อนุพงษ์ยันส่งทหารคุ้มกันป๋าเปรมแล้ว

"ผบ.ทบ." ระบุ กำลังทหารที่เข้าดูแลม็อบเสื้อแดง ทำหน้าที่ผู้ช่วยตร. เผย ส่งทหารเข้าคุ้มกั้นบ้าน"ป๋าเปรม"แล้ว พร้อมจับตามือที่สามก่อเหตุวุ่นวาย ลั่นไม่ว่าสถานหารณ์เกิดความรุนแรงมากแค่ไหน ทหารทำปฎิวัติแน่นอน

(8เม.ย.) เวลา 06.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวให้สัมภาษณ์ให้การดูแลการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ยืนยันว่าการดูแลยังเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนทหารจะเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งการเข้าสนับสนุนจะปฎิบัติตามแผนเดิมที่มีการร้องขอทั้งนี้อยากเรียนว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์อะไที่รุนแรง ซึ่งการรวมตัวกันของผู้ชุมนุมก็สามารถทำได้

แต่คงจะไม่เหตุการณ์รุนแรงจนทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ เมื่อถามว่าทหารจะเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับพล.อ.เปรม ตินณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี  กล่าวว่า ด้านหน้าบ้านสี่เสาฯจะให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ในส่วนของทหารเองได้ส่งกำลังทหารเข้าไปดูแลในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งจะประจำภายในบ้านพักสี่เสาฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หวั่นใจหรือไม่ว่าจะมีมือที่สามมาก่อความวุ่นวาย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า

เจ้าหน้าที่ได้มีการประเมินสถานการณ์ และใช้มาตรการในการเฝ้าระวัง โดยจะไม่ให้มีมือที่สาม โดยจะใช้กล้องวงจรปิด และให้เจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแล รวมทั้งการตรวจค้นอาวุธบริเวณโดยรอบบ้านพักองคมนตรี ทั้งนี้จะพยายามไม่ให้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเวลานี้ทหารยังไม่มีการจัดกำลังพิเศษเพื่อที่จะเข้าไปดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับองคมนตรีท่านอื่น

เมื่อถามต่อว่า ข่าวการลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องค์มนตรี นั้น มีความพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงขึ้นหรือไม่

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆ เขาจะทำอย่างไร ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ตนยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นใครทั้งสิ้น ผลการสอบสวนโยงไปถึงใครก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประสานงานมาก็จะดำเนินการไปตามปกติว่าจะให้ทางทหารจะไปร่วมดำเนินการในเรื่องอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกองทัพจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า

กองทัพไม่มีฐานข่าวในส่วนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีฐานข่าวอย่างไร ประสานมาเราก็ให้ความร่วมมือ โดยอยู่บนฐานว่าทุกคนไม่ว่าใครทั้งสิ้น ก็จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งสิ้นไม่ว่าเป็นใครก็ตาม เมื่อถามต่อว่า โดยส่วนตัวจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ผบ.ทบ. กล่าวว่า เราพยายามที่จะใช้มาตรการทุกอย่าง ที่จะชี้แจงกับพี่น้องประชาชนเข้าใจไม่ว่าเมื่อจะเกิดความรุนแรงแค่ไหนก็ตาม ก็จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และมีกระทบต่อสังคมไทยโดยรวม เราจะพยายามที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรง และให้เป็นไปตามกรอบของการแสดงออกทางความคิดทางการเมือง

เมื่อถามว่า อยากจะขอร้องอะไรกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อให้เห็นกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ  พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า

ทั้งแกนนำ และกลุ่มผู้ชุมนุม และประชาชนที่เดินทางมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ถ้ามีการปลุกเร้าและทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้น หรือตัวกลุ่มผู้ชุมนุมเอง ก็เป็นเรื่องที่น่าจะหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดขึ้น เพราะมันไม่ได้เป็นผลดีกับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ชุมนุม หรือสังคมโดยรวม

เมื่อถามต่อว่า หากสถานการณ์เกิดความรุนแรง กองทัพจะต้องถูกบังคับให้ออกมาตัดสินใจเหมือนกับคมช. พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอย่างหนักแน่น ว่า ไม่มีอย่างแน่นอน ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายที่สุดแค่ไหนอย่างไร ก็จะใช้มาตราการทางกฎหมาย ไม่มีการใช้อำนาจอื่น

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า

ตามสถานการณ์แล้ว รวมถึงนายกฯเองก็ได้มอบนโยบายว่าไม่มีแนวความคิดที่จะใช้ เพราะเชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่น่าจะมีอะไรที่รุนแรง ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงที่ไปล้อมขบวนรถนายกฯ ที่พัทยานั้น ตนไม่ทราบ