"จตุพร" ขู่นำเสื้อแดงไปปิดเกมชุมนุมพัทยา ลั่นไม่จำเป็นต้องรักษาหน้าใคร แฉทีมลอบสังหารองคมนตรีเป็นรปภ.สังกัด"ป๋าเปรม"
(9เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าการชุมนุมคนเสื้อแดง ปรากฎว่าผู้ชุมนุมบางตาลง ซึ่งเป็นการชุมนุมใหญ่ ขณะที่ความเคลื่อนไหวบนเทวีปราศรัยยังคงมีแกนนำ และแนวร่วมเสื้อแดงสลับกันขึ้นเวที นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำได้กล่าวชี้แจงเหตุการณ์ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อเหลืองขับโตโยต้า แคมรี่ เข้าพุ่งชนผู้ชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาฯ โดยนายณัฐวุฒิได้กำชับว่าหากผู้ชุมสามารถจับตัวผู้เข้ามาก่อความวุ่นวายได้ ผู้ชุมนุมจะทำอะไรก็ทำเลย และอย่าให้เหตุการณ์นี้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว นอกจากนี้ยังเรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับตัวและดำเนินคดี
นายจุตพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า การนัดชุมนุมใหญ่วานนี้ มีผู้ชุมนุมหลายคนสงสัยว่า ทำไมมีคนมากแล้ว แต่ไม่ดำเนินการอะไรเด็ดขาด ซึ่งตนขอเรียนว่า การกดดัน แสดงให้รัฐบาลเห็นว่า เรามีคนมากแล้ว และไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงขอให้ผู้ชุมนุมรอฟังการเคลื่อนไหวที่อาจต้องมีการดำเนินการในลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟัน เราต้องปล้นอธิปไตยคืนจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ปล้นไปจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ผู้ชุมนุมจะไม่กลับบ้านมือเปล่าอย่างที่พ.ต.ท.ทักษิณบอกไว้ขณะนี้รัฐบาล และพล.อ.เปรม กำลังประเมินสถานการณ์อยู่ ซึ่งคนเสื้อแดงกำลังจะตัดสินใจครั้งสุดท้าย ว่าจะแตกหักอย่างไรเหมือนกัน ไม่คนเสื้อแดงก็นายอภิสิทธิ์ที่แพ้ และไม่คนเสื้อแดง ก็พล.อ.เปรมก็แพ้ สงครามครั้งนี้ต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้ ไม่ใช่เหมือนการชุมนุมของคนเสื้อเหลืองที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายจตุพร เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวข้องกับผู้ต้องลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี คือ น.อ.จักรกฤษ เป็นชุดรปภ.พล.อ.เปรม เหตุการณ์นี้เป็นการจ้างคนมาสังหาร เพื่อแย่งพื้นที่ข่าวของคนเสื้อแดง
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุมอาเซียนซัมมิทที่พัทยา ไม่ใช่หน้าที่ของคนเสื้อแดงที่จะต้องรักษาหน้าหากสงครามในวันที่ 10 เม.ย.ยังไม่จบก็น่าจะไปปิดฉากที่พัทยา
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ แม่ของตนที่อยู่จ.สุราษฎร์ธานี ถูกคุกคาม โดยมีการส่งคนเข้าไปคุกคาม ทั้งที่มีวัย 90 กว่า แล้ว และร่างกายไม่แข็งแรง ซึ่งในเมื่อมีการส่งคนมาคุกคามแม่ตน ก็อาจจะไปที่บ้านแม่ของนายกฯบ้าง