คมชัดลึก :สื่อเทศ ระบุ เลื่อนประชุมอาเซียนไทยเสียผลประโยชน์ แนะล้วนอ้างรักสถาบัน ควรทำอย่างที่พูด ระบุ การรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทำไม่เต็มที่
(11เม.ย.) นายทิม จอห์นสตัน ผู้สื่อข่าวไฟแนนเชียล ไทม์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงบุกเข้ามายังโรงแรมรอ ยัลนั้น ว่า การประชุมอาเซียนที่จะมีขึ้นน่าจะเป็นผลงานที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่กลับกลายให้ผลตรงข้าม แม้ว่าผู้ชุมนุมแสดงสิ่งที่ต้องการเรียกร้องและได้เดินทางไปแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนเป็นสิ่งที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทยมีปัญหาทางการเมืองที่หยั่งลึกที่ต้องแก้ไข เหตุการณ์ในวันนี้ไม่มีใครได้รับชัยชนะ เชื่อว่า ความมั่นใจจากต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยมีน้อยมาก โดยตนคิดว่า ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องพูดคุยกันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ใช้กำลังในการเข้าควบคุมสถานการณ์นั้น นายจอห์นสตันกล่าวว่า เป็นสิ่งยากสำหรับคนที่เคยชินในการใช้ความรุนแรงจะเข้าใจ รัฐบาลควรจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับประเทศไทยมากกว่าความคิดเห็นของคนอื่น ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่ไม่มีการใช้กำลังความรุนแรง แต่ควรมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่านี้
ทั้งนี้ ตนไม่เข้าใจว่า เมื่อสื่อมวลสอบถามถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในการประชุมกับ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เพียงตอบว่า อยู่ภายใต้การดูแลของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยไม่มีคำอธิบายอย่างอื่น อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่า ระบบการรักษาความปลอดภัยของผู้นำน่าจะดีกว่านี้
นาย Larry Jagan ผู้สื่อข่าวอิสระและนักวิเคราะห์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงกรณีการเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงบุกเข้ามายังโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ว่า ถือเป็นโศกนาฏกรรมของประเทศไทยและอาเซียน ที่เอาปัญหาการเมืองภายในมาส่งผลต่อการประชุมระหว่างประเทศ เพราะการประชุมของผู้นำทั้ง 16 ประเทศ มีหัวข้อสำคัญมากกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ที่ทั่วดลกรอคอยว่าที่ประชุมนี้น่าจะได้ข้อสรุปเป็นรูปธรรม แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ไม่สามารถทำให้เกิดการประชุมได้ ขณะเดียวกันแสดงให้เห็นว่าความแตกแยกของคนที่ต่อต้านและสนับสนุนรัฐบาลมีเป็นจำนวนมากทั้งสองฝ่าย ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงควรเร่งแก้ปัญหา
ด้าน น.ส.วารุณี ต่อศรีเจริญ ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเกียวโด กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสำหรับสื่อมวลชนคงไม่มีใครตกใจ เพราะรู้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ทำอะไร แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าเกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่ควรนำผลประโยชน์ทางการเมืองมาทำลายความเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม ที่ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้ไม่สำเร็จถือเป็นการสร้างความอับอายให้กับประเทศ ซึ่งการกู้ภาพลักษณ์กลับคืนคงใช้เวลาอีกนาน และไม่แน่ใจว่าไทยอาจต้องพิจารณายกให้กับประเทศเวียดนามเป็นผู้จัดประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งต่อไปเลยหรือไม่ หากไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองภายในประเทศหรือไม่
“การชุมนุมประท้วงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วบทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะสามารถจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้เข้ามาภายในสถานที่ประชุมได้หรือไม่ ซึ่งส่วนตัวดูแลรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่” น.ส.วารุณี กล่าว
นายทลาน เหวียด เฟือง ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ทานเนียน ประเทศเวียดนาม ได้กล่าวว่า ได้ติดตาม และรู้สึกคุ้นเคยกับการชุมนุมของกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยของไทยที่มีกว่า 3 ปี การชุมนุมที่ผ่านมาไม่เกินขอบเขตเหมือนกับการที่ผู้ชุมนุมเสื้อแดงบุกเข้ามาในศูนย์ประชุมอย่างวันนี้ เนื่องจากผู้ชุมนุมเสื้อแดงไม่ได้ชุมนุมอย่างสันติเหมือนตอนชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ เชื่อว่า ผู้นำต่างชาติคงเข้าใจว่า รัฐบาลไทยทำดีที่สุดแล้ว และไม่ต้องการให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นนี้
“ ตนเชื่อว่า หากนายอภิสิทธิ์ ลาออกจากตำแหน่ง ความขัดแย้งทางการเมืองยังคงมีต่อไป แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองก็จะออกมา ดังนั้นควรจะร่วมกันหาทางออกอย่างจริงใจ และพูดจาประนีประนอมในข้อเรียกร้องของแต่ละฝ่าย เป็นการถอยหลังคนละก้าว เพื่อประโยชน์ของคนไทย ” นายเฟืองกล่าว
นายเฟือง กล่าวว่า เหมือนอย่างที่ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง และเสื้อเหลือง ต่างก็กล่าวอ้างว่า รักสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นควรจะร่วมมือกันอย่างแท้จริงโดยลดทิฐิตัวเอง เพื่อประโยชน์ชาติ