ม็อบแดงนับแสนพรึ่บกรุง ล้อมบ้านสี่เสาฯ ประกาศเงื่อนไขให้"มาร์ค-ป๋า-แอ้ด-ชาญชัย"ลาออกทั้งหมด ขีดเส้นตายต้องออกก่อน 4 โมงเย็นวันนี้ มิเช่นนั้นม็อบแดงจะใช้ 5 แนว ทางเล่นงานรัฐบาล แต่ยืนยันไม่ยึดทำเนียบ- สนามบิน-สถานที่ราชการ โวยลั่นมือที่ 3 เตรียม ป่วนเผาเมืองเผาแบงก์ โบ้ยรัฐบาลต้องรับผิดชอบหากเกิดความวุ่นวาย ขณะที่ป๋าออกจากบ้านสี่เสาไปก่อนที่ม็อบแดงจะไปถึง "มาร์ค" เมินเงื่อนไข ยันไม่ยุบสภา-ไม่ออก ชี้หากจำเป็นก็ต้องใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ตร.เป็นห่วงมือที่ 3 ฉวยโอกาสป่วน ชี้ตามประกบไว้หมดแล้ว ลงมือเมื่อไหร่รวบทันที รัฐบาลแฉลูกเมียพี่น้องแม้วเผ่นนอกหมดแล้ว ตกบ่าย"เจ๊แดง-ยิ่งลักษณ์"โผล่ให้กำลังใจม็อบแดง โต้ไม่ได้หนีไปไหน ตกค่ำแม้วโฟนอินกลางม็อบ ประกาศให้เสื้อแดงอดทนอีก 3 วันชนะแน่ ต้องเอาประชาธิปไตยคืนมา วอนทหารตำรวจหันเข้ามาร่วมกับกลุ่มเสื้อแดง
-เสื้อแดงคึกคักทะลุแสนคน
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. บรรยากาศการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า มีแนวร่วมเสื้อแดงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดพากันถือป้ายผ้ามีข้อความโจมตีขับไล่รัฐบาลและองคมนตรี ทยอยเดินทางมาสมทบการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลตลอดเวลา ทำให้พื้นที่บนถนนพิษณุโลกหน้าทำเนียบฯ ตั้งแต่สะพานชมัยมรุ เชฐถึงแยกมิสกวัน ถนนราชดำเนินนอก เลี้ยวขวาไปทางลานพระบรมรูปทรงม้า มีคนเสื้อแดงเข้ามาปักหลักชุมนุมอย่างแน่นขนัด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประเมินจำนวนผู้ชุมนุมในช่วงเช้าอยู่ที่ 3 หมื่นคน
อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมานั้น มีม็อบเสื้อแดงจากต่างจังหวัดทยอยเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลหลายหมื่นคน สมทบกับม็อบที่ล้อมทำเนียบรัฐบาลอยู่แล้วนั้นทำให้ยอดผู้ชุมนุมพุ่งสูงเกือบ 1 แสนคนทีเดียว อย่างไรก็ตาม ตอนช่วงตี 2-3 ม็อบส่วนใหญ่เริ่มออกจากที่ชุมนุมไปพักผ่อนตามจุดต่างๆที่เตรียมไว้ตามชานเมือง และจะทยอยกลับมาชุมนุมอีกครั้งในช่วงเช้า
ขณะที่บรรยากาศบนเวทีปราศรัย แกนนำเสื้อแดงและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 พากันขึ้นเวทีปลุกระดมผู้ชุมนุมให้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศต้องล้มล้างพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยจะเคลื่อนขบวนไปหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ในเวลา 09.59 น. หากถูกสกัดกั้นพร้อมจะแสดงพลัง และยังนำกรณีที่ตำรวจจับกุมทีมมือปืนที่เตรียมลงมือสังหารองคมนตรีมากล่าวโจมตีว่า เป็นความพยายามจะให้เกิดเหตุในวันที่ 8 เม.ย.เพื่อป้ายสีคนเสื้อแดง เพราะทีมสังหารมีนายทหารยศพันตรีและพันเอกของกองทัพบกเป็นผู้สั่งการเพื่อโยนความผิดให้เสื้อแดง จึงขอถามพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.รู้เรื่องหรือไม่ และหากการเคลื่อนขบวนของเสื้อแดงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น พล.อ.เปรม พล.อนุพงษ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายเนวิน ชิดชอบ ต้องรับผิดชอบ
-การ์ดเสื้อแดงพรึ่บ-นำขบวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บริเวณโดยรอบทำเนียบฯคึกคักไปด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ระหว่างเตรียมตัวเคลื่อนขบวนไปยังหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ภายในทำเนียบฯกลับมีแต่ความเงียบเหงา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อยู่ในความสงบและพักผ่อน ส่วนข้าราชการของทำเนียบฯยังคงทยอยเข้ามาทำงานตามปกติ แต่มีจำนวนบางตามาก เนื่องจากหัวหน้างานได้ให้กระจายตัวกันไปทำงานที่สำนักงานด้านนอก อาทิ โรงพิมพ์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี บ้านพิษณุ โลก บ้านมนังคศิลา
นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนส่วนหนึ่งปักหลักรายงานข่าวความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะรถถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์แต่ละช่องที่ปักหลักรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง
เวลา 08.00 น. ที่เชิงสะพานอรทัย ด้านหลังทำเนียบรัฐบาล ได้มีการ์ดนปช.คนเสื้อแดงมารวมตัวกันจำนวนมาก ทั้งหมดสวมใส่เสื้อและกางเกงยีนส์สีดำ และนำผ้าแดงมาผูกคอ คาด ศีรษะ โดยมีหัวหน้าการ์ดเรียกรวมตัว ตั้งแถว เช็กความพร้อมและซักซ้อมทัพหน้า ก่อนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไปบ้านสี่เสาเทเวศร์ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบการ์ดดังกล่าวไม่พบว่ามีการนำอาวุธที่รุนแรง เช่น มีด สปาร์ตา ไม้กอล์ฟ หรือปืน มาพกพาแต่อย่างใด ขณะเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทยอยมาจากต่างจังหวัด ยังคงเข้าร่วมสมทบอย่างไม่ขาดสาย โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ประกาศผ่านดีทีวีว่าขอให้พี่น้องเสื้อแดงที่อยู่ทางบ้าน ช่วยกันบริจาคหมวกกันน็อกมาที่เวทีใหญ่ให้มากๆ เพราะต้องใช้เคลื่อนขบวนต่อไป
-มือทุบรถมาร์ค-เปิดใจเป็นแพะ
ต่อมาเวลา 08.30 น. ที่หลังเวทีปราศรัย สะพานชมัยมรุเชฐ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แนวร่วมคนเสื้อแดง ได้นำตัวนายวันเฉลิม กุนเสน และ น.ส.จิดาภา ธนหัตชัย หรือซ้อโอ่ง แกนนำคนเสื้อแดงพัทยา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาทุบรถที่นายกรัฐมนตรีนั่งขณะเดินทางกลับจากประชุม ครม.ที่จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 7 เม.ย. มาแถลงข้อเท็จจริงในวันเกิดเหตุ
โดยนายวันเฉลิมกล่าวว่า ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปขวางโดยไม่รู้ว่าในรถมีนายอภิสิทธิ์นั่งอยู่ จู่ๆ รถคันดังกล่าวได้พุ่งชนและถอยหน้าถอยหลังเหมือนจะเหยียบซ้ำ คนเสื้อแดงที่ตามมาจึงไม่พอใจเข้าไปเปิดรถเพื่อถามคนขับ พบว่าในรถมีคนอยู่ 4 คน แต่ไม่รู้ว่ามีนายอภิสิทธิ์อยู่ด้วย เพิ่งมาทราบทีหลัง ส่วนที่เอาหมวกกันน็อกทุบกระจกหลังรถเพราะความโมโหที่ถูกพุ่งชน ตอนทุบกระจกไม่แตกและไม่รู้ว่ามีใครเป็นมือที่ 3 ทุบซ้ำหรือเปล่าเพราะมีคนอื่นอีกมาก ขอยืนยันว่าตนตกเป็นแพะ
ด้านน.ส.จิดาภา กล่าวว่า คนเสื้อแดงเข้าไปที่รถนายอภิสิทธิ์เพราะโมโหที่ชนมอเตอร์ไซค์เสียหาย แต่ไม่ลงมาดูว่าใครเป็นอะไรหรือเปล่า จึงพากันเปิดประตูรถเพื่อถาม แต่มีเสียงคนในรถตะโกนสั่งการออกมาว่าชนไปเลย อยากถามนายอภิสิทธิ์ ที่พูดมาตลอดว่าเป็นนายกฯเพื่อประชาชน ทำไมวันนี้ถึงจะฆ่าประชาชน ถ้าคนที่ถูกชนไม่หลบก็คงถูกเหยียบตายไปแล้ว ตนมีใบรับรองแพทย์ว่าถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บบริเวณลิ้นปี่และไหล่ขวาจากการถูกคนในรถที่นายอภิสิทธิ์นั่งยกเท้าถีบและต่อยสวนออกมาขณะเปิดประตูรถ แต่ตนหลบทันจึงโดนหน้าของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
-ถ้ามีตาย-มาร์คต้องรับผิดชอบ
เวลา 09.00 น. ที่หลังเวทีปราศรัย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และน.พ.เหวง โตจิราการ เปิดแถลงถึงการเคลื่อนขบวนพร้อมนำเหล็กคันธงทำจากแป๊บปลายแหลมมาโชว์สื่อมวลชนว่า ตำรวจที่รักษาการณ์ที่หน้าบ้านพล.อ.เปรม นำมาให้เพราะเห็นว่าเป็นอาวุธที่จะใช้ทำร้ายคนเสื้อแดง และพบว่ามีการรวบรวมชายฉกรรจ์จำนวนมากจากหลายพื้นที่เข้ามาปกป้องพล.อ. เปรม และต่อต้านคนเสื้อแดง คนกลุ่มนี้จะถือคันธงที่ทำจากเหล็กแป๊บปากฉลามเป็นอาวุธเฝ้ารายล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์และจะสะพายกระเป๋าผ้า คาดว่าจะมีอาวุธอื่นๆอยู่ข้างใน อาจมีหนังสติ๊กหรือระเบิดปิงปอง จึงขอเรียกร้องให้ผบ.ตร. และผบช.น. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเคลียร์พื้นที่ปลดอาวุธ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนการเคลื่อนขบวนจะรอจนกว่าคนเสื้อแดงจะมาร่วมชุมนุมจนเต็มพื้นที่ถนนพิษณุโลก ไปถึงถนนราชดำเนินนอก จากนั้นคนที่มากขึ้นจะเลี้ยวขวาไปแยกพระบรมรูปทรงม้าถนนศรีอยุธยา ถึงเวลานั้นคนเสื้อแดงจะไปถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์
น.พ.เหวง ซึ่งรับหน้าที่คุมหน่วยนำทัพหน้าในการเคลื่อนขบวน กล่าวว่า ขบวนนำหน้าจะเป็นขบวนสันติวิธีไม่มีอาวุธแม้แต่ก้อนหินก้อนเดียว ทุกคนจะสวมหมวกสีขาวที่เขียนคำว่าสันติวิธีเป็นสัญลักษณ์ แต่เชื่อว่าการเคลื่อนขบวนจะถูกโจมตีด้วยหนังสติ๊กยิงหัวนอตเข้าใส่ จากนั้นอาจมีอาวุธอื่นตามมา จึงจะเว้นระยะห่างพอสมควรเพื่อไม่ให้ถูกหนังสติ๊กยิงบาดเจ็บ และถ้ามีคนได้รับบาดเจ็บล้มตายแม้เพียง 1 คน นายอภิสิทธิ์ต้องรับผิดชอบ และจะเป็นสิทธิของประชาชนที่จะตอบโต้ป้องกันตัว จะไม่ยอมถูกรังแกฝ่ายเดียว สำหรับหน่วยสันติวิธีแม้จะมีการลั่นอาวุธใส่ก็จะไม่ตอบโต้กลับไป ถ้าจะให้การชุมนุมยุติ พล.อ.เปรมต้องประกาศล้างมือในอ่างทองคำ ไม่แทรกแซงการเมือง
-เคลื่อนขบวนบุกบ้านป๋า
เวลา 09.30 น. นายณัฐวุฒิ ประกาศบนเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบฯ ซึ่งถือว่าเป็นจุดบัญชา การในการเคลื่อนขบวน โดยให้ผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนนั่งลงบนถนนพิษณุโลกให้เต็มพื้นที่ต่อเนื่องเลี้ยวขวาออกถนนราชดำเนินนอกไปถึงแยกลานพระรูปทรงม้า เพื่อเช็กพื้นที่ว่าจำนวนคนมากจนใกล้จะถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์หรือไม่ โดยให้คนเสื้อแดงที่มีเดินทางเข้ามาเสริมทัพจากด้านหลังเวทีฝั่งแยกนางเลิ้ง เดินผ่านคลองเปรมประชากรผ่านหน้าวัดเบญจมบพิตรไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้าทันที พร้อมทั้งสั่งให้ปิดล็อกพื้นที่ชุมนุมป้องกันการแทรกแซงจากกลุ่มต่อต้าน ด้วยการใช้รถแท็กซี่และรถของผู้ที่มาร่วมชุมนุมจอดขวางถนนบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานอรทัย แยกนางเลิ้ง และแยกวัดเบญจมบพิตร และให้รอฟังคำสั่งจากแกนนำหากมีการต่อต้านอาจจัดเป็นกลุ่มย่อยกระจายไปกดดันยังสถานที่ต่างๆ
เวลา 09.59 น. ขบวนทัพหน้าที่จัดเป็นขบวนสันติวิธีที่นำโดยน.พ.เหวง ได้เริ่มตั้งขบวนข้างเวทีปราศรัย ริมคลองเปรมประชากร โดยใช้รถบรรทุก 10 ล้อเป็นเวทีปราศรัยเคลื่อน ที่ออกวิ่งนำหน้าผู้ชุมนุมจำนวนนับพันคน เดินทางผ่านหน้าวัดเบญจมบพิตรเลี้ยวซ้ายไปที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ขณะที่แกนนำประกาศเป็นระยะว่าต้องให้ถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์และต้องปิดบัญชีให้ได้ในวันเดียว โดยแกนนำแบ่งจุดควบคุมดูแลออกเป็น 3 จุด นายวีระ มุสิกพงศ์ อยู่ที่เวทีใหญ่หน้าทำเนียบฯ ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แยกไปดูแลพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้าและหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ การสั่งการจะประสานเชื่อมต่อกันทุกจุด
-ม็อบยอมให้ตร.ตรวจอาวุธ
เวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้เริ่มเคลื่อนจากลานพระบรมรูปทรงม้า มุ่งหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อหัวขบวนเดินมาถึงแยกพล.1 ได้จัดรูปขบวน โดยนำพระบรมฉายา ลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถขึ้นถือนำขบวน ตามด้วยธงชาติไทย
จากนั้นตามด้วยแถวของการ์ดนปช.และกลุ่มคนเสื้อแดง รถปราศรัยของแกนนำนปช. 3 คัน ซึ่งมีแกนนำนปช. อาทิ น.พ.เหวง นายณัฐวุฒิ นายจตุพร นำรถแต่ละคัน ซึ่งตลอดทางที่เดินนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงได้ตะโกนขับไล่นายอภิสิทธิ์ และพล.อ.เปรม ก่อนจะหยุดอยู่ที่แยกพล.1 รอ. ซึ่งประจันหน้ากับแถวตำรวจกว่า 300 นาย ซึ่งยืนถือโล่ประจำการอยู่
เวลา 10.40 น. นายจตุพร และนายการุณ โหสกุล ได้เข้ามาเจรจากับพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เพื่อขอให้เปิดเส้นทาง โดยเจ้าหน้าที่ต่อรองให้ผู้ชุมนุมที่เคลื่อนผ่านบริเวณดังกล่าวต้องถูกตรวจค้นอาวุธก่อนเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งนายจตุพรก็ยินยอมให้ตรวจค้น
นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่มเสื้อแดงเคยประกาศไว้จะชุมนุมวันที่ 8-10 เม.ย. แต่อาจต้องเปลี่ยนแปลงระยะเวลา ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เพราะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก ทำให้เป็นพลังส่งไปยังพล.อ.เปรม และนายอภิสิทธิ์ ต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ส่วนกรณีตำรวจขอตั้งด่านตรวจค้นผู้ชุมนุมก่อนเคลื่อนเข้ามานั้น กลุ่มเสื้อแดงเห็นด้วยแต่ยืนยันว่าเราชุมนุมด้วยมือเปล่าและปราศจากอาวุธ หากตรวจค้นและพบอาวุธก็ไม่ใช่คนเสื้อแดง อีกทั้งเราไม่ต้องการให้ใครเข้ามาสร้างสถาน การณ์ หากมีความรุนแรงเกิดขึ้น รัฐบาลต้องดูแลความปลอดภัยและป้องกันมือที่ 3 มาสร้างสถานการณ์
-เสื้อแดงฮือล้อมบ้านสี่เสาฯ
นายจตุพรกล่าวว่า การชุมนุมหลังจากนี้จะปักหลักอยู่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์เป็นหลัก และบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าและหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยตามเวทีต่างๆ และภายหลังกลุ่มเสื้อแดงยึดพื้นที่ได้แล้วจะประกาศมาตรการการเคลื่อนไหวต่อไป ระบอบอำมาตยาธิปไตยจะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับพล.อ.เปรม ยืนยันว่ากลุ่มเสื้อแดงจะไม่บุกเข้าไปภายในบ้านพักสี่เสาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายจตุพร และนาย การุณ พร้อมด้วยการ์ด ได้เดินยังหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งมีกำลังตำรวจ 400 นายตรึงกำลังอยู่หน้าบ้านตลอดแนวรั้ว โดยนำโล่มาใช้ป้องกัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมมาปักหลักด้านหน้าตลอดแนวรั้ว โดยนำรถควบคุมผู้ต้องขัง 2 คันมาจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน
ต่อมานายจตุพร ได้เข้าเจรจากับพล.ต.ต.วิชัย ที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯ โดยเจ้าหน้าที่ต่อรองขออย่าให้ผู้ชุมนุมมมาปักหลักชิดแนวรั้วบ้านสี่เสาฯ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยินยอมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากนั้นผู้ชุมนุมที่เหลือได้ฝ่าแนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการตรวจค้นอาวุธอยู่เข้ามาและมาปักหลักอยู่หน้าบ้านสี่เสาฯ ยาวถึงแยกสี่เสาเทเวศร์ รวมถึงหน้าบช.น. เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึง ได้นำกำลังการ์ดและผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งล้อมรถเครื่องขยายเสียงที่มีแกนนำปักหลักอยู่ ขณะเดียวกันภายในสโมสรทบ.ซึ่งอยู่ติดบ้านสี่เสาฯ เจ้าหน้าที่ได้เปิดเสียงตามสายขอความร่วมมือผู้ชุมนุมชุมนุมอย่างสงบ อย่าทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทำ ให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ พากันโห่ร้องและด่าทอ
นายจตุพร ปราศรัยบนเวทีว่า วันนี้การที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนมาหน้าบ้านสี่เสาฯจะไม่มีการถูกปิดประตูตีแมวเหมือนครั้งที่ผ่านมา ถ้ามีการปิดประตูตีแมวอีก ทางแมวจะจัดการกลับไปอย่างสาสมเช่นกัน
ด้านนายจักรภพ เพ็ญแข ปราศรัยว่า ถ้าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในคราวนี้ไม่มีผลอะไร หรือพูดจากันไม่รู้เรื่อง เราจะยึดกรุงเทพฯเพื่อให้รู้ว่าบ้านเมืองเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนในรั้วบ้านสี่เสาฯ
-เผยป๋าออกจากบ้านไปแล้ว
ต่อมาเวลา 12.20 น. ที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯ มีกลุ่มนักเรียนนักศึกษาประมาณ 30 คนได้ปีนแนวแท่นปูนที่ตั้งอยู่รอบรั้วบ้านสี่เสาฯ ก่อนจะยึดพื้นที่ป้อมตำรวจหน้าบ้าน ทำให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านหลังลุกฮือและพยายามประชิดแนวตำรวจเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมาตั้งแนวและพยายามเจรจาไม่ให้เคลื่อนเข้ามาบริเวณดังกล่าว โดยเจรจาประมาณ 10 นาทีก่อนที่กลุ่มนักศึกษาและผู้ชุมนุมจะยอมเคลื่อนถอยออกมา
เวลา 12.30 น. นายจตุพรปราศรัยอีกครั้งว่า อยากขอร้องผู้ชุมนุมอย่าไปปิดล้อมรถโอบีของสื่อมวลชน เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงเคารพในเสรีภาพของสื่อในการถ่ายทอดสด ซึ่งในขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โทรศัพท์มาหา จึงอยากให้ผู้ชุมนุมโห่ร้องและให้กำลังใจเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยินผ่านทางโทรศัพท์
นายจตุพร กล่าวว่า กลุ่มสื้อแดงจะตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ที่หน้าบ้านสี่เสาฯ ทั้งนี้เราจะไม่ยอมเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกต่อไป เพราะ ที่ผ่านมาตำรวจเคยนำสเปรย์พริกไทยเข้ามา สลายผู้ชุมนุมในบริเวณนี้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น่าสังเกตว่าในช่วงที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนเข้ามาปักหลักในช่วงแรก ตำรวจได้ตรึงกำลังอย่างเข้มงวด ภายหลังได้ปล่อยให้ผู้ชุมนุมเข้ามาปักหลักหน้าบ้านสี่เสาฯ ทั้งนี้ ภายในบ้านสี่เสาฯมีการนำรั้วลวดหนามมาวางขึงตลอดแนวรั้ว เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในบ้าน โดยมีกำลังตำรวจและทหารปักหลักอยู่ภายในบ้านด้วย อย่างไรก็ตาม ราย งานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเช้าก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนมาหน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ยังคงอยู่ภายในบ้าน กระทั่งช่วงสายพล.อ.เปรมได้เดินทางออกจากบ้านพัก
-ทีมรปภ.นายกฯคุ้มกันเข้ม
ส่วนความเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ หลังจากถูกกลุ่มเสื้อแดงชลบุรีบุกล้อมกรอบและทุบรถนั้น ในช่วงเช้าวันเดียว กัน นายกฯ ได้เดินทางออกจากบ้านพักเมื่อเวลา 07.30 น. โดยขบวนรถของนายกฯ ยังเป็นไปตามปกติที่เคยใช้ คือใช้รถจักรยานยนต์เป็นรถนำขบวน มีรถเบนซ์ของตำรวจกองปราบฯ ทะเบียน ษฐ 106 นำ รถประจำตำแหน่งของนายกฯ ยังคงใช้รถบีเอ็มดับบลิว ซีรีส์ 7 สีดำ ทะเบียน ศฮ 9201 คันเดิม จากนั้นจึงเป็นรถของเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ปิดท้าย ซึ่งวันนี้เปลี่ยนมาใช้รถเบนซ์แวนสีดำ ทะเบียน ฌฉ 4636 เนื่องจากรถโตโยต้า พราโด้คันเดิมอยู่ระหว่างการซ่อมกระจกด้านหลังที่แตกเสียหาย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายกฯ ยังประสานไปยัง กอง บก.จร.02 เพื่อสอบถามเส้นทางเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผิดจากที่ผ่านมาที่มักไม่ค่อยมีการประสานล่วงหน้า ส่วนการรักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านพักของนายกฯ ในซอยสุขุมวิท 31 เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทองหล่อและหน่วย อรินทราชทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลอย่างเข้มงวด
จากนั้นเวลา 08.00 น. นายกฯ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการและปล่อยขบวนคาราวานรณรงค์ลดอุบัติเหตุจราจร ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.บางพลัด ตำรวจปราบจลาจลและสายสืบประมาณ 300 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ปากทางเข้าวัดภคินีนาถ เวลา 09.00 น. นายกฯ มาเป็นประ ธานเปิดการประชุมในเวทีบำนาญทางสังคมเพื่อผู้สูงอายุไทยถ้วนหน้าและยั่งยืน จากนั้นเวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
-มาร์คขอกำลังทหารเสริม
เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมอมารี ประตูน้ำ นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ยังไม่มีอะไร ผู้ชุมนุมทยอยมาชุมนุมกันอยู่ แต่เมื่อคืนนี้ ได้ซักซ้อมความเข้าใจกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องถึงแนวทางของรัฐบาล ซึ่งจะดูแลให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบ และขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา มีอะไรผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่และขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ แต่ขอให้ระวังเพราะมีคนบางกลุ่มต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น ใครทำผิดกฎหมายต้องจับกุมดำเนินคดี
เมื่อถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าผู้ชุมนุมจะมีจำนวนเท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า อย่าให้พูดออกไปเลย เพราะจะเป็นเงื่อนไขให้แกนนำนำไปพูดบนเวที ต่อข้อถามว่าจะมี 8 หมื่นคนตามที่ผบช.น.ระบุไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงใกล้เคียงกับที่หลายฝ่ายประเมินกัน ส่วนมาตรการดูแลบุคคลสำคัญนั้น ได้เตรียมมาตรการไว้แล้ว ส่วนที่มีข่าวจะมีการลอบวางเพลิงสถาบันการเงินและธนาคารต่างๆนั้น เบาะแสที่ได้รับมานั้นเราได้ตอบสนองและดูแลอยู่ การทำงานวันนี้จะไม่มีเฉพาะตำรวจ เพราะได้ร้องขอให้กองทัพมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน รวมถึงการประสานงานกับกระทรวงยุติธรรมกรณีที่จำเป็นต้องใช้อำนาจศาล จะทำอย่างรวดเร็วที่สุด
-ขู่ฟันตำรวจสมรู้ร่วมคิดม็อบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมั่นใจหรือว่าทุกหน่วยงานมีความเป็นเอกภาพ เพราะเหตุการณ์ที่พัทยาดูเหมือนตำรวจยังมีปัญหาเรื่องการดูแลความปลอดภัยนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรามีเอกภาพ แต่ในส่วนที่อาจจะมีความหละหลวมก็ต้องแก้ไข ซึ่งที่พัทยาต้องแก้ไขแน่นอน เพราะจะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยาก็ต้องไปทบทวน เพราะไม่ควรเกิดขึ้น แต่ไม่เป็นไร เพราะเหตุเกิดขึ้นกับผม แต่ที่ผมห่วงคือไม่อยากให้มีการปะทะกัน ไม่อยากให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่มีปัญหากัน" นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่า เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบกับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนพร้อมคู่เจรจาในวันที่ 10-12 เม.ย. ตนสอบถามรมว.ต่างประเทศแล้ว ได้รับการยืนยันว่าผู้นำทุกคนพร้อมเดินทางมาร่วมประชุม
แสนแดงล้อมบ้านป๋า เส้นตายเย็นนี้ ต้องลาออกพร้อมมาร์ค
เมื่อถามว่าจะจัดการกับตำรวจหรือไม่ถ้าพบว่าไปสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มผู้ชุมนุม นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน ถ้าตำรวจไม่ปฏิบัติ ต้องถูกดำเนินการเพราะเท่ากับตำรวจทำผิดกฎหมาย ตำรวจไม่มีสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมาย
-เมินม็อบกดดันให้ยุบสภา
เมื่อถามถึงข่าวครอบครัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รวมถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวนี้มีการยืนยันแค่ไหน แต่ฝากให้ผู้ชุมนุมคิดแล้วกันว่าขณะที่เรียกร้องให้มาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสงบ แต่มันมีความเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มที่ต้องการให้เกิดความรุนแรงแล้วตัวคนที่ชักชวนให้มาชุมนุมก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะใช้วิธีการที่เด็ดขาด รัฐบาลจะยังคงใช้วิธีการละมุนละม่อมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าใครทำผิดกฎหมายต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพียงแต่รัฐบาลจะไม่ทำผิดกฎหมาย และจะไม่มีการใช้ความรุนแรงจากภาครัฐก่อนโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกันใครก่อการจลาจล ใครทำผิดกฎหมาย ถ้าถูกจับกุมจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพราะมีการวางกล้องเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานครบถ้วนหมดแล้ว และจะดำเนินการอย่างเต็มที่
ต่อข้อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะชุมนุมกดดันให้รัฐบาลยุบสภาภายในวันนี้ให้ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ยุบสภา เพราะมีคนมาทำผิดกฎหมาย รัฐบาลจะยุบสภาต่อเมื่อเป็นทางออกที่เหมาะสมสำหรับบ้านเมือง แต่ถ้าหากจะใช้ความรุนแรง รัฐบาลจะไม่ยุบสภาแต่จะจัดการกับความรุนแรงนั้น แต่ถ้าเรียกร้องประชาธิปไตยแล้วมาพูดคุยปรึกษาเดินหน้าปฏิรูปการเมืองอย่างนี้ก็เป็นไปได้ แต่ถ้าจะมาใช้ความรุนแรงข่มขู่ให้รัฐบาลยุบสภา รัฐบาลไม่ทำ เพราะรัฐบาลจะไม่ยอมให้กับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วง 3 วันนี้ ถือเป็นช่วง 3 วันอันตรายสำหรับประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถือว่ามีความเสี่ยง แต่จะดูแลไม่ให้มีการทำอะไรที่รุนแรงเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าจะมีมือที่สามเข้าไปวางระเบิดในกลุ่มผู้ชุมนุม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ผมนึกไม่ออก มือที่สามมาจากไหนหรือครับ ก็มือที่ 1 และ 2 นั่นแหละ แต่รัฐบาลไม่มี"
-ครอบครัวแม้วเผ่นนอกหมด
ที่รัฐสภา นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดร ธานี กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย ให้สัม ภาษณ์ถึงข่าวเครือญาติของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทั้งคุณหญิงพจมาน พร้อมบุตรชายและบุตรสาวทั้ง 3 คน รวมทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้บินหนีออกนอกประเทศไปแล้วว่า เบื้องต้นได้ตรวจแล้ว ทราบว่าทุกคนบินออกนอกประเทศไทยแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนไปประเทศใดยังไม่ทราบ อาจบินไปประเทศ ใกล้ๆ ก่อนต่อเครื่องบินไปยังประเทศอื่นต่อไป
"ตอนนี้ถือเป็นการชิงหนีไปก่อน โดยปล่อยให้ประชาชนที่มาชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง เป็นตัวประกัน น่าเป็นห่วงประชาชนที่ยังไม่ทราบความจริง พวกเราในฐานะส.ส.ไม่อยากให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายอีกต่อไป วันนี้จุดยืนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเปลี่ยนแปลงตลอด ตอนแรกประกาศขับไล่นายกฯ และรัฐบาล แต่ตอนนี้กลับมาขับไล่องคมนตรี ไม่เข้าใจว่าจริงๆ ต้องการอะไร หรือต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรกันแน่ เชื่อว่าสุดท้ายคนทั้งประเทศ คงไม่เห็นด้วยและยอมรับไม่ได้" นายเชิดชัยกล่าว
-ไปทั้งฮ่องกง-ดูไบ-อังกฤษ
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า มีการราย งานเข้ามาว่าครอบครัวของพ.ต.ท.ทักษิณ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ได้เดินทางออกนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยทยอยกันเดินทางทีละคนสองคน ตั้งแต่ 1-2 วันที่แล้ว และมีจุดหมายปลายทางที่ต่างกัน ไม่ใช่เพียงนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้อ่านรายชื่อบุคคลที่เดินทางออกนอกประ เทศ จึงไม่ทราบว่ามีนักการเมืองของพรรคฝ่ายค้านเดินทางไปด้วยหรือไม่ หากต้องการรายละเอียด ควรสอบถามเรื่องนี้ไปยังนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ โดยตรง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานข่าวแจ้งว่า คุณหญิงพจมาน พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยด้วยสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค เที่ยวปินที่ CX750 ปลายทางเกาะฮ่องกง โดยเดินทางตั้งแต่คืนวันที่ 6 เม.ย. ซึ่งคืนวันเดียวกันนั้น น.ส.พิณทองทา ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ โดยสายการบิน ไทย เที่ยวบินที่ TG910
รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า เมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย. นายสมชายพร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร ได้ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ปลายทาง นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิ เรตส์ ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EX419 ซึ่งคาดว่าการเดินทางออกนอกประเทศของคนในครอบครัวชินวัตรทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย เพราะการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ถ้ามีความรุนแรงหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พ.ต.ท.ทักษิณจะได้ไม่เป็นห่วง คาด ว่าคนทั้งหมดจะไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่นครดูไบอย่างแน่นอน
-กห.ยันไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบรอบ 122 ปี ถึงการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า รัฐบาลไม่น่าจะประกาศใช้เนื่องจากไม่มีอะไรฉุกเฉิน ขอให้ชุมนุมกันอย่างสงบ อย่าทำอะไรเกินเลย ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถนายกรัฐมนตรีนั้น ภาพชัดเจนแล้วไม่ต้องอธิบายว่าควรหรือไม่ ทุกคนพิจารณาเอาเองว่าเป็นอย่างไร เพราะผู้นำ ประเทศไม่ได้เป็นบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ท่านเป็นผู้นำคน 60 ล้านคน เมื่อถามว่าเหตุที่เกิดขึ้นแสดงว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหละหลวม ขบวนนายกฯ ติด ไฟแดงถึง 2 ครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องไฟแดงคงไม่ใช่แต่เป็นเรื่องของการจราจรมากกว่า
เมื่อถามว่าห่วงเรื่องมือที่ 3 หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ต้องระวังทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่จะทำให้ประชาชนไม่มีความสุข หรือทำ ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินทางราชการ ไม่ได้ห่วงเรื่องใดเป็นพิเศษ ต้องถามอดีตนายกฯ ประ เทศกำลังดำเนินการอยู่และกำลังมีปัญหาอยู่มาก มาทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร เมื่อถามว่า นายกฯ ระบุถ้าจำเป็นจะต้องสลายการชุมนุมก็ต้องสลาย กองทัพเตรียมความพร้อมอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ทราบ นายกฯ ยังไม่ได้พูดกับตนเรื่องนี้ แต่คงไม่ถึงขนาดนั้น คนไทยด้วยกันทั้งนั้น
-บิ๊กป๊อกยืนกรานไม่ปฏิวัติ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า การดูแลยังเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน การเข้าสนับสนุนจะปฏิบัติตามแผนเดิมที่ร้องขอ เราจะพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรงและให้เป็นไปตามกรอบของการแสดงออกทางความคิดทางการเมือง เมื่อถามว่าหากสถานการณ์รุนแรง กองทัพต้องถูกบังคับให้ออกมาตัดสินใจเหมือนกับสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีอย่างแน่นอน ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายที่สุดแค่ไหนอย่างไร ก็จะใช้มาตรการทางกฎหมาย ไม่มีการใช้อำนาจอื่น เมื่อถามว่ามีความจำเป็นต้องใช้ประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตามสถานการณ์แล้ว รวมถึงนายกฯ มอบนโยบายว่าไม่มีแนวความคิดที่จะใช้เพราะเชื่อว่าจะสามารถคุมสถานการณ์ได้
เมื่อถามว่า ทหารจะเข้าไปดูแลความปลอด ภัยให้กับพล.อ.เปรมอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หน้าบ้านสี่เสาฯ เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนทหารได้ส่งกำลังทหารเข้าไปดูแลในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งจะประจำภายในบ้านพักสี่เสาฯ เมื่อถามว่าหวั่นใจหรือไม่ว่าจะมีมือที่ 3 มาก่อความวุ่นวาย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์และใช้มาตรการเฝ้าระวัง โดยจะไม่ให้มีมือที่ 3 จะใช้กล้องวงจรปิด และให้เจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแล รวมทั้งการตรวจค้นอาวุธโดยรอบบ้านพักองคมนตรี
-ยันมีแผนรับมือม็อบไว้แล้ว
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ใน 2-3 วันนี้ หากมีเหตุรุนแรงหรือกระทบกระทั่ง เรามีแผนรองรับอยู่แล้ว ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพได้ติดตามสถานการณ์ตลอด ส่วนข่าวการนำระเบิดมาสร้างสถานการณ์นั้น ในที่ประชุมผบ.เหล่าทัพไม่ได้คุยกัน เชื่อว่าสถาน การณ์จะไม่พัฒนาไปถึงเหตุการณ์เดือนตุลาฯ หรือพฤษภาทมิฬ แต่รัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น
เมื่อถามว่ามีรายงานข่าวว่าจะมีการจับแกนนำเพื่อไม่ให้บานปลาย พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า คงไม่มี ปล่อยให้เขาดำเนินการแต่ต้องอยู่บนหลักของกฎหมาย อย่างที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าต้องแตกหักให้ได้ ตนไม่เห็นประโยชน์ใดที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้น คือความย่อยยับของประเทศชาติ ถามว่าเราได้อะไรจากเรื่องนี้ ขณะนี้กัมพูชานั่งมองอยู่ ตนเชื่อว่าเขากำลังหัวเราะด้วยซ้ำว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้เมื่อไหร่จะไปสู้เขาได้
เมื่อถามว่าหากมีโอกาสจะนำผบ.เหล่าทัพ เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือไม่ พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า กองทัพยืนอยู่บนพื้นฐานความจงรักภักดีต่อสถาบัน คงไม่ต้องไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ต้องขอเข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่าน เชื่อว่าการแสดงออกของเราทุกคนในฐานะทหารชัดเจนว่าเราจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านตลอด ใครที่มีความมุ่งมั่นทำร้ายสถาบัน เรายอมไม่ได้เด็ดขาด
-จับเพิ่มอีก 2 มือทุบรถมาร์ค
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุ กลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถขบวนของนายกฯ ว่าได้สั่งการให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ โดยให้นำภาพจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่องมาใช้เป็นหลักฐาน หลังเกิดเหตุจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ล่าสุดรับรายงานมาว่าจับได้อีก 2 ราย ก่อนหน้านี้ตนเคยสั่งการไปแล้วในการดูแลความปลอด ภัยและความสงบเรียบร้อยเมื่อนายกฯ และคณะรัฐมนตรีเดินทางเข้าพื้นที่ เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมีผู้รับผิดชอบ ต้องตรวจสอบว่าใครเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์นั้นก็ต้องรับผิดชอบไป เย็นวันนี้ตนจะเดินทางไปพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อติด ตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงการชุมนุมปิดล้อมบ้านสี่เสาฯ ว่า จะบอกว่าไม่กังวลก็คงไม่ได้ แต่อะไรจะเกิดขึ้นรุนแรงหรือไม่ก็คงบอกไม่ได้ แต่สั่งการไปให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เมื่อถามว่าการที่ต้องถูกป.ป.ช. พิจารณาจากเหตุ การณ์ในวันที่ 7 ต.ค. จะทำให้ไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรในครั้งนี้หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ เพราะการดำเนินการใดก็ทำตามขั้นตอนกฎหมาย หากเหตุบานปลายก็มีกระบวนการขั้นตอนในการควบคุมดูแล ต้องขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะสั่งการอะไรหรือไม่ เราก็ควบคุมตามกระ บวนการขั้นตอนตามแผน
-ตร.ระดมตั้งด่านตรวจ 24 ช.ม.
ก่อนหน้านี้ เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงสถานการณ์กลุ่มนปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดงว่า กลุ่มผู้ชุมนุมขณะนี้ประมาณ 33,000-35,000 คน บางส่วนเดินไปที่บ้านประธานองคมนตรี และได้ตรวจอาวุธแต่ยังตรวจไม่ได้มากเท่าใด ขอร้องผู้ชุมนุมขอให้เป็นหูเป็นตาเพื่อป้องกันมือที่ 3 ไม่ให้จุดประกายความรุนแรงและสร้างสถานการณ์ขึ้น ส่วนการข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติ มีแต่เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่พบระเบิดปิงปอง โดยได้กำชับให้ผู้ปฏิบัติทุกนายอดทน ขอร้องว่าผู้ชุมนุมอย่าบุกบ้านองคมนตรีหรือสถานที่ราชการ
เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่จะมีการเผาธนาคารหรือสถานที่ราชการ โฆษกบช.น.กล่าวว่า เรื่องนี้สั่งการให้ตำรวจจัดชุดออกหาข่าว และตั้งจุด ว.43 ตรวจตราสถานีละ 2 จุด ร่วมกับด่านจราจรตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ต้องดูสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง ส่วนการชุมนุมก็ปล่อยได้หากเป็นไปโดยสงบ แต่อาจกระทบเรื่องการจราจร ซึ่งพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้สั่งการให้พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ดูแลงานจราจร ทำให้การจราจรติดขัดน้อยที่สุด
"ถนนที่ปิดแล้วมีเส้นศรีอยุธยา เส้นราช ดำเนิน เส้นบางขุนพรหมบางตอน เส้นนครราช สีมา ซึ่งรถและผู้สัญจรไปมาอาจไม่สะดวกก็จะหลีกเลี่ยง ส่วนที่มีบางคนถูกทำร้ายตรวจสอบยังไม่มีการแจ้งความ ได้จัดสายตรวจไปดูแลแล้ว" พล.ต.ต.สุพร กล่าวและว่า ตำรวจขอให้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ยืนยันว่าเป็นสีกากี ไม่ใช่สีใดสีหนึ่ง
-ยันตร.มีแค่โล่-ไม่พกกระบอง
ต่อมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้เดินออกมาทักทายและพูดคุยกับคนเสื้อแดง จากนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า แกนนำและผู้ชุมนุมยืนยันไม่มีการบุกรุก ไม่มีการกระทำผิดกฎหมาย ถ้ามีการกระทำผิดจะไม่ใช่คนในกลุ่มผู้ชุมนุม ตำรวจดำเนินคดีได้เลย สถานการณ์ทั่วกทม.ยังคงปกติดีอยู่ ไม่มีเหตุอะไร มีการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุมตามแยกต่างๆ ยืนยันว่าตำรวจที่เข้าปฏิบัติหน้าที่มีเพียงโล่เท่านั้น แม้แต่กระบองก็ไม่มี ฉะนั้นการกระทบกระทั่งหรือมีการใช้อาวุธก็ไม่ใช่เกิดจากตำรวจแน่นอน
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ดูแลงานจราจร กล่าวถึงการชุมนุมคนเสื้อแดง ที่เคลื่อนขบวนมาปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ว่า ถนนด้านหน้าบ้านสี่เสาฯ มีผู้ชุมนุมเต็มพื้นที่ประมาณ 2 หมื่นคน รวมกับถนนสายอื่นและที่ทำเนียบฯ มีจำนวนรวม 5 หมื่นคนขึ้น ทยอยมาเรื่อยๆ ส่วนที่ระบุว่าตำรวจไม่ระบายรถที่จะลงด่วนยมราชเพื่อสกัดคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมนั้น รองผบช.น. กล่าวว่า เป็นเพราะรถบัสที่พาคนมาร่วมชุมนุมปล่อยคนลงเดินเท้า เพื่อเลี้ยวกลับรถเลยทำรถที่ตามมาติดไปหมด ล่าสุดแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว
-"เทือก"รุดตรวจบ้านสี่เสาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บริเวณบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามเข้ามาประชิดตัวนายสุเทพ และตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งเจ้าหน้า ที่ตำรวจต้องกันตัวโดยที่ไม่มีการทุบรถเหมือนกรณีของนายกฯ อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่าการดูแลความปลอดภัยของนายสุเทพ ได้เพิ่มรถคุ้มกันความปลอดภัยมากขึ้น
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงเช้าตนไปบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่ไม่ได้เข้าไปภายในบ้านประธานองคมนตรีหรือติดต่อองคมนตรี เพราะเกรงจะมีคนไปหาเรื่อง แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้ดี ยืนยันว่าทั้งตำรวจและทหารไม่มีใครพกอาวุธ อย่างไรก็ตาม การที่เราต้องส่งคนดูแลบ้านประธานองคมนตรี ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามความปลอดภัยองคมนตรีแต่ละท่าน เพราะขณะนี้มีความพยายามลอบยิงองคมนตรี เราไม่ประมาท และขอร้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกแต่ให้เฝ้าระวังการลอบวางเพลิง ลอบวางระเบิด เป็นหูเป็นตา แจ้งเจ้าหน้าที่จะได้ป้องกันได้ ทั้งนี้ เราตั้งด่านตรวจค้นอาวุธและระเบิด หากพบว่าพกพาก็จับทั้งนั้น ไม่ว่าใคร เพราะรัฐบาลไม่เลือกฝ่าย เราต้องดูแลประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวคุณหญิงพจมาน พร้อมบุตรชายและบุตรสาวเดินทางออกนอกประเทศแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานแล้ว ทราบว่าบุตรชาย ออกไปเป็นคนสุดท้าย
-"วิสาระดี"ขึ้นเวทีที่ทำเนียบ
เวลา 11.00 น. ส่วนที่เวทีใหญ่หน้าทำเนียบรัฐบาล ได้ประกาศแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่ารถ 6 ล้อคันแรกได้เคลื่อนขบวนไปถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์แล้วและให้ทุกคนรอผลสำเร็จที่ใกล้จะมาถึง ขณะที่นายวีระ มุสิกพงศ์ ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลและองคมนตรี พร้อมยืนยันว่าจะใช้เวลา 3 วัน ปักหลักเรียกร้องจนกว่าจะได้ชัยชนะ โดยมีเงื่อนไขจะให้ยุติการชุมนุม รัฐ บาลนายอภิสิทธิ์ และองคมนตรีที่แทรกแซงการเมืองต้องลาออกสถานเดียวเท่านั้น
จากนั้นส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยน.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย ขึ้นปราศัยบนเวทีใหญ่หน้าทำเนียบว่า ขอให้กำลังใจประชาชนที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ส่วนชาวเชียงราย ได้มาร่วมชุมนุมด้วย 60 รถตู้ และอีก 58 รถบ.ข.ส. ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 พรรคไทยรักไทย ขึ้นเป่าแคนบนเวทีและปราศรัยว่า วันนี้เป็นวันตายของคนชื่อเปรม คนๆ นี้มีศักดิ์เท่ากับตนและพ่อตน เราจะบังคับให้พล.อ.เปรมลาออกจากประธานองคมนตรีวันนี้
นอกจากนี้นายอดิศรยังกล่าวโจมตีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ นายอักขราทร จุฬารัตน และนายจรัญ ภักดีธนากุล และระหว่างการปราศรัย นายอดิศรอ้างว่าขณะนี้มีกำลังพลทหารจากพลร่มป่าหวายเดินทางเข้ากรุงเทพฯแล้ว ขอให้คนขับแท็กซี่และรถสามล้อ ขับรถเข้าไปขวางหรือชนรถทหารและรถถังไม่ให้เคลื่อนขบวนเข้ามาขวางการชุมนุมของพวกเราได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่สวมเสื้อแดงมาร่วมให้กำลังใจกับกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงบ่าย อาทิ นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ที่มาให้กำลังใจน.ส.วิสาระดี แฟนสาว
-น้องแม้วโผล่ม็อบ-โต้เผ่นนอก
เวลา 14.00 น. บรรยากาศการประชุมที่เวทีเวทีใหญ่เริ่มคึกคักขึ้น ท่ามกลางอากาศมืดครึ้ม เมื่อนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ลูกสาว และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนสุดท้องของพ.ต.ท.ทักษิณ มาให้กำลังใจกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมเรือนหมื่นคน ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับ
นางเยาวภา ให้สัมภาษณ์ว่า มาให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุม และมาด้วยหัวใจเป็นประชาธิป ไตย ส่วนสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น เชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย รักความสงบ ยุติธรรม ดูจากการชุมนุมหลายวันที่ผ่านมาไม่มีความรุนแรงใดๆ ทั้งนี้ตนยังไม่ได้คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะไปต่างประเทศเพื่อไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ก็ไม่ได้ไปเพราะวันนี้ตนอยู่ที่นี่ มาดูกลุ่มผู้ชุมนุม มาเพื่อรักษาสิทธิเสรีภาพของระบอบประชาธิป ไตย ที่ต้องการทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิป ไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่จอมปลอม เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายเนวินพูด ถึงพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภากล่าวว่า เป็นเรื่องตัวบุคคล เขาคิดอย่างก็พูดอย่างนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะมาวิจารณ์
-แม้ววิดีโอลิงก์หน้าบ้านป๋า
รายงานข่าวจากแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่า คืนนี้ในการวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ จะติดตั้งระบบหลักของการถ่ายทอดที่หน้าบ้านพล.อ.เปรม มายังเวทีใหญ่ และเวทีย่อยตามจุดต่างๆ แทนที่จะใช้เวทีใหญ่หน้าทำเนียบเป็นจุดแพร่สัญญาณ
ขณะที่บริเวณสี่แยกลานพระบรมทรงม้า นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย ได้นำรถ 6 ล้อดัดแปลงตั้งเป็นเวทีปราศรัยตั้งแต่เวลา 14.30 น. โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ปราศัยโจมตีพล.อ.เปรม และบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ 19 ก.ย.2549 และยังปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมไปปิดเอเอสทีวี หากสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ยังปลุกระดมให้กลุ่มพันธมิตรฯเข้ามาทำร้ายคนเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า ขณะนี้มีคนบางกลุ่มจะปราบปรามคนเสื้อแดงด้วยวิธีซับซ้อน โดยเฉพาะข่าวการลอบสังหารองคมนตรี ต่อจากนี้ตนจะใช้เวทีในสภา ทวงถามเรื่องดังกล่าวเพราะการออกข่าวลอบฆ่าเช่นนี้ เป็นแผนซ้อนแผน เพื่อป้องปรามประชาชนโดยเฉพาะคนเสื้อแดง หากนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ตายจริงจะมีการป้ายสีเรื่องนี้ไปยังกลุ่มเสื้อแดงทันที
-ม็อบล้อมกรอบนักข่าวช่อง 3
บรรยากาศบริเวณแยกวัดเทวราชกุญชร ซึ่งอยู่ด้านข้างของบ้านสี่เสาเทเวศร์ว่า เวลา 11.00 น. ขณะที่น.ส.วารุณี ซื่อสัตย์สกุลชัย ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 รายงานสดเหตุการณ์อยู่นั้นได้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเดินเข้ามารุมล้อมและตะโกนด่า แสดงความไม่พอใจ เนื่องจากพูดถึงจำนวนผู้ชุมนุมว่ามากันประมาณ 2-3 หมื่นคน จึงสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มผู้ชุมนุม จนโห่ไล่ ขว้างปาขวดน้ำเข้าใส่น.ส.วารุณีและทีมช่างภาพที่กำลังรายงานสด ทำให้ต้องย้ายที่รายงานสดขึ้นไปยืนรายงานบนหลังคารถถ่ายทอดสด หรือรถโอบีแทน และต้องยุติการรายงานออกอากาศสดทันที ขณะเดียวกันรถข่าวของทีมข่าวช่อง 3 ที่จอดอยู่ซ.วัดเทวราชกุญชร 3 คัน ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปล่อยลมยางทั้งหมด จนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ขณะที่น.ส.วารุณี ช่างภาพ และทีมงานประมาณ 10 คน หลังจากถูกโห่ไล่จนต้องหนีเข้าไปอยู่ในโบสถ์วัดเทวราชกุญชร เพื่อหลบความวุ่นวาย ขณะที่มีการ์ดของคนเสื้อแดงเข้ามาช่วยกัน ซึ่งไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
ต่อมานายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำนปช. ได้เข้ามาเจรจากับกลุ่มผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ช่อง 3 ที่อยู่ในโบสถ์ พร้อมรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุ การณ์เช่นนี้ขึ้นอีก แต่ทีมข่าวช่อง 3 ยังไม่กล้าเดินทางออกมาในทันที เพราะยังคงมีผู้ชุมนุมเสื้อแดงคงปักหลักอยู่หน้าวัดเทวราชกุญชรเหมือนเดิม จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ทีมข่าวช่อง 3 ได้ออกมาที่รถข่าวและรถโอบี เพื่อนำออกจากพื้นที่ แต่ยังถูกเสื้อแดงขัดขวาง จนนายจตุพร ต้องมาช่วยเจรจา และสามารถนำรถออกไปได้ โดยขับผ่านกลุ่มผู้ชุมนุมที่ตะโกนด่าทอ ขว้างปาขวดน้ำใส่จำนวนมาก โดยทีมข่าวช่อง 3 ได้ย้ายมาปักหลักรายงานข่าวอยู่ภายในรั้วบช.น.
น.ส.วารุณี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คนที่ชุมนุมมีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม แต่เราก็ทำหน้าที่ ดังนั้น ต้องเคารพสิทธิการทำงานตามสิทธิของผู้อื่นด้วย สื่อมวลชนมีหน้าที่เสนอข้อเท็จจริงให้มากที่สุด ขอเรียกร้องให้เข้าใจการทำหน้าที่สื่อว่าเรามาเป็นกระบอกเสียงให้ทุกฝ่าย ถ้ามีสิ่งไหนที่ผู้ชุมนุมไม่ชอบใจหรือคิดว่ารายงานบิดเบือน ขอให้พูดคุยกันโดยตรงและดูหลักฐานการออกอากาศได้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ไม่อยากให้ฟังคำพูดปากต่อปาก เหตุการณ์จะยิ่งเพิ่มความรุนแรง
-ม็อบแดงล้นถึงลานพระรูป
เวลา 14.00 น. ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงยังคงปักหลักชุมนุมกันอยู่อย่างหนาแน่นที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ มีนายจตุพร นายณัฐวุฒิ นายจักรภพ น.พ.เหวง สลับกันขึ้นปราศรัยบนรถ 6 ล้อซึ่งเป็นเวทีเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างหาที่หลบร้อนนั่งฟังอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม มีผู้ชุมนุมบางส่วนไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยืนรักษาการณ์ที่หน้าบ้านสี่เสาฯ ขอให้ผู้หญิงและเด็กเข้าไปนั่งพักบนบาทวิถีด้านหน้าบ้าน เพราะพื้นที่ที่จัดให้ผู้ชุมนุมนั่งอยู่นั้นหนาแน่นมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยินยอมให้เด็กและผู้หญิงเข้ามา แต่ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อผู้ชุมนุมเห็นมีการเคลื่อนย้าย จึงลุกฮือฝ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามายึดพื้นที่บาทวิถีหน้าบ้านสี่เสาฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประสานการ์ดนปช. ไม่ให้ผู้ชุมนุมนั่งกีดขวางประตูเข้า-ออกบ้านสี่เสาฯ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดได้เคลื่อนกำลังมาชิดแนวรั้ว
นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนรถ 6 ล้อที่ถูกดัดแปลงเป็นรถปราศรัยมาจอดบริเวณหน้าบ้าน และนำลำโพงขนาดใหญ่มาติดตั้งเพื่อเตรียมใช้ปราศรัยในช่วงเย็น นอกจากนี้มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างสนุก สนานด้วย ทั้งนี้ บนเวทีปราศรัยได้ขอร้องผู้ชุม นุมอย่าขว้างปาสิ่งของหรือขวดน้ำหรือปิดล้อม รถถ่ายทอดสดของสื่อมวลชน พร้อมทั้งจัด การ์ดนปช.เข้าไปดูแลความปลอดภัยสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำนวนผู้ชุมนุมยังคงทยอยมาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยปักหลักเต็มพื้นที่ถนนสามเสนตั้งแต่ท่าวาสุกรีจนถึงตลาดเทเวศร์ และวัดเทวราชกุญชรวรวิหารถึงบริเวณหน้าบช.น. รวมทั้งเต็มลานพระบรมรูปทรงม้า
-โวยโดนมือมืดยิงหนังสติ๊กใส่
จากนั้นเวลา 15.20 น. นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า ขณะนี้มีผู้ชุมนุมบางส่วนถูกกลุ่มคนไม่หวังดีใช้หนังสติ๊กที่ใช้ลูกกระสุนเป็นหัวนอตยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่อยู่ย่านบางลำพูจนได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงอยากประสานตำรวจขอกำลังดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม โดยพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้ประสานมาว่าได้สั่งการให้ตั้งด่านตรวจค้นเพิ่มอีก 4 จุดประกอบด้วยบริเวณท่าน้ำเทวราชกุญชร หอสมุดแห่งชาติ สะพานเทเวศร์ และบางลำพู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจนครบาลได้เชิญหัวหน้าการ์ดนปช.เข้าหารือถึงการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าบ้านพล.อ.เปรม ในค่ำคืนวันเดียวกันนี้ โดยตำรวจนครบาลจะตั้งจุดตรวจเพิ่มขึ้นอีก 3 จุด ประกอบด้วยแยกเทเวศร์ แยกสี่เสาเทเวศร์ และสะพานเทเวศร์ ที่จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 8 จุด เป็น 11 จุด เพื่อป้องกันความปลอดภัยเนื่องจากเกรงว่าจะมีมือที่สาม เข้ามาก่อความวุ่นวายหรือสร้างสถานการณ์จนนำไปสู่ความวุ่นวาย หรือรุนแรง
-เด้งผกก.พัทยา-เซ่นทุบรถ
จากกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงก่อความรุนแรงทุบรถนายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางออกจากการประชุมครม.ที่เมืองพัทยา เพื่อเดินทางกลับกทม. เป็นเหตุให้พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผบช.ภาค 2 ออกหนังสือคำสั่ง 2 ฉบับคือ ฉบับที่ 1 ให้ พล.ต.ต.นิวัตน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผบช.ภ.2 หัวหน้าชุดสอบสวน ดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระ ทำความผิด คำสั่งฉบับที่ 2 ตั้งพนักงานสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง สาเหตุที่เข้าก่อกวน หาหัวหน้าคณะของกลุ่มผู้กระทำความผิด
นอกจากนี้ พล.ต.ท.อัศวินลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองพัทยาที่รับผิดชอบทั้งหมด โดยเซ็นคำสั่งโยกย้ายพ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก.สภ.พัทยา ในฐานะเป็นเจ้าของพื้นที่ไปช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นเวลา 30 วัน ทั้งนี้ ให้พ.ต.อ.ธีรพล จินดา หลวง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
-มาร์คถกเครียดรับมือม็อบ
เวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์เดินทางไปยังอาคารรัฐสภาเพื่อเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุม ใช้เวลาอยู่ที่สภาเพียง 40 นาที จากนั้นเดินทางออกมายังสำนักงบประมาณเพื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ(กนจ.) ก่อนเดินทางเข้าพรรคประชาธิปัตย์เพื่อรอดูสถานการณ์ในเวลา 15.00 น.
ต่อมาเวลา 16.25 น. นายสุเทพเดินทางเข้ามายังวอร์รูมที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายกฯ นายนิพนธ์ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก่อนที่พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบช.น. จะรุดเข้ารายการสถานการณ์
พล.ต.ต.จักรทิพย์ให้สัมภาษณ์หลังรายงานสถานการณ์ 30 นาที ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจห่วงมือที่ 3 เพราะมีการข่าวเข้ามา แต่ขณะนี้สิ่งบอกเหตุอย่างอื่นยังไม่มี นายกฯไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ แต่ต้องดูแลช่วงกลางคืนมากขึ้น ยอมรับว่าสิ่งที่น่าห่วงมากที่สุดขณะนี้คือมือที่ 3 คงเข้ามาก่อกวนในลักษณะสร้างสถานการณ์ในจุดต่างๆ แต่คงไม่ได้บุกเข้าไปบ้านพล.อ.เปรม เพราะถ้าทำคงบุกทำเนียบไปแล้ว แต่ครั้งนี้มือ ที่ 3 น่าห่วงที่สุด
-จับตามือที่ 3 ป่วนระเบิดเพลิง
เมื่อถามว่ามีการข่าวผู้ชุมนุมจะปิดถนนตามแยกสำคัญ พล.ต.ต.จักรทิพย์กล่าวว่าไม่ชัดเจน แต่ยอมรับว่ามีข่าวจริง มีการเตรียมการป้องกันและแก้ปัญหาไว้แล้ว โดยพล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. เตรียมรถยกและอุปกรณ์พร้อมเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์พร้อมเข้าดำเนินการแก้ปัญหาทันที ส่วนใหญ่เป็นแยกสำคัญตามห้างต่างๆ เมื่อถามว่ามือที่ 3 มีมากน้อยแค่ไหน รองผบช.น.กล่าวว่ามีมากพอสมควร แต่ ไม่ได้เข้าไปแฝงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้อยู่รอบนอก เจ้าหน้าที่รู้แล้วและมีการประกบติด ตามดูอยู่ แต่ไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลัง
เมื่อถามว่าการก่อกวนจะเป็นลักษณะใด รองผบช.น.กล่าวว่าลักษณะคล้ายๆ จะใช้ระเบิดเพลิงเพื่อเผา ซึ่งตรงกับการข่าวที่ระบุอาจมีการลอบเผาสถาบันการเงินต่างๆ แต่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไว้แล้ว ยอมรับว่าการข่าวมีเรื่องดังกล่าวจริง มีการสั่งการเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว ผบช.น. สั่งการไปยังผู้การแต่ละบก. ให้ดูแลพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะการเฝ้าระวังจุดสำคัญหรือจุดล่อแหลม ขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่มีเพียงพอ
พล.ต.ต.จักรทิพย์กล่าวถึงการอารักขาบ้านสี่เสาฯ ว่ายังไม่มีสิ่งบอกเหตุอะไรที่น่าวิตก แต่อาจเป็นจุดลวงแล้วไปสร้างสถานการณ์ในจุดอื่น แต่รูปแบบของกลุ่มผู้ชุมนุมขณะนี้ไม่เป็นไปตามธรรมชาติของม็อบ เมื่อถามว่ายอดผู้ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงมีเท่าไหร่ พล.ต.ต.จักรทิพย์กล่าวว่ากว่า 1 แสนคนคาดว่าช่วงค่ำจะเพิ่มอีก
-ถ้าจำเป็นก็จะใช้พรก.ฉุกเฉิน
เวลา 18.30 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์กรณี มีข่าวมือที่ 3 เตรียมสร้างสถานการณ์ ว่าเราพยายามติดตามเบาะแสข่าวสารทั้งหมด เพื่อความไม่ประมาทและเตรียมพร้อมรองรับสถาน การณ์เอาไว้แล้ว เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นจริงจำเป็นต้องออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าพ.ร.ก.ฉุนเฉินยังไม่มีเงื่อนไขที่จะออก แต่ถ้าจะออกต้องจำเป็นจริงๆ เบื้องต้นที่มีการซักซ้อมกันยังมั่นใจว่าแก้ไขสถานการณ์ต่างๆได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ถึงขณะนี้เราไม่ประมาท มีการจับตาและติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลาและต้องมีความพร้อม
ต่อข้อถามว่าผู้ชุมนุมขีดเส้นตายภายใน 24 ชั่วโมงต้องมีคำตอบจากฝ่ายรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า "ใครจะตอบ 24 ชั่วโมงเขาตอบผมหรือไม่ว่านักประชาธิปไตยของเขาคือใคร"
เมื่อถามว่าข่าวการออกนอกประเทศของคุณหญิงพจมานและลูกจริงเท็จแค่ไหน นายกฯกล่าวว่า เข้าใจว่าคุณหญิงพจมานและลูก รวมทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่าไปเพราะอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์มาในคืนนี้จะเป็นเงื่อนไขให้ก่อความรุนแรงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าคงไม่มีอะไรใหม่ ยิ่งนับวันคนยิ่งเห็นชัดเจนว่าเป็นอะไร อยากฝากถึงประชาชนทุกคนให้สบายใจว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ทุกหน่วยงานมีความพร้อมดูแลสถานการณ์และขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่ด้วย
-ม็อบแดงตั้งเวที 3 จุดใหญ่
ส่วนการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณตลอดถ.ศรีอยุธยา กลุ่มคนเสื้อแดงนำรถบรรทุกสิบล้อติดตั้งเครื่องเสียง เดินสายสัญญาณถ่ายทอดเสียงการปราศรัยจากเวทีหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ จอดอยู่ในจุดต่างๆ ตลอดเส้นทางทั้งสิ้น 9 จุด ส่วนบน ถ.ราชสีมา มีการปิดกั้นการจราจรตั้งแต่บริเวณสี่แยกวังแดง จนถึงแยกอู่ทองนอก ไม่ให้ยานพาหนะทุกชนิดผ่านเข้าพื้นที่ชุมนุม ยกเว้นต้อง การออกนอกพื้นที่เท่านั้น นอกจากนั้นการ์ดนปช.ประกาศห้ามมิให้ผู้ค้ารถเข็นที่ตามม็อบมาจำหน่ายสินค้าขูดรีดผู้ชุมนุมเกินไป มิเช่นนั้นจะไม่อนุญาตให้ขายในพื้นที่จุดชุมนุม ล่าสุดราย งานจาก บช.ส. แจ้งยอดผู้ชุมนุมอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 15.30 น. ว่ามีจำนวน 8.7 หมื่นคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบริเวณแยกมิสกวัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้จอดรถขยายเสียงกลางสี่แยกและจัดทำเป็นเวทีปราศรัยย่อย มีแกนนำผลัดกันขึ้นปราศรัย ทำให้ขณะนี้มีเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง 3 จุด คือเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ และแยกสวนมิสกวัน โดยเวทีที่แยกสวนมิสกวัน นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. ปราศรัยว่าได้ข่าวว่ามีกลุ่มเสื้อเหลืองเข้ามาทำร้ายคนเสื้อแดง หากไม่ยุติการกระทำดังกล่าวในค่ำวันนี้จะไปเผาสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีที่ท่าพระอาทิตย์ และหากมีการใช้ปืนยิงกราดประชาชน คนเสื้อแดงจะเปลี่ยนจากผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเป็นนักรบอิสระ จะเผาสถานที่ทุกที่ และหากเจอรัฐมนตรีคนไหนจะจัดการตามใจชอบทันที
-"มาร์ค-ป๋า-แอ้ด-ชาญชัย"ต้องออก
เวลา 16.00 น. ที่เวทีหน้าทำเนียบ แกนนำนปช.โดยนายวีระ นายจักรภพ นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร ขึ้นอ่านแถลงการณ์มหาประชาชนคนเสื้อแดง ฉบับที่ 1 ระบุว่า เมื่อประชาชนมารวมตัวกันเรียกร้องรัฐบาลที่เข้าสู่อำนาจโดยมิชอบ ให้ดำเนินการกลุ่มพันธมิตรฯที่ยึดทำเนียบฯ สนามบิน และขอให้จัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่แต่รัฐบาลเพิกเฉย ประชาชนได้รับข้อมูลเพิ่มและเห็นว่าประธานองคมนตรี และองคมนตรีบางคนร่วมกันวางแผนยึดอำนาจ สถาปนาระบอบอำมาตยาธิปไตย วันนี้ประชาชนจะไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจนี้ต่อไป ขอเรียกร้อง 1.พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ต้องพิจารณาตนเองลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี เพื่อความบริสุทธิ์ของสถาบัน 2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้อง ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อต้องเกิดขึ้นโดยไม่มีเงื่อนไข 3.การบริหารงานราชการให้ดำเนินต่อไปตามระบอบประชาธิป ไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หากมีการปรับปรุงใดๆ ให้ดีขึ้นตามหลักสากล ต้องหารือกับนักประชาธิปไตยที่มีประวัติและพฤติกรรมที่เชิดชูระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ประจักษ์
-ให้เวลาตัดสิน 4 โมงเย็นวันนี้
เวลา 17.30 น. ที่ด้านหลังเวทีปราศรัยทำเนียบฯ นายจตุพร แถลงว่า หลังจากออกแถลงการณ์ร่วมกันแล้ว แกนนำได้หารือร่วมกันและมีมติที่จะรอฟังคำตอบจากพล.อ.เปรม พล.อ.สุรยุทธ์ นายชาญชัย และนายอภิสิทธิ์ โดยจะให้เวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นวันที่ 9 เม.ย. เวลา 16.00 น. หากยังไม่มีการตัดสินใจใดๆจากบุคคลเหล่านี้ กลุ่มมหาประชาชนฯจะมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา สิ่งที่กลุ่มเสื้อแดงดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ถึงวันนี้บรรลุผลแล้ว มีประชาชนมาร่วมจำนวนมาก ส่วนมาตรการที่จะเลือกหากไม่ได้รับการสนองตอบนั้น กลุ่มเสื้อแดงจะเลือกแนวทางที่ดีที่สุด ทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ยืนยันจะไม่ยึดทำเนียบฯหรือปิดสนามบินอย่างที่พันธมิตรฯทำ แต่จะดำเนินการโดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ต้องคิดด้วยความรอบคอบ หากคิดแบบขาดสติ คนที่มามากขนาดนี้กลุ่มเสื้อแดงสามารถยึดบ้านนายกฯ ยึดทุกกระทรวงได้หมดแต่เราไม่ทำ เราจะชุมนุมเพื่อรอคำตอบ 24 ชั่วโมงจากนี้ไป
-ซัดแดงเทียมจะป่วนเผาเมือง
นายจตุพร กล่าวว่า คืนนี้เวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ จะวิดีโอลิงก์มาที่กลุ่มผู้ชุมนุมตามปกติ ตนได้พูดคุยและลำดับสถานการณ์ให้พ.ต.ท.ทักษิณฟังแล้ว ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่าจะพูดจากใจหลายเรื่องที่ไม่เคยพูดมาก่อน ซึ่งขณะนี้กลุ่มเสื้อแดงเป็นห่วงเพราะเกิดปรากฏ การณ์แดงเทียมขึ้น โดยตั้งเป้าเลือกดำเนินการกับสื่อมวลชน เช่นเหตุที่เกิดขึ้นที่วัดเทวราชฯ ที่เข้าไปล้อมรถถ่ายทอดสดของช่อง 3 และยังไล่ล่ารถโอบีช่อง 7 ยืนยันว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ได้มาจากกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะปกติคนเสื้อแดงจะมีท่าทีเป็นมิตร ไม่ได้เป็นปรปักษ์กับสื่อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกรณีที่นายณัฐวุฒิถูกปาไข่ที่จ.บุรีรัมย์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อกดดันสื่อไม่ให้รายงานสดสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลเสียต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ตนได้สั่งการให้การ์ดดูแล หากพบใครทำเช่นนั้นอีกจะดำเนินการทันที ขอบอกว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นพวกเดียวกับที่ออกมาบีบน้ำตาร้องไห้เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ซึ่งอาจจะไปก่อนพวกอำมาตย์ก็ได้
เมื่อถามว่ามีรายงานข่าวจากตำรวจว่าคืนนี้จะมีการเผาสถานที่ราชการโดยฝีมือกลุ่มเสื้อแดง นายจตุพรกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง กลุ่มเสื้อแดงจะไม่ทำเช่นนั้น การที่นายเนวินออกมาร่ำไห้บอกว่าจะมีการเผาบ้านเมืองนั้นเป็นการออกใบเสร็จล่วงหน้า และถ้ามีการกระทำนี้เกิดขึ้น ต้องพิสูจน์ว่าใครทำเพราะเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกับคนเสื้อแดงพูดกันอย่างเปิดอก เข้าใจกัน การเผาบ้านเผาเมืองจะเกิดขึ้นจะเกิดจากฝีมือของคนที่ออกมาพูดชี้นำเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ใครอยากจะทำอะไรก็เชิญแต่อย่ามาโบ้ยให้กลุ่มคนเสื้อแดง
-อุบ 5 แนวทางจัดการรัฐบาล
นายสมโภชน์ โตรักษา ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ได้ชี้แจงถึงการถูกกลุ่มคนเสื้อแดงขับไล่ขณะรายงานข่าวการชุมนุมว่า ขณะนั้นเวลา 11.45 น. ตนได้สัมภาษณ์สดนายจตุพร บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ซึ่งได้สอบถามถึงจุดยืนและแนวทางการชุมนุม โดยไม่ได้พูดถึงจำนวนผู้ชุมนุม ตอน รายงานข่าวก็ไม่ได้พูดถึงจำนวนคนที่ร่วมชุมนุม ซึ่งช่วงนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ นายจตุพร และผู้ชุมนุมยังเข้ามาจับมือชื่นชมว่ารายงานดีตรงไปตรงมา แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที ได้มีกลุ่มเสื้อแดงอีกกลุ่มประมาณ 30 คน กรูเข้ามาล้อมที่รถทีมงาน พร้อมต่อทันทีว่ารายงานข่าวได้อย่างไรว่าผู้ชุมนุมไม่ถึงพันคน พร้อมปาขวดน้ำ ทำให้การ์ดเสื้อแดง เข้ามาช่วยเคลียร์ แต่ไม่สามารถเคลียร์ได้ การ์ดเห็นท่าไม่ดี จึงขอให้ตนและทีมงานออกจากพื้นที่ดังกล่าวทันที พร้อมยังระบุว่าไม่แน่ใจว่าเป็นเสื้อแดงเทียม เข้ามาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่
รายงานข่าวจากแกนนำเสื้อแดงเผยว่า หลังการขีดเส้นตาย 24 ช.ม. ในเวลา 16.00 น. วันที่ 9 เม.ย. ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง จึงมี 5 ทางเลือกที่จะดำเนินการ ยืนยันไม่บุกยึดสนามบิน แต่ยังไม่ขอเปิดเผย 5 แนวทางนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัย 4 ประการที่จะเลือกใช้แนวทางไหนคือ 1.ผลได้ผลเสียทางการเมือง 2.ความเป็นไปได้ของภารกิจ 3.ท่าทีของฝั่งตรงกันข้ามทั้งรัฐบาล ตำรวจและกลุ่มต่อต้าน และ 4.ความอดทนอดกลั้นของกลุ่มผู้ชุมนุม
-ตกเย็นแดงพรึ่บบ้านสี่เสาฯ
เวลา 18.00 น. บรรยากาศการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่บ้านสี่เสาฯ เริ่มคึกคัก เมื่อผู้ชุมนุมที่กลับบ้านพักไปหลังจากการปิดล้อมบ้านสี่เสาฯในช่วงสาย เริ่มกลับมารวมตัวกันใหม่ และยังมีผู้ชุมนุมที่เพิ่งเลิกงานทยอยเข้าร่วมจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมุ่งหน้าสู่ด้านหน้าบ้านสี่เสาฯ มีท้ายแถวอยู่บริเวณสี่แยกพลหนึ่ง
ด้านเวทีชั่วคราวบริเวณสี่แยกวังปารุสกวัน มีผู้ชุมนุมจำนวนมากรวมตัวกันฟังการปราศรัยอยู่บริเวณรอบพระบรมรูปทรงม้า ลานพระราช วังดุสิต และบนถนนราชดำเนินนอก ไปจนเกือบถึงสี่แยกสวนมิสกวัน สำหรับเวทีใหญ่สะพานชมัยมรุเชฐ มีผู้ชุมนุมรวมตัวกันอย่างหนาแน่น ด้านถ.พิษณุโลก ท้ายแถวอยู่ที่บริเวณสี่แยกสวนมิสกวัน ถ.นครปฐม
ด้านหน้าทำเนียบ ท้ายแถวอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานอรทัย ถ.ลูกหลวง หรือถ.เลียบคลองผดุงกรุงเกษม โดยในถนนดังกล่าวมีผู้ชุมนุมจำนวนมากพยายามเดินเข้าไปให้ใกล้จอโปรเจ็กเตอร์ที่ถ่ายทอดสัญญาณภาพจากเวทีใหญ่สะพานชมัยมรุเชฐ ส่วนบริเวณ ถ.ราชดำเนินนอก จากสี่แยกสวนมิสกวัน จนถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ มีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมากเดินไปมา แต่บริเวณดังกล่าวมีร้านค้าตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก และทางเข้าบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ มีผู้สวมเสื้อแดงทยอยเข้าร่วมการชุมนุมตลอดเวลา
เวลา 19.30 น. บนเวทีเสื้อแดงที่ทำเนียบ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.พรรคพลังประชาชน และอดีตรัฐมนตรี มาร่วมการชุมนุมโดยขึ้นไปนั่งอยู่บนเวที อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายวิทยา บูรณศิริ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รวมทั้ง"หมวดเจี๊ยบ"ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต
-คนรักป๋าบุกบ้านแม่จตุพร
วันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ 2 ต.พรุพรี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านของนางน่วม บัวแก้ว อายุ 90 ปี แม่ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำม็อบเสื้อแดงนั้น ปรากฏว่ามีกลุ่มเครือข่ายคนรักพล.อ.เปรม นำโดย นายสำราญ วิโรจน์ พ.ต.ท.ผาด พรมจันทร์ พร้อมสมาชิกกว่า 200 คน รวมตัวพร้อมปราศรัยโจมตีนายจตุพร
จากนั้นกลุ่มคนรักป๋าเปรมได้เข้าไปหานางน่วม ซึ่งไม่สามารถเดินเหินได้ และสายตามองไม่เห็น เพื่อขอร้องให้นางน่วมช่วยพูดกับนายจตุพรให้ยุติการโจมตีป๋าเปรม ซึ่งนางน่วมกล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับการกระทำของลูกชาย เป็นห่วงลูกชายคนสุดท้องคนนี้มาก จึงอยากฝากผ่านสื่อมวลชนให้ลูกชายยุติบทบาท
นางอารีย์ ปานแดง อายุ 60 ปี พี่สาวต่างบิดาของนายจตุพร กล่าวว่า นายจตุพรได้ออกจากบ้านไปอยู่กับพ่อที่จังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จากนั้นการติดต่อกับที่นี้ก็ห่างเหินไป โดยกลับมาล่าสุดเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เพราะมาร่วมงานศพนายคะนึง บัวแก้ว พี่ชายต่างบิดา หลังจากนั้นก็ไม่มาอีกเลย
-หนุ่มขับเก๋งป่วน-ยิงใส่ม็อบ
เวลา 19.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุนีย์ รองผกก.(สส.) ช่วยราชการ สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุจากนายชัยยุทธ อรุณรับ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 442 หมู่ 4 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ทำงานเป็นพนักงานขับรถอยู่สถานทูตฝรั่งเศส นายธนสรณ์ ปานบุญ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 7 ต.สวนผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย และน.ส.สุพัตรา จุลศร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/16 ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับราช การอยู่จังหวัดสมุทรปราการ ว่าได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขณะยืนอยู่ที่ป้ายรถประจำทางบนถนนสวรรคโลก แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กทม.
นายชัยยุทธ ให้การว่า หลังเลิกงานได้นั่งรถมาลงแล้วเดินจะเข้าไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อฟังการปราศรัยและได้พบกับนายธนสรณ์และน.ส. สุพัตราจึงหยุดทักทายกันว่าจะเข้าไปทางไหนดี ที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่มาก ขณะที่ยืนกันอยู่ก็ได้มีชายคนหนึ่งขับรถเก๋งยี่ห้อ นิสสัน เทียน่า สีน้ำเงิน ทะเบียน ชพ 2719 กทม. มาจอดติดไฟแดงอยู่คนขับได้ลดกระจกลงแล้วตะโกนด่าทอมาที่กลุ่มตนยืนอยู่ และให้ของลับ นายธนสรณ์จึงตะโกนสวนตอบโต้กลับไปเป็นจังหวะสัญญาณไฟขียว ชายดังกล่าวได้หยิบปืนออกมายิงใส่ 1 นัด แต่กระสุนไม่ถูกใคร ก่อนจะขับรถหลบหนีไปทางถนนสวรรคโลกและเลี้ยวซ้ายไปแยกยมราช-หลานหลวง ตนจึงเดินไปเก็บปลอกกระสุน ขนาด .32 จำนวน 1 ปลอก มามอบตำรวจไว้เป็นหลักฐานตนจำหน้าคนร้ายได้ชัดเจน ลักษณะรูปร่างใหญ่ ผมสั้น ผิวคล้ำ อายุประมาณ 30-40 ปี
ต่อมา พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ทราบเหตุเดินทางมาทำการสอบสวนด้วยตนเอง พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่า คนร้ายเป็นใคร สอบปากคำผู้เสียหาย จากการตรวจสอบพบว่ารถของคนร้ายน่าจะเป็นรถกระบะ ไม่ใช่รถเก๋ง ผู้เสียหายอาจจำเลขทะเบียนสับสน จึงให้ทำการตรวจเลขหมายทะเบียนที่ใกล้เคียงกันทั้งหมดว่า ตรงกับรถยี่ห้อนี้หรือสีนี้ของคนร้ายหรือไม่ หากจับคนร้ายได้จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า สาเหตุจะเป็นเพราะเรื่องรถติดเกิดอารมณ์ร้อน คนร้ายไม่ได้ใส่เสื้อสีใดสีหนึ่งด้วย
-แม้วโฟนอินปลื้มม็อบเยอะ
เวลา 19.30 น. บรรยากาศการชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาฯ ยังคงดำเนินไปอย่างคึกคัก มีประชา ชนคนเสื้อแดงจากจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในเขตกทม.และปริมณฑลทยอยเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง จนยอดผู้เข้าร่วมชุมนุมเกินแสนคน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำดื่มที่จัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอ ต้องมีการประกาศขอรับบริจาคเป็นระยะ พื้นที่ชุมนุมยังมีปัญหาเรื่องระบบสุขาที่ไม่สะดวกเพียงพอ เนื่องจากรถสุขาของกทม.ส่วนใหญ่ จอดให้บริการอยู่บริเวณข้างทำเนียบ แกนนำนปช.ต้องประสานขอความช่วยเหลือไปยังวัดสามพระยา ขอใช้สถานที่เป็นที่พักผ่อนสำหรับคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และอำนวยความสะดวกเรื่องห้องอาบน้ำและห้องสุขา นายณัฐวุฒิขึ้นเวทีรับปากกับผู้ชุมนุมว่า ในวันที่ 9 เม.ย. จะปรับปรุงแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหาร เต็นท์ที่พักและรถสุขาให้เพียงพอ
เวลา 20.20 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์ โดยถ่ายทอดไปยังเวทีเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เวทีแยกมิสกวัน และเวทีหน้าบ้านสี่เสาฯ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณสวมเสื้อสีขาวและสวมสูทสีเข้มทับ ฉากหลังเป็นพื้นธงชาติ โดยกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับคนไทยทั้งประเทศที่รวมตัวกันอยากได้ประชาธิป ไตยที่แท้จริง วันนี้มากันเยอะเหลือเกิน ตนชื่นใจมาก ตนจะได้กลับบ้านหรือไม่ได้กลับนั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่เรื่องสำคัญคือประชาชนจะได้ประชาธิปไตยเต็มมือ เราจะไม่กลับไปมือเปล่า แต่จะกลับไปพร้อมประชาธิปไตย เราขอมีประชาธิปไตยของแท้ ไม่ใช่ประชาธิปไตยหลอกๆ
-อ้อนให้อดทนเพื่อลูกหลาน
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า วันนี้ต่างชาติมองเราเป็นตัวตลก คำว่าประชาธิปไตยในภาษาอังกฤษอ่านว่า เดม็อกเครซี (democracy) แต่วันนี้เรากลับเป็นเดโมเครซี (democrazy) ที่แปลว่าการแสดงความบ้า เพราะบ้ากันไปหมด อยู่ๆ นายกฯที่ได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ไปทำกับข้าว ก็โดนปลด แต่คนที่ไปยึดสนามบินกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่าง 2 มาตรฐานไปหมด
อดีตนายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มา รู้ว่าทุกคนเหนื่อย แต่จะต้องอดทนต่อไปเพื่อลูกหลานในอนาคต อยากให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียม ไม่ว่าฐานันดรไหน มีระบบยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียว ถ้าเราอดทนได้สำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดิน คนทุกคนไม่ว่าจะเกลียดหรือรักเราก็จะได้ประโยชน์ แต่เราไม่วายจะถูกกลั่นแกล้งว่าจะปลอมปนอาหารหรือปลอมปนเป็นคนเสื้อแดงมาสร้างสถานการณ์ ดังนั้นขอให้อดทน เพราะเราเป็นผู้รักความจริง พวกอำมาตยาธิปไตยไม่ต้องการเพราะเขาบิดเบือนความจริง แทรกแซงระบบ สร้าง 2 มาตรฐาน ข่มขู่คนทำมาหากิน ข่มขู่ข้าราชการจนกลัวไปหมด
-ซัดคนแก่ 2-3 คนร่วมมือทหาร
"ถ้าใครเป็นนายกฯ ที่ประชาชนรักก็ต้องมาเช่าห้องแถวอยู่แบบผม เพราะเขาต้องการนายกฯ ที่อยู่แล้วก็ไป แล้วประเทศจะเจริญได้อย่างไร คำว่าอำมาตย์ ไม่ได้หมายถึงสถาบันองคมนตรี เพราะองคมนตรีส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ามายุ่ง มีแค่คนแก่ 2-3 คนที่ไปร่วมกับพวกอภิสิทธิ์ชนและแอบอ้างพระบารมีจนประเทศปั่นป่วนอย่างนี้ แล้วพาทหารใหญ่ปฏิวัติครั้งแล้วครั้งเล่า ทหารใหญ่ก็แฮปปี้เพราะมีตังค์กลับบ้านทุกคน แต่ทหารน้อยต้องเหนื่อยถูกใช้เป็นเครื่องมือ ร่วมกับนักการเมืองที่ไปซื้อส.ส.เพื่อทำมาหาแดกบนซากความเจ็บปวดของพี่น้องที่รักประชาธิปไตย ไม่มีครั้งไหนที่ประชาชนทั้งประเทศจะพร้อมใจกันมากขนาดนี้ ถ้าครั้งนี้ไม่ได้ประชาธิปไตย ครั้งหน้าก็ไม่มีอีกแล้ว ดังนั้น อย่ายอมแพ้" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตอนนี้ตนฝันว่าประชาธิปไตยเป็นของประชาชนแล้ว มีความเสมอภาค มีเสรีภาพ มีความยุติธรรม ดูแลกันได้ทุกภาคส่วน ไม่มีคนจนในแผ่นดินไทย ขอให้พี่น้องอดทนอีก 3 วันเพราะตอนนี้เขากะจะปล่อยให้เราแห้งตาย ดังนั้น พี่น้องในกทม.ต้องมาช่วยเติมเต็ม เติมพลัง ให้ลูกหลานมาอยู่ที่นี่ดีกว่าเรียนจบแล้วไม่มีงานทำ สื่อและนักวิชาการบางส่วนบอกว่าพี่น้องถูกหลอกมาช่วยตน จริงๆ แล้วตนไม่แคร์ จะได้กลับหรือไม่ได้กลับบ้านเรื่องเล็ก แต่ประเทศไทยไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นเรื่องใหญ่กว่า