ม็อบบุกมหาดไทย ไล่หลังอภิสิทธิ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ชุลมุนล้อมรถนายกฯ
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปแถลงถึงกรณีตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงในเขตกทม. และปริมณฑล ที่กระทรวงมหาดไทย ว่าต้องการให้บ้านเมืองกลับไปสู่การปกครองโดยนิติรัฐ หลังจากรัฐบาลพยายามสุดความสามารถ เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า แต่การชุมนุมกลับพัฒนาเป็นการบุกรุก ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล วันนี้ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องแก้ไข ป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย โดยมอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รับผิดชอบในการกำกับดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่พนักงาน
สำหรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ อยุธยา นครปฐม ห้ามการชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป
หลังนายกรัฐมนตรีแถลงเสร็จ ปรากฏว่า ผู้ชุมนุมที่โกรธแค้นบุกเข้ามายังกระทรวงมหาดไทย และปิดล้อมอาคาร พร้อมทั้งบุกเข้าหารถยนต์ของนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางสถานการณ์ที่ชุลมุนวุ่นวาย โดยมีเสียงปืนในที่เกิดเหตุด้วย ก่อนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีจะเคลื่อนออกไปได้ในที่สุด
ก่อนหน้านี้ เวลา 09.25 น. นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ว่า ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการชุมนุมของกลุ่มคน ซึ่งรัฐบาลพยายามใช้ความอดทนกับการชุมนุมดังกล่าว เพื่อไม่ให้เสียประโยชน์ของประเทศในการประชุมอาเซียนซัมมิตที่จะมีขึ้น แต่สุดท้ายก็ส่งผลกระทบต่อการประชุม ทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจเลื่อนการประชุมออกไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าทำดีที่สุดแล้วในการลดความเสียหายต่อความรู้สึกของผู้นำประเทศต่างๆ และจำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่พัทยาและจ.ชลบุรี
เพื่อให้เจ้าหน้าทำงานสะดวกขึ้น และประกาศยกเลิกพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในวันเดียวกัน เพราะทราบดีว่าการประกาศใช้พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมาก และเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด เพื่อให้รัฐบาลทำงานได้โดยการรักษากฎหมายบ้านเมือง
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่การชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยตามสิทธิที่พึงมีในรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ยุติการชุมนุม เลิกเรียกร้องหรือชักจูงหรือปลุกระดมให้มีคนกระทำผิดกฎหมายเพิ่ม หากยังชุมนุมต่อเนื่องรัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการ ขอย้ำว่าภายใน 3-4 วันข้างหน้าต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของกฎหมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดในกรอบของกฎหมายกับบุคคลเหล่านั้น เพื่อให้การบริหารบ้านเมืองทำได้ง่ายและครอบคลุมขึ้น ขอให้ประชาชนรับทราบเหตุการณ์และเข้าใจในจุดยืนของรัฐบาล ขอพิสูจน์ตัวเองด้วยการแก้ไขจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น และขอให้ประชาชนพักผ่อนอย่างผ่อนคลายในช่วงเทศกาลวันหยุดและมั่นใจในสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการในอีก 3-4 วันข้างหน้าด้วย