ทักษิณประกาศลั่นแพ้ไม่ได้ ให้อดทนชัยชนะอยู่แค่เอื้อม ขู่ถ้าถูกปราบนำกำลังลุกฮือทั่ว ปท.บุก กทม.

"ทักษิณ"ยังเดินหน้าปราศรัยปลุกระดมเสื้อแดง ประกาศแพ้ไม่ได้ ให้อดทนอีกไม่กี่วันเพื่ออนาคต ลั่นถ้าถูกปราบจะนำทัพลุกขึ้นทั้งประเทศ เดินกันทุกสายทั้งอีแต๋น เก๋ง บรรทุก เข้ากรุงเทพฯ

เมื่อเวลา 20.25 น. วันที่ 9 เมษายน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วิดีโอลิงก์เข้ามายังที่ชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยเริ่มร้องเพลง "เล่าสู่กันฟัง" ของเบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ให้ชาวเสื้อแดงฟังเป็นการทักทายว่า "ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว เธอลำบากอยู่ใช่ไหม เธอสู้ไหวหรือเปล่า อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง"

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า การมานอนบนถนนไม่ใช่เพราะตกทุกข์ได้ยาก

แต่มาต่อสู้เพื่อลูกหลาน ประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะเป็นครั้งสำคัญของประเทศไทย ถ้ามารวมกันขนาดนี้ยังไม่สามารถทำประชาธิปไตยเพื่อประชาชนได้ ก็ไม่มีอีกแล้ว หลายทศวรรษมาแล้วเราเป็นประชาธิปไตยเพื่ออำมาตย์ วันนี้ได้รับแจ้งว่า แท็กซี่ได้ไปปิดการจราจรที่อนุสาวรีย์โดยไม่มีใครสั่ง


ต้องขออภัยพี่น้องผู้ใช้รถใช้ถนนที่ได้รับความไม่สะดวก แต่ความไม่สะดวกครั้งนี้เป็นความไม่สะดวกเพื่ออนาคตลูกหลานข้างหน้า ขอให้อดทนสักนิดอีกไม่กี่วันเพื่ออนาคตที่ยาวนานของเรา รู้ว่าประชาชนไปไกลกว่าเราเยอะ

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว่า ได้รับโทรศัพท์จากอุดรฯ อุบลฯ หนองคาย เชียงใหม่ ลำพูน และคนต่างจังหวัดใน กทม. ต่างบอกว่า ทำไมช้าจัง ประชาชนเขาไปเร็วจริงๆ สปิริตของแท็กซี่นั้นขอให้คิดถึงลุงนวมทอง วันนี้พี่น้องแท็กซี่ยอมทำผิดกฎหมายจราจรเพราะอยากจะบอกให้ชาว กทม.มาร่วมกันนำประชาธิปไตยเพื่อประชาชนให้เกิดขึ้นจริงเถอะ มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า นอกจากเตรียมจะพูดอะไรแล้ว ก็ได้รับโทร.จากเมืองไทย เขาบอกว่า เขาไปซื้อของ คนขายของบอกว่าอยากจะปิดร้านไปร่วมกับเสื้อแสดง พี่เสื้อแดงหรือเปล่า น่ารักจริงๆ วันนี้ประชาชนอึดอัดมาก การต่อสู้ครั้งนี้

อดีตนายกฯกล่าวว่า ขอให้คนที่ไม่ได้มา ให้เข้าใจว่า เป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ เป็นการต่อสู้เพื่อถอนรากถอนโคนปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 เพื่อให้เป็นการปฏิวัติครั้งสุดท้ายของประเทศไทย เพื่อให้รัฐธรรมนูญ 2540 เป็นรัฐธรรมนูญสุดท้ายที่ถูกฉีกโดยทหาร เป็นการถอนรากถอนโคนอำมาตย์ผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ ต่อไปนี้การปฏิวัติต้องไม่เกิดขึ้น เพราะถือว่าอำนาจของประชาชนสูงสุด ต้องไม่มีอำนาจอื่นใดมาเหนืออำนาจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอีกแล้ว

"วันนี้แพ้ไม่ได้ เราต้องชนะ ถ้าเราแพ้ ประเทศไทยแพ้ ประชาชนแพ้ อนาคตของประเทศไทยและอนาคตลูกหลานไม่มีความแน่นอน เราต้องต่อสู้ให้ชนะ ต่อสู้อย่างสันติ ไม่บุกรุกเข้าสถานที่ราชการ กีดขวางได้แต่เราไม่บุก เพราะเราไม่มีเส้น"

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า สมัยที่เป็นนายกฯ สีเหลืองบุกไปยึดทำเนียบตอนกลางคืน ผมทำอะไรไม่ได้ เพราะมีอำมาตย์นั่งอยู่ มีประชาธิปัตย์หนุนหลังอยู่ แต่วันนี้เรารักสันติ เราต้องการต่อสู้แบบสันติ เพื่อบอกกับชาวโลกว่า รัฐบาลนี้ไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารต่อไป เราจะบอกว่าบางท่านมาร่วมไม่ได้มีภารกิจ เราเข้าใจ แต่ขอเสียสละความไม่สะดวกสบายให้เราบ้าง แล้วในที่สุดเมื่อประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเพื่อประชาชนแล้ว ท่านคือประชาชนคนหนึ่งของไทยท่านได้ประโยชน์แน่นอน ลูกหลานอีกกี่ชั่วคนก็จะได้รับประโยชน์นี้


ประเทศไทยล้าหลังมานานแล้ว เราแพ้ประเทศอื่นแล้วประเทศอื่นเล่า จนตอนนี้ต้องมาแข่งกับเวียดนาม แล้วคนไทยก็จนต่อไป ไม่สามารถชำระหนี้สิน พอกันทีสำหรับประเทศไทยที่ปล่อยให้คนจน ปล่อยให้หนี้สินชำระไม่ได้ ปล่อยให้อำมาตย์อยู่กันสบายๆ
 
พ.ต.ท.ทักษฺณกล่าวว่า  ยังมีความทรงจำตอนไทยรักไทยเป็นรัฐบาลหรือไม่ ตอนนั้นอำมาตย์ยังครอบงำ แต่รัฐธรรมนูญและคะแนนเสียงที่ตนได้รับ ทำให้ตนสามารถทำงานให้กับพี่น้องได้เต็มที่ แต่ถ้าเราจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ที่อำมาตย์ไม่ครอบงำ ลองคิดดูว่าจะมีความสุขมากกว่านี้แค่ไหน

"พี่น้องทหาร ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าฯทั้งหลายหัดซื่อบื้อหน่อย ตนได้รับแจ้งว่าผู้ว่าฯหนองคายตัดไฟที่ศาลากลางหนองคาย เขาคงไม่ใช้เงินเดือนผู้ว่าฯจ่ายค่าไฟฟ้าหรอก ข้าราชการทั้งหลาย วันนี้ประชาชนมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากเห็นประชาธิปไตยเพื่อประชาชนที่เคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ถ้าประชาธิปไตยเพื่ออำมาตย์ต้องรอความเห็นชอบจากอำมาตย์ที่บอกว่าเป็นโชคดีของประเทศไทยที่มีคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ"

อดีตนายกฯกล่าวว่า คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯที่เหมือนเป็นผลไม้จากต้นไม้ที่เป็นพิษ

เมื่อต้นไม้เป็นพิษผลไม้ก็เป็นพิษด้วย เพราะใช้กระบวนการทุกอย่างโค่นอำนาจประชาชน มีพวกอำมาตย์ พวกอภิสิทธิ์ชนใน กทม.บอกว่าอย่ามายุ่ง ปล่อยเวลาให้แก้ปัญหาก่อน คุณอภิสิทธิ์อายุยังน้อย ถ้าวันนี้มีสปิริตของนักประชาธิปไตยที่แท้จริง ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ประชาชนอาจจะเลือกเข้ามาแล้วหล่อกว่าเดิมเยอะ แต่ถ้าวันนี้ดื้ออยู่ก็เสียดายอนาคต


วันนี้เราจะสู้กันแบบสันติ อาจจะยกไปขัดขวางตรงนั้นตรงนี้บ้าง แต่ไม่บุกยึด หากจะผิดก็ผิดกฎหมายจราจร พี่น้องตำรวจอย่าใช้แก๊สน้ำตา อย่าใช้อาวุธกับพี่น้องผู้บริสุทธิ์ แม้ว่าวันนี้เราไม่มีเส้น เรากำลังนำไปสู่ระบบที่ยุติธรรมที่แท้จริง อย่าเอียง ความเอียงมันผิด อนาคตที่สดใสของประเทศไทยและลูกหลานเราสามารถคว้าได้ มันอยู่แค่เอื้อมแล้ว เราต้องอดทน สู้ต่อไปอย่ายอมแพ้

"อนุพงษ์ (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.) อยู่ไหน ไม่เห็นออกทีวีมาบอกให้อภิสิทธิ์ออกไปเลย (นายวีระบอกว่าคนหาย กำลังประกาศหาตัวอยู่) ผบ.เหล่าทัพน่ะ ทำไมตอนสมชาย (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) ไปออกทีวีบอกให้ลาออก อย่างนี้ก็อิทธิพลของอำมาตย์เช่นกัน ตกลงคุณอภิสิทธิ์จะเป็นรัฐบาลของอำมาตย์หรือของประชาชนกันแน่ ถ้าอยากเป็นรัฐบาลของประชาชนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยุบสภาไปเลือกตั้งใหม่ยังมีโอกาส "

พี่น้องต่างจังหวัดบอกว่าจะผลัดเปลี่ยนเวียนมาจะไม่ให้เวทีนี้พร่อง ประชาชนเข้าโทร.มาบอกผม พี่น้องใน กทม.ก็เหมือนกัน ถ้าพวกเราแน่นอย่างนี้ต่อไปก็จะบอกให้ชาวโลกรู้ว่าเราสู้ไม่ถอยจนกว่าเราจะได้มาซึ่งประชาธิปไตยของประชาชนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เป็นฉบับที่ให้อำนาจอำมาตย์ คิดดูสิว่าเอาคนไปกี่คนที่ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนแต่งตั้งคนมาเป็น ส.ว.ครึ่งหนึ่งของสภา แล้ว ส.ว.ก็มีสิทธิถอดถอนคนที่มาจากเลือกตั้ง แล้วตั้งองค์กรอิสระไปถอดถอนคนโดยไม่สนใจอำนาจประชาชนเลย พี่น้องเราทวงคืนอำนาจประชาชนได้แล้ว

ได้ข่าวว่ามีทหารคนหนึ่งบอกว่าวิธีการที่เราทำขณะนี้เป็นวิธีการของคอมมิวนิสต์ ไอ้บ้าเอ๊ย ตอนนี้คอมมิวนิสต์เป็นแต่ชื่อ ดูที่ประเทศจีนว่าทุนนิยมขนาดไหน คนที่สนับสนุนแนวประชาธิปไตยเพื่ออำมาตย์ไม่ยอมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของโลกไปถึงไหนแล้ว ดูถูกเสียงชาวไร่ชาวนาว่าไม่มีคุณภาพสู้เสียงอำมาตย์ไม่ได้ แต่สำหรับตน 1 คน 1 เสียงเท่ากัน และต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ด้วย

การแบ่งขั้วทางการเมืองทำให้เกิดการแบ่งแยก เพราะไม่เข้าใจอุดมการณ์ที่แท้จริงของประชาธิปไตยถ้าทุกฝ่ายเข้าใจจะไม่เป็นอย่างนี้เด็ดขาด เพราะประชาธิปไตยเป็นของประชาชนเพื่อประชาชน เคารพเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ ขอให้ทุกคนเข้าใจแล้วจะมองเห็นว่าพวกเราแม้แต่งสีแดง เราก็ต่อสู้ให้ทุกคนที่เป็นคนไทย อยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระเจ้าอยู่หัว เราไม่ได้บอกว่าต่อสู้มาแล้วเสื้อแดงขอคุมทั้งหมด ไม่ใช่เลย

เราไม่เคยบอกว่า อภิสิทธิ์ออกไปแล้วเอาวีระเป็นนายกฯ ไม่ใช่เลย เรากำลังต่อสู้ว่าเราอยากเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่ไปฟังแต่อำมาตย์ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไปไม่ได้ บางคนไม่มีลูกหลานก็ไม่ได้ห่วงอนาคตของคนรุ่นหลัง วันนี้เรามารวมกัน เรามีทั้งคนจน คนรวยคนแก่ คนหนุ่มสาวและเยาวชน เราจะเดินไปด้วยกันไปสู่เป้าหมายอนาคตที่ดีของลูกหลาน

ต้องขอใช้คำพูดของนายกรัฐมนตรี ม.ร.วคึกฤทธิ์ ปราโมช "เราทำได้" และไม่มีโอกาสไหนที่เราจะทำได้เท่านี้ เรามีกองหนุนอยู่ทั่วประเทศอย่างนี้ ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ให้มันรู้ไป

"เราต้องไม่ถอย ถ้าครั้งนี้ใช้กำลังปราบปรามทั้งๆ ที่มาสันติ เราจะลุกขึ้นทั้งประเทศ แล้วจะเดินกันทุกสายทั้งอีแต๋น เก๋ง บรรทุก เข้ากรุงเทพฯให้หมด ผมจะอยู่ตรงนั้นด้วย  ปล้นอำนาจไปจากประชาชนตั้งแต่ 19 กันยายนแล้ว แล้วยังไม่พอ ประชาชนเขายันกลับมาอีกทีก็ยังไปปล้นเขาอีก ไม่มากไปหน่อยเหรอต๋อย"

พ.ต.ท.ทักษฺรกล่าวว่า  ช่วงที่ผมอยู่ประชาชนและประเทศชาติมั่งคั่งแล้ว ประกาศจะไม่กู้เงิน แต่ก็มาปฏิวัติและเป็นอย่างนี้ ทุกวันนี้ผมพร้อมให้คำแนะนำสำหรับนายกฯคนใหม่ที่อยู่ภายใต้ประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ถ้าทำไม่ได้จะให้ผมไปทำก็จะไป แต่ผมไม่ได้ขอให้ประชาชนสู้เพื่อผม แต่ให้สู้เพื่อลูกหลานของท่านเอง ถ้าใครมีลูกหลานแล้วไม่รักลูกก็ไม่รู้จะอย่างไร


ขอให้แสดงให้รู้หน่อยว่ายิ่งอยู่ยิ่งแน่น ยิ่งอยู่ยิ่งคึกเพราะเรากำลังจะคว้าประชาธิปไตยเพื่อประชาชนมาแล้ว เราคว้าจะได้แล้วเหลือแต่ว่าอภิสิทธิ์เป็นนายกฯประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่หลงคำยอป๋าเปรม ก็ลาออกซะ หรือยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ อนาคตยังมีอีกยาวไกล

เราจะไม่กลับจนกว่าจะได้รับชัยชนะ เราจะต้องลุกขึ้นมาสู้ ขอย้ำอีกครั้งพี่น้องที่โวยวายเรื่องรถติด ต้องถือว่าท่านเสียสละ

ถึงแม้ว่าท่านมาร่วมไม่ได้ ก็ขอให้เสียสละความสะดวกสบายลงบ้าง ไม่เช่นนั้นไม่จบ อย่างพี่น้องแท็กซี่ เขาคิดเร็วกว่าพวกเราอีก ความจริงผมไม่ได้สั่ง เพราะไม่ได้ติดต่อแท็กซี่เลย เขาไปเอง เพราะเขาทนไม่ไหว คนแก่ คนเฒ่าโทร.หาผมว่า เมื่อไหร่จะลุย เมื่อไหร่จะลุย ผมบอกว่าให้ใจเย็น เพราะไม่รู้ว่าทีมงานเขาคิดอย่างไร เพราะต้องหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย เพราะพวกเรามันไม่มีเส้น