ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะกระแสข่าวการเผาสถานที่ราชการว่า สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา รัฐบาลมีหน้าที่ทำตามกฎหมาย ไม่ได้ห่วงเรื่องใดเป็นพิเศษ ในฐานะที่ดูแลเรื่องความมั่นคงก็ต้องห่วงในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินทางราชการ
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามปลุกเร้าให้ประชาชนเกิดอารมณ์ที่รุนแรงนั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า ต้องถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ประเทศกำลังดำเนินการอยู่ และกำลังมีปัญหาอยู่มาก มาทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร มีจุดประสงค์อะไร ทั้งนี้อยากขอให้ชุมนุมกันอย่างสงบ อย่าทำอะไรที่เกินเลยจะต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย เพราะกฎหมายเปิดโอกาสให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ชุมนุมก็สามารถชุมนุมได้อย่างสงบ จะเรียกร้องอย่างไรก็ให้ดำเนินการไป แต่อย่าใช้ความรุนแรง เพราะมันไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต
รมว.กลาโหม ยังกล่าวถึงข่าวการลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี และอดีตประธานศาลฎีกา โดยระบุยังไม่ชัดเจนว่า จะเป็นเรื่องตัวบุคคล หรือเป็นเรื่องทางการเมือง ต้องมีการสืบสวนสอบสวนกันต่อไป ส่วนนายทหารที่เข้าไปเกี่ยวข้อง คงเป็นการซัดทอด ต้องสืบสวนกันต่อไป มีกฎระเบียบอยู่แล้ว และผู้บังคับบัญชากำชับอยู่ตลอดเวลา แต่ในเรื่องของตัวบุคคล ความคิดของแต่ละคนจะต้องอยู่แต่ละคนว่า จะดำเนินการอย่างไร ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนรวม หรือระบบ
เมื่อถามว่า กองทัพจะจัดกำลังไปดูแลองคมนตรีเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งในตัวของ นายชาญชัย จะขอเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมก็ขอได้ทั้งนั้นไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไรบ้างเพื่อให้เกิดความชัดเจน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของตัวบุคคลเรื่องส่วนตัวเขาคิดอย่างไรตนไม่ทราบว่ามีเครือข่ายโยงใยอย่างไร คงต้องมีการสืบสวนต่อไป.
ส่งทหารเข้าคุ้มกั้นบ้าน "ป๋าเปรม"
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า การรวมตัวกันของผู้ชุมนุมสามารถทำได้ แต่คงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงจนทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ ส่วนการดูแลความปลอดภัยให้กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ บริเวณด้านหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์จะให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ในส่วนของทหารได้ส่งกำลังเข้าไปดูแลภายในบ้านพักสี่เสาฯแล้ว
นอกจากนี้ ผบ.ทบ.กล่าวถึงมาตรการป้องกันมือที่ 3 มาก่อความวุ่นวาย โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์ และใช้มาตรการเฝ้าระวัง โดยใช้กล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแล รวมทั้งการตรวจค้นอาวุธบริเวณโดยรอบบ้านพักประธานองคมนตรี ทั้งนี้จะพยายามไม่ให้มีเหตุการณ์รุนแรง
ผบ.ทบ.ยังกล่าวถึงการลอบสังหารองคมนตรีว่า ไม่ทราบเขาจะทำอย่างไร ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งสิ้น ผลการสอบสวนโยงไปถึงใครก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจมีฐานข่าวประสานมา เราก็ให้ความร่วมมือบนพื้นฐานที่ว่า ทุกคนไม่ว่าใครทั้งสิ้นจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ผบ.ทบ.ยืนยันแม้หากสถานการณ์เกิดความรุนแรง ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายที่สุดแค่ไหนอย่างไร กองทัพก็จะใช้มาตรการทางกฎหมาย ไม่มีการใช้อำนาจอื่นๆ อย่างแน่นอน