เลขาฯศาลฎีกายันกกต.ใหม่ไม่มียี้-เอ่ยชื่อทุกคนต้องยอมรับ

29 กรกฎาคม 2549 12:15 น.
วิรัช ชินวินิจกุล เลขานุการศาลฎีการะบุชัด กกต.ชุดใหม่ ต้องมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ซื่อสัตย์และเป็นกลาง ยืนยันจะเสนอชื่อให้วุฒิสภาพิจารณาภายในวันที่ 10 ส.ค.นี้ มั่นใจเมื่อเปิดเผยรายชื่อออกมาแล้ว จะเป็นที่ได้รับการยอมรับ
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : 29 ก.ค.49 ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกาเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการเรื่อง "นวัตกรรมในการพิทักษ์ คุ้มครองสิทธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว " ซึ่งจัดโดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลางร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา

โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาประกอบด้วยผู้พิพากษาและผู้พิพากษาสมทบจากศาลเยาวชนและครอบครัว ในเขต 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 450 คน และภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา นายชาญชัย ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการสรรหากกต.และการให้ประกันตัว กกต.ทั้ง 3 คน

นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขานุการศาลฎีกากล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหา กกต.ก่อนส่งรายชื่อให้วุฒิสภาคัดเลือกให้เหลือ 5 คน ว่าขณะนี้ศาลฎีกาได้ตั้งคณะทำงานเพื่อที่จะรับการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรจะเป็นกรรมการการเลือกตั้ง

ซี่งคณะกรรมการได้เริ่มรับการเสนอชื่อมาตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2549 หลังจากนั้น จะมีการตรวจคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อและจะสรุปว่าบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็น กกต.ได้มีจำนวนเท่าไหร่ในวันที่ 2 สิงหาคม 2549 พร้อมกับประกาศรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้งเป็น 2 บัญชี

โดยบัญชีแรกจะเป็นบัญชีรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 138 (2) คือการคัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาโดยตรง บัญชีที่สองเป็นรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 138 (3) ซึ่งเดิมจะเป็นการคัดเลือกโดยคณะกรรมการสรรหา

แต่เนื่องจากกรรมการสรรหาไม่มี จึงต้องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือกแทน เมื่อประกาศบัญชีรายชื่อทั้งสองบัญชีแล้วก็จะให้ผู้พิพากษาศาลฎีกา ทั้ง 86 ท่าน เป็นผู้พิจารณาและพิเคราะห์ เมื่อถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2549 จะเป็นการประชุมใหญ่ศาลฎีกาซึ่งเป็นนัดประวัติศาสตร์

โดยการประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกในเวลา 09.30 น. จะเป็นการประชุมเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดแรกตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 138 (2) โดยที่ประชุมจะเลือกมา 5 ท่าน

จากนั้นจะมีการพักกลางวันพอถึงตอนบ่าย 13.30 น. จะมีการเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ชุดที่สองซึ่งเป็นการเลือกแทนคณะกรรมการสรรหาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 138 (3) จำนวน 5 ท่าน

จากนั้นก็จะนำรายชื่อมารวมกันเป็น 10 ท่าน พร้อมกับทำหนังสือให้ประธานศาลฎีกาลงนามส่งรายชื่อทั้ง 10 ท่าน ไปยังประธานวุฒิสภาในวันเดียวกันทันที และตนยืนยันว่าศาลฎีกาจะทำให้เสร็จทันภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2549 นี้อย่างแน่นอน เพราะผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้ง 86 ท่าน มีความพร้อมอยู่แล้วและได้เตรียมการมาตั้งแต่หลายเดือนที่ผ่านมา

เลขานุการศาลฎีกา กล่าวอีกว่า สำหรับคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็น กกต. ชุดใหม่ได้ ที่สำคัญหลักๆจะต้องมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญกำหนด มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความเป็นกลาง

"เมื่อประกาศรายชื่อออกมาสู่สังคมภายนอกแล้วทุกคนจะร้องอ้อ นี่ใช่แล้ว ไม่มียี้และไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง"

ต่อข้อถามบุคคลที่ตกเป็นข่าวว่าจะได้รับการเสนอชื่อ เช่น หมอพรทิพย์,นายยุวรัตน์ฯรวมทั้งอดีต กกต.ชุดแรกไม่ว่าจะเป็น นายโคทม อารียา หรือนายสวัสดิ์ โชติพาณิชย์ และ บุคคลอื่นๆอีกนั้นได้รับการเสนอชื่อเข้ามายังศาลฎีกาหรือยัง นายวิรัชฯกล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นเพียงข่าว ซึ่งบุคคลที่ตกเป็นข่าวเหล่านี้เมื่อประชาชนได้ยินชื่อแล้วก็คงจะคิดเองได้ว่าสมควรหรือไม่สมควรจะเป็น กกต. มีคำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้วไม่ต้องอธิบาย

อย่างไรก็ตามรายชื่อที่กล่าวมานี้ก็เป็นคนดีทั้งนั้นขอให้ช่วยกันทำเพื่อบ้านเพื่อเมือง

นายวิรัช กล่าวอีกว่าเวลานี้บรรยากาศต่างๆดีมากทั้งศาลฎีกาและวุฒิสภาได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมีการประสานงานกันตลอดเวลาเพื่อเร่งให้กระบวนการสรรหา กกต.ลื่นไหลไปได้ เพราะต้องการเห็นให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ อย่างแน่นอน

ส่วนการที่มีผู้เสนอให้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปอีกทางศาลฎีกามีความเห็นอย่างไร นายวิรัช กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบศาลฎีกา คงไม่พิจารณาในประเด็นนี้

อย่างไรก็ตามในฐานะตัวแทนศาลฎีกาอยากจะฝากไปถึงประชาชนว่า ขอให้ไว้วางใจในความสุจริตเที่ยงธรรมของศาลฎีกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้ง 86 ท่าน ทุกคนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและผ่านประสบการณ์ในชีวิตราชการมาอย่างมากมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านประธานศาลฎีกาเป็นบุคคลที่มีเกียรติคุณชื่อเสียงเป็นที่ปรากฏสามารถที่จะกำกับให้การเลือกตั้ง กกต.เป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม ขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นได้และตนเห็นว่าเมื่อเปิดเผยรายชื่อออกมาแล้ว ต้องเป็นที่พอใจกับประชาชนทุกฝ่ายได้อย่างแน่นอน