื่อของรัฐเพื่อสื่อสารข้อมูลข่าวสารกับประชาชนทั่วประเทศด้วย เพราะขณะนี้สื่อมวลชนต่างๆ ได้นำเสนอเฉพาะความเคลื่อนไหวของภาครัฐบาลและกองทัพที่ออกมาให้ข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงกับกลุ่ม นปช. กรณีที่อ้างว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้จับกุมตัว นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ให้มาขึ้นเวทีของกลุ่ม นปช.ซึ่งคนเสื้อแดงขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่ นปช.ควบคุมตัว รปภ.ของนายกรัฐมนตรีไว้ ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต เข้ามาสอบสวนและดำเนินคดีแล้ว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทางกลุ่ม นปช.จะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้นกับรัฐบาลที่สั่งฆ่าประชาชน และไม่ได้ตื่นตระหนกใดๆ ทั้งสิ้น เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็แค่กระดาษเปื้อนหมึกแผ่นเดียว ที่ทหาร ตำรวจ คงไม่สามารถออกมาทำอะไรกับประชาชนได้ เพราะที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรก็สามารถชุมนุมได้อย่างหน้าตาเฉย แม้จะมีประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
