มาร์คถกด่วน4ทัพ แถลงทีวี 2พันตร.ล้อมบ้านป๋า


"มาร์ค"เครียดม็อบแดงชุมนุมใหญ่กดดันป๋า ถกด่วนผบ.เหล่าทัพ-ผบ.ตร.-รมว.กลาโหม และหน่วยงานด้านความมั่นคงก่อนจะออกทีวีแถลงยืนยันจะไม่ใช้ความรุนแรง แต่ยอมไม่ได้เช่นกันถ้าพาดพิงองคมนตรี-สถาบัน เผยใช้ตำรวจ 15 กองร้อย 2,250 นายล้อมบ้าน สี่เสา คุ้มกันป๋าเปรม

ขณะเดียวกันก็เตรียมทหารป้องกันหวั่นเลียนพฤติกรรมพันธมิตรบุกยึดสนามบิน อดีตคมช.-กลุ่ม40 ส.ว.ออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อต้านม็อบเสื้อแดง พร้อมตั้งเงินค่าหัว 1 ล้านบาทถ้าจับทักษิณมาดำเนินคดีได้

เตือนรบ.อย่ารุนแรงกับเสื้อแดง

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายปริญญา เทวานฤมิตร กุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในรายการทีวีถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมือนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรช่วงเริ่มต้น ปีที่แล้ว นำมาซึ่งการชุมนุมต่อเนื่องเพื่อขับไล่รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์การชุมนุมใหญ่วันที่ 8 เม.ย.จะเกิดเหตุรุนแรงหรือไม่ นาย ปริญญา กล่าวว่า รัฐบาลต้องหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงไปจัดการผู้ชุมนุมเสื้อแดง รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเห็นบทเรียน โดยเฉพาะ การใช้แก๊สน้ำตา ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะผลที่เกิดขึ้นจะเพิ่มพลังให้ผู้ชุมนุม เช่นเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ต.ค.รัฐบาลไม่ควรใช้วิธีการนั้น

เมื่อถามว่า มีปัจจัยอื่นที่จะทำให้การชุมนุมรุนแรงหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่าความรุนแรงจะไม่เกิดเพราะผู้ชุมนุมและรัฐบาลต่างยืนยันไม่ใช้ความรุนแรง เชื่อว่าน่าจะพอประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านไปได้ รัฐบาลเป็นเหมือนมวย ฟุตเวิร์กหนีไปเรื่อยๆ แต่แก้ปัญหาไม่ได้ เดินหน้าไปต่อไม่ได้ ซึ่งจะอยู่กันแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน หากรัฐบาลล้มไป นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศลาออก หรือ ยุบสภาแล้ว พรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล กลุ่มเสื้อเหลืองจะออกมาล้อมทำเนียบแบบนี้หรือไม่ บ้านเมืองก็ไปไม่รอด สถานการณ์ขณะนี้กองทัพต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะจะทำให้ปัญหาหนักขึ้น

ใช้สภาแก้รธน.ดีกว่าพระปกเกล้า

นายปริญญากล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาขณะนี้ แยกเป็น 3 ปม คือ 1.คดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาทิ คดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก โทษจำคุก 2 ปี และยังมีอยู่อีก 4-5 คดีที่กำลังจะขึ้นศาล 2.การยกเลิกคำตัดสินของศาลในการตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน และ 3.การเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายปริญญากล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าทั้ง 3 ประเด็นนั้น มีความเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณเพียงประเด็นเดียว คือ ในประเด็นแรก ส่วนประเด็นที่ 2 นั้น ตนเห็นว่าควรจะให้สิทธิ์อดีตกรรมการบริหารพรรคที่จะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคืนสิทธิ์ทางการเมืองให้ และประเด็นที่ 3 เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับสภา ดังนั้น จึงควรให้สภาเป็นผู้ทำหน้าที่ตัดสินใจเรื่องดังกล่าว

"ที่รัฐบาลมอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้าดำเนินการในเรื่องนี้ และระบุว่าจะต้องดำเนินการเป็นเวลานานถึง 8 เดือน ผมเห็นว่าระยะเวลาที่ช้าเกินไป ดังนั้น ในข้อเรียกร้องต่างๆ ทั้งหมด 3 ประเด็น ผมอยากจะเสนอให้พูดโดยจะต้องแยกประเด็นพูดคุย ไม่ควรที่จะต้องนำมารวมกัน"นายปริญญากล่าว

ระบุเป็นการเคลื่อนไหวประชาชน

นายปริญญากล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.ว่า คิดว่าในช่วงการชุมนุมในวันดังกล่าวถือว่าเป็นช่วงที่คาบเกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้น หากการชุมนุมไม่จบในช่วงวันดังกล่าว การที่จะดึงผู้ชุมนุมเอาไว้ต่ออาจจะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม หากการชุมนุมในช่วงดังกล่าวหากไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น และถ้ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ได้ เรื่องทั้งหมดก็คงจะยุติ ตนมีความเชื่อว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมคงจะต้องมีมาตรการที่กดดันรัฐบาลออกมาใช้ ซึ่งเราอย่าลืมว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมอาเซียนซัมมิต ครั้งที่ 2 ที่พัทยา ซึ่งหากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมการชุมนุมได้ ก็จะส่งผลเสียต่อภาพพจน์ของรัฐบาลด้วย

นายปริญญา กล่าวต่อว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าหากการชุมนุมเกิดจากการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีส.ส.หรือฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องก็น่าจะดี แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นเวลานี้ คือ มีส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นเวทีการปราศรัย และยังมีข่าวออกมาว่าจะให้ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยนำประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมในวันที่ 8 เม.ย. โดยได้มีการแจกงบฯ ให้ส.ส.คนละ 2 แสนบาทในการพาประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุม

วันเดียวกัน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าจะมีผู้มากบารมีออกมาปรากฏตัวแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งในชาติ ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ตามที่ตนได้ออกมาเปิดเผยเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน แต่ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวถือเป็นความลับ เมื่อถามว่าบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ในด้านใด รวมทั้งจะทำให้ทุกฝ่ายที่กำลังขัดแย้งกันอยู่ในขณะนี้ ยุติความเคลื่อนไหวได้หรือไม่นั้น นายชัย กล่าวว่า ตนไม่ค่อยสบาย คงไม่สะดวกที่จะพูดคุยในประเด็นนี้ได้

แจ้งจับบิ๊กเสือแล้ว-เจ้าตัวลั่นสู้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 เม.ย.ที่สน. พระราชวัง นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความ พ.ต.ท. ทักษิณ เข้าแจ้งความพล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี หมิ่นประมาทพ.ต.ท.ทักษิณ จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมหลักฐานเอกสารหนังสือพิมพ์หลายฉบับที่ตีพิมพ์ และแผ่นวีซีดีที่บันทึกภาพเสียงการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.พิจิตร กรณีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคิดล้มล้างสถาบันเละนำเงินไปฟอกที่เกาะเคย์แมน

นายวิชิตกล่าวว่า คำกล่าวหาของ พล.อ.พิจิตร ไม่เป็นความจริง จึงได้รวบรวมคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.พิจิตร ในหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน และหากตำรวจดำเนินคดีล่าช้า จะยื่นฟ้องศาลอาญาเพิ่มอีกคดี

ด้านพล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกหวั่นวิตกหลังมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะฟ้องร้องตนเองฐานหมิ่นประ มาท เนื่องจากมั่นใจว่าสิ่งที่ตนเองพูด ทั้งเรื่องการที่พ.ต.ท.ทักษิณจ้องล้มสถาบันและการฟอกเงินที่เกาะเคย์แมน ล้วนแต่เป็นความจริง โดยเฉพาะในประเด็นการฟอกเงินที่เกาะเคย์แมนนั้น ตนพร้อมจะเชิญนายราล์ฟ บอยซ์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่เป็นผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวกับตนมาร่วมเปิดเผยรายละเอียดด้วย

"มาร์ค"เครียดเรียกถกทหาร-ตร.

เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงกลาโหม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง อาทิ กระทรวงกลา โหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบ.เหล่าทัพ ผบช.น. และมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย อาทิ นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคง นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมทั้งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ปลัดกระทรวงกลาโหมและปลัดกระทรวงมหาดไทย คาดว่าจะหารือถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.นี้

จากนั้นเวลา 15.30 น. ภายหลังการหารือนาน 2 ชั่วโมง นายสาทิตย์ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมหารือกันหลายประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ โดยนายกฯกำชับให้กรมประชาสัมพันธ์เตรียมพร้อมทำความเข้าใจกับประชาชน เป็นการเตรียมการไว้เพื่อความรอบคอบเพื่อจะต้องชี้แจง หรือให้บริการประชาชนในวันที่อาจเกิดปัญหารถติด หรือการจราจรมีปัญหา พยายามเตรียมการทุกฝ่ายให้รอบคอบเท่านั้น ซึ่งนายกฯได้กำชับตนให้ทำความเข้าใจ หากเกิดมีสถานการณ์หรือมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น เรามีหน้าที่ชี้แจง เป็นการเตรียมการตามปกติ ไม่ใช่เพราะประเมินว่าสถานการณ์การชุมนุมจะรุนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการหารือนาน 2 ชั่วโมง ไม่ว่านายสุเทพ หรือผบ.เหล่าทัพ รวมทั้งผบช.น.ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยต่างระบุตรงกันว่า นายกฯจะเป็นผู้ชี้แจงเรื่องนี้เอง

จับหนุ่มใหญ่แจกเอกสารหมิ่น

เวลา 10.00 น. วันที่ 6 เม.ย. ที่บริเวณหลังเวทีปราศรัยใหญ่ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงบริเวณทำเนียบรัฐบาล นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มเสื้อแดงได้รับรายงานว่า บริเวณท้องสนามหลวงมีการเกณฑ์ชายฉกรรจ์ประมาณ 700 คน มารวมตัว เพื่อแสดงพลังต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง ตรวจสอบทราบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นทหารจาก 3 เหล่าทัพ ซึ่งออกเวร และได้รับคำสั่งผู้บังคับบัญชาให้มารวมตัวที่สนามหลวง โดยให้สวมเสื้อสีขาว ซึ่งมีการจัดเวทีแสดงคอนเสิร์ต แต่การรวมตัวไม่ได้ระบุภารกิจและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนทำให้ทหารบางหน่วยเริ่มสลายตัว อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มเสื้อขาวไม่ติดอาวุธ และไม่เคลื่อนตัวมาสร้างปัญหา กลุ่มเสื้อแดงจะไม่ตอบโต้ แต่อยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาขอทหารกลุ่มดังกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์คนมาแสดงพลังต่อต้านเสื้อแดง การกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างภาพ ไม่สง่างาม และอาจเป็นเหตุนำพาไปสู่ความรุนแรงได้

นายก่อแก้ว กล่าวว่า ช่วงเช้าการ์ดเสื้อแดง ได้ควบคุมตัวนายวันชัย แซ่ตัน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/9 ถ.คชสาร ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะยืนแจกเอกสารที่มีข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูงให้ผู้ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ตนไม่อยากให้การชุมนุมของเสื้อแดงถูกป้ายสีว่า คนเสื้อแดงไม่จงรักภักดี และเป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้างนำไปเป็นข้ออ้างโจมตี เราได้ประสานให้ตำรวจสน.ดุสิตมารับตัว เพื่อสืบสวนสอบสวน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ย้ำโค่นระบอบอำมาตย์-ป๋าเปรม

ต่อมาเวลา 10.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า การชุมนุมในวันที่ 6-7 เม.ย. เสื้อแดงจะเน้นรณรงค์ให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมครั้งใหญ่ เพื่อโค่นล้มพล.อ.เปรม ติณ สูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และระบอบอำมาตยาธิปไตย ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญกว่า การขับไล่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะงดวิดีโอลิงก์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการเดินทาง แต่วันที่ 7 และ 8 เม.ย. จะพูดผ่านวิดีโอลิงก์ตามปกติ นอกจากนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะดาวกระจายเป็นกลุ่มย่อย จะไม่ใช้รถขยายเสียงขนาดใหญ่ไปตามสถานที่ราชการ แต่จะใช้รถกระบะขับไปยังชุมชน เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย

นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงพล.อ.เปรม ระบุกลุ่มเสื้อแดงวิจารณ์บุคคลใกล้ชิดสถาบันถือเป็นการบั่นทอนสถาบันเบื้องสูงว่า ผู้ทำงานใกล้ชิดสถาบันจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงมีความเคารพและศรัทธา สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชา ธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตนขอฝากไปยังพล.อ.เปรมว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่เคยคิดจะโค่นล้มสถาบันตามที่ถูกกล่าวหา หากเราไม่จงรักภักดีคงไม่สามารถชุมนุมได้ต่อเนื่อง สิ่งที่ยืนยันคือจำนวนผู้ชุมนุมที่มากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. จึงขอท้าให้มาพิสูจน์ได้ในการชุมนุมวันนี้ได้ จะทราบว่าขณะนี้มีประชาชนในกทม.สนใจและเข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้นการชุมนุมใหญ่ในครั้งนี้ จะมีประชาชนทุกกลุ่ม ตั้งแต่รากหญ้า ชนชั้นกลาง รวมถึงชนชั้นสูงมาร่วมจำนวนมาก

"เสื้อแดงต้องการเพียงโค่นอำนาจอำมาตย์ ที่พล.อ.เปรมยึดครองอยู่ เราจะไม่ทำสูงหรือต่ำไปกว่านั้น และไม่มีเป้าหมายจะยึดครองอำนาจนอกเหนือกติกาประชาธิปไตย รวมทั้งไม่มีเป้าหมายเพื่อสร้างฐานอำนาจให้พ.ต.ท.ทักษิณ หากพ.ต.ท. ทักษิณ จะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ต้องพิสูจน์ตัวเองทุกข้อกล่าวหา และต้องได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนผ่านกระบวนการการเลือกตั้ง เรายืนยันว่าไม่ได้เคลื่อนไหว เพื่อสนองตัณหาของใคร ทั้งที่มีความพร้อมมากกว่าพันธมิตรฯ จะนำมวลชนมาปิดล้อมศาลากลางทุกจังหวัดพร้อมกันได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมง แต่ไม่อยากทำ เพราะไม่อยากสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง แต่หากมีกระบวนการที่มาขัดขวางการชุมนุมของเสื้อแดง เราจะให้มาตรการขั้นเด็ดขาดทันที" นายณัฐวุฒิ กล่าว

หลักฐานชัด-เบื้องหลัง 19 ก.ย.

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนขอตั้งคำถามย้อนกลับไปยังพล.อ.เปรมว่า การกล่าวหาว่าการวิจารณ์บุคคลที่ทำงานใกล้ชิดเบื้องสูง เป็นการล้มล้างสถาบัน คงสรุปอย่างนั้นไม่ได้ เพราะไม่เป็นความจริง แต่ในทางกลับกัน บุคคลที่ใกล้ชิดแต่ประพฤติตนไม่ดี ไม่ทำตามกฎหมาย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ การที่องคมนตรี ประธานองคมนตรี เข้าไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงการเมือง อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 19 ก.ย.2549 ถือเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย


"เหตุการณ์ 19 ก.ย.กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้กุเรื่องขึ้นมา แต่เกิดจากคนเสื้อเหลืองเป็นคนพูดว่าพวกท่านอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร ตรงนี้ตรวจสอบได้ เรามีหลักฐานชัดเจนทั้งองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และประธานมูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริษัทแปซิฟิค คอร์ปอเรชั่น กำจัด รวมถึงแวดวงตุลาการ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาล เพียงเพื่อสนับสนุนรัฐบาลหนึ่ง แต่ไม่สนับสนุนอีกรัฐบาลหนึ่ง ถือเป็นการแทรกแซงหรือไม่ เป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่ เมื่อทำตัวไม่เหมาะสมก็ต้องถูกวิจารณ์" นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่าระบอบ อำมาตยาธิปไตยอยู่คู่กับระบบอุปถัมภ์ เป็นการการเมืองแบบงูกินหางมีพฤติกรรมอาศัย และแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อรักษาสถานะของตนเอง ที่ผ่านมาพล.อ.เปรม อ้างมาตลอดว่าทำเพื่อประชาชน แต่ประชาชนไม่เคยได้ประโยชน์ จากการกระทำของพล.อ.เปรมเลย โดยเฉพาะการยึดอำนาจ แต่กลุ่มการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ได้ผลประโยชน์จากพล.อ.เปรม จึงเป็นผลให้พรรคประชาธิปัตย์ออกมาปกป้องพล.อ.เปรมอย่างถึงที่สุด

เย้ยปชป.กลัวกระทั่งเงา

นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ว่า การที่ทีมโฆษกประชาธิปัตย์ นำใบเสร็จค่าใช้จ่ายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงมาแสดง ซึ่งไม่รู้นำมาจากที่ใด เป็นเกมการเมืองเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มเสื้อแดง ยืนยันว่าไม่มี ผู้ชุมนุมคนใดได้รับเงินค่าจ้าง ค่าตอบแทน ในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เป็นการเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการโจมตีกลุ่มคนเสื้อแดง ถือเป็นวิธีที่แสดงออกถึงความเขลาทางปัญญา และทางการเมือง ซึ่งตนไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปเอาใบเสร็จอะไรมาจากไหน แต่เป็นวิธีที่พรรคประชาธิปัตย์ถนัด และเคยทำมาก่อน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคประชาธิ ปัตย์ออกอาการชัดเจน เริ่มกลัวเงา และทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะกรณีที่ออกมาตีกันการเข้าสู่การเมืองของนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่กลุ่มเสื้อแดงไม่เคยพาดพิงถึงนายสุรบถ หลีกภัย ลูกชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หรือลูกหลานของนักการเมืองพรรคอื่น ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะไม่มีผลให้พรรคประชาธิปัตย์แข็งแกร่งทางการเมือง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ควรสงบสติอารมณ์ให้ดี

"มาร์ค"รับชี้แจงแทนไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันเกิดครบรอบปีที่ 63 ของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยสภาที่ปรึกษาพรรค กรรมการบริหารพรรค ส.ส.และสมาชิกได้ร่วมประกอบพิธีทางศาสนาอาทิ พุทธ อิสลาม และทำพิธีสักการะ บวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 150 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบที่ทำการพรรค เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าคนกลุ่มเสื้อแดงจะดาวกระจายมาปิดล้อมที่ทำการพรรค

เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ ถึงองคมนตรีเป็นห่วงที่สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตีองคมนตรี อาจบั่นทอนสถาบันด้วยว่า การปราศรัย ต่างๆของพ.ต.ท.ทักษิณถูกรวบรวมไว้ทั้งหมด และให้เจ้าหน้าที่นำข้อกฎหมายมาดู และจะดำเนินการ

เมื่อถามว่าขณะนี้ถูกวิจารณ์ว่ารัฐบาลปกป้องสถาบันน้อยเกินไป จนองคมนตรีต้องออกมาเปลืองตัว นายกฯ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าส่วนหนึ่งเราจะรักษากฎหมาย ซึ่งตนพูดหลายครั้งแล้วว่าไม่เหมาะสมที่ดึงองคมนตรีมาสู่ความขัดแย้งทางการเมือง แต่การพาดพิงโดยตรงนั้น ผู้ที่ถูกพาดพิงต้องออกมาชี้แจง ซึ่งองคมนตรีได้ชี้แจงแบบผู้ใหญ่ รัฐบาลจะชี้แจงแทนท่านคงยาก เพราะอยู่ดีๆมีการกล่าวหาว่าเกิดเหตุการณ์นั้นเหตุการณ์นี้ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้เข้าไปอยู่ในนั้น แต่ด้วยความเชื่อมั่นและดูจากประวัติการทำงานขององคมนตรี เรามั่นใจว่าท่านไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่จะให้ชี้แจงแทนก็กระไรอยู่ เพียงแต่เราเชื่อมั่นว่าท่านเหล่านี้ได้ดำรงสถานะ และทำหน้าที่ตามกรอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งความน่าเชื่อถือ ความจริง มันเทียบกันไม่ได้อยู่แล้วกับผู้พูด และถ้ามีการ ละเมิดกฎหมาย รัฐบาลจะดำเนินการต่อไป

โต้ลั่นไม่ได้อยู่เพื่อเอาตัวรอด

เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ยังสรุปไม่ได้หรือว่าละเมิดกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการสรุปมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ตนดูว่ายังมีช่องโหว่อยู่ เดี๋ยวจะมาต่อว่าต่อขานกัน เพราะหลายเรื่องที่ผ่านมา เมื่อถึงชั้นอัยการแล้วสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งไปทบทวนดูจากการทำสำนวนในอดีตก่อนรัฐบาลนี้เข้ามา เห็นได้ชัดว่า มันมีจุดอ่อนให้อัยการทักท้วงได้ ซึ่งตรงนี้ยังเป็นปัญหา และถ้าเราทำอีกก็จะเป็นปัญหาอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่ากว่ารัฐบาลจะได้ข้อสรุปการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงอาจยกเลิกไปแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ไม่ช้า หากการชุมนุมยกเลิกไปก็จบ แต่คดียังมีอยู่ เมื่อถามว่าขณะนี้กลายเป็นว่ารัฐบาลคำนึงถึงความอยู่รอดของตัวเองจนไม่กล้าจะ ทำอะไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่จริง ถ้ารัฐบาลไม่สามารถปกป้องสถาบันหลักของชาติได้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ และไม่ควรจะอยู่ด้วย แต่การปกป้องต้องทำด้วยความรัดกุม ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลย แต่จะดูแลให้มีความรัดกุมและเดินไปอย่างดีที่สุด ขอย้ำว่าไม่ต้องการให้เกิดปัญหาได้ว่ารัฐบาลนี้ไปทำอะไรเหนือกฎหมาย เพราะวิกฤตบ้านเมืองขณะนี้ เกิดจากในอดีตที่มีคนมีอำนาจแล้วทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย จนถึงขณะนี้ยังอยู่ในวิสัยที่รัฐบาลดูแลทั้งหมดได้

เมื่อถามว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างที่เขาตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่คิดอย่างนั้น เพราะขณะนี้ประชาชน ส่วนใหญ่เข้าใจดีว่าสถานการณ์เป็นความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ของคนของกลุ่มส่วนหนึ่งเข้ามาแทรก ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องประชาธิปไตยไม่ใช่เงื่อนไข เพราะรัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธ รัฐบาลพร้อมจะแก้ไขปัญหานี้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องมีกระบวนการที่ให้ความเป็นธรรม และให้เสียง กับทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเราควบคุมสถานการณ์ได้ ทำงานต่อไปได้ ไม่ทำให้เกิดความรุนแรง ความสูญเสีย ซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

ซัดม็อบเร่งสถานการณ์เดือด

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเกิดเหตุที่ควบคุมไม่ได้หรือฉุกเฉินขึ้น รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างจะทำให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลได้ใช้ความระมัดระวัง และไม่เป็นผู้ริ เริ่มความรุนแรง หรือยั่วยุใดๆ แต่ถ้ามีการกระทำผิดกฎหมายและรักษากฎหมายเกิดผลข้างเคียง จะต้องอธิบายได้ชัดเจนว่าไม่ใช่เจตนา และจะทำให้โปร่งใสเพราะเราไม่ต้องการย้อนรอยอดีต

ต่อข้อถามว่ารัฐบาลชี้แจงน้อยเกินไปหรือไม่ เพราะยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเข้าร่วมการชุมนุม นายกฯ กล่าวว่า มีเสียงต่อว่าเข้ามามากว่ารัฐบาลชี้แจงน้อย จะพยายามชี้แจงให้มากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯคงไม่ได้หมายความว่าหากมีความรุนแรงเกิดขึ้นแล้วรัฐบาลจะรับผิดชอบโดยการออก นายกฯ กล่าวว่า ต้องรู้ว่าความรุนแรงเกิดขึ้นจากใคร ไม่อย่างนั้นใครมาใช้ความรุนแรงแล้วก็โยนมาที่รัฐบาลคงไม่ได้ แต่ทุกอย่างจะทำอย่างโปร่งใสให้ชัดเจน

เมื่อถามว่ากลุ่มคนเสื้อแดงระบุหากเกิดความรุนแรงขึ้น รัฐบาลจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปไม่ได้ นายกฯ กล่าวว่า นั่นเป็นเป้าหมายของเขามาตลอด พยายามให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็หลีกเลี่ยง

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงวันที่ 8 เม.ย.แล้วรัฐบาลสกัดกั้น อาจเกิดสงครามกลางเมือง นายกฯ กล่าวว่า ประชาชนมองย้อนกลับไปเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาว่ารัฐบาลทำในลักษณะนั้นหรือไม่ ซึ่งไม่มีเลย ดังนั้น จุด ยืนรัฐบาลเหมือนเดิม และไม่ว่าจะถูกยั่วยุอย่างไร ก็จะระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎ หมายและกระทบต่อความมั่นคง เมื่อถามว่าหลังสงกรานต์สถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่เขากำลังพยายามเร่งสถานการณ์อยู่ เราจะพยายามคลี่คลายตรงนี้ไป และหลังจากนี้น่าจะดีขึ้น

"กษิต"ฮึ่มเขมร-เตือนอย่ารักทักษิณ

ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้กล่าวชี้แจงกับชาวมุสลิมตอนหนึ่งว่า รู้สึกไม่สบายใจที่มีบางประเทศยอมให้พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เป็นฐานเวทีโจมตีประเทศไทย ซึ่งกำลังตรวจสอบข้อมูลว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่ในกัมพูชาจริงหรือไม่ หากเขารักพ.ต.ท.ทักษิณมาก ก็คงมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับประเทศไทยแน่นอน ซึ่งหลายประเทศมีข้อตกลงในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย เราต้องบอกกล่าวไป แต่การทำเรื่องขอตัวเป็นเรื่องสำนักงานอัยการสูงสุด ที่จะแจ้งมายังกระทรวงการต่างประเทศให้ดำเนินการ และเราจะทำกับพ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนนักโทษที่หนีคดีคนอื่นๆ ในส่วนประเทศที่ไม่มีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดน อย่างดูไบ บาห์เรน หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้สั่งการให้ทูตแจ้งถึงสถานะของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นบุคคลที่มีปัญหาต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างไร ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากหลายประเทศที่ไม่ยอมเปิดประเทศให้พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ใช้เวทีของประเทศเขามาถล่มไทย

รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้แจ้งไปยังกลุ่มประเทศละตินอเมริกา อาหรับและแอฟริกาด้วย โดยวันพุธที่ 8 เม.ย.นี้ ได้เชิญทูตจากประเทศทั่วโลกหารือที่กระทรวงการต่าง ประเทศ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจถึงกระบวนการยุติธรรมของไทยว่ากำลังรอดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรบ้าง สำคัญคืออยากให้ประเทศที่ยังไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณมา โดยไม่มีข้อตกลงดังกล่าวก็ได้

บ้อท่าล่าพาสปอร์ต-ให้ส่งคืน

ส่วนการเพิกถอนหนังสือเดินทางของพ.ต.ท. ทักษิณนั้น นายกษิต กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำเรื่องหารือกับกฤษฎีกาไป 5 เดือนแล้วก่อนจะรับตำแหน่ง ล่าสุด กฤษฎีกาได้เชิญเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเข้าหารือซึ่งตนรอให้เขาส่งเรื่องกลับมาอยู่เพื่อดำเนินการในทันที ถ้าเป็นอำนาจของกระทรวงการต่างประเทศ ถ้าจะให้ตัดสินใจในวันนี้ก็ทำได้เลย แต่ต้องเป็น การสร้างบรรทัดฐานของกฎหมายเพื่อที่จะปฏิบัติต่อพ.ต.ท.ทักษิณให้เหมือนคนอื่น ตนจะนำเรื่องนี้ปรึกษานายกฯเพื่อนำเรื่องเข้าหารือต่อที่ประชุม ครม.เพื่อขอความเห็นร่วมกัน แต่ที่ง่ายที่สุดคือไม่ต้องทำอะไรมาก แค่พ.ต.ท.ทักษิณส่งหนังสือเดิน ทางกลับคืนมาเท่านั้น ตนยินดีออกค่าใช้จ่ายในการส่งเอกสารกลับคืนมา ดังนั้นถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากเป็นพลเมืองดีต้องส่งหนังสือเดินทางกลับมา

นายกษิต กล่าวว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะถือหนังสือเดินทางของประเทศอื่น ก็ต้องเป็นบุคคล 2 สัญชาติ ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะสละสัญชาติได้หรือไม่ เมื่อถามว่ากรณีที่ระบุว่าหากประเทศใดให้ที่อยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องมีปัญหาความสัมพันธ์กับไทยหมายความว่าอย่างไร นายกษิต กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเหมือนองค์ทะไลลามะมีปัญหากับทางการจีน โดยทางการจีนไม่อยากให้ประเทศอื่นอนุญาตให้องค์ทะไลลามะ ใช้เป็นเวทีโจมตีเขาเหมือนกับเราเช่นกัน

เมื่อถามว่าหากทราบข้อมูลชัดว่าพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในกัมพูชาจริงจะทำหนังสือประท้วงหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า จะประท้วงไปทำไม ส่วนจะดำเนินการอย่างไรก็คงต้องดูกันต่อไป

เทือกเย้ยม็อบจะฝ่อไปเอง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์อย่างต่อเนื่องว่าตนไม่กังวลใจ ขณะที่พ.ต.ท. ทักษิณปลุกคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวจาบจ้วงองคมนตรี ซึ่งทำให้เสียภาพพจน์ของประเทศ เสียความรู้สึกของคนไทยและเราไม่อยากให้คนไทยมีพฤติกรรมแบบนี้ เชื่อว่าในที่สุดคนส่วนใหญ่ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจน แต่คนจำนวนไม่กี่หมื่นคนในเสื้อแดงจะฝ่อไปเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าเนื้อหาการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทบความมั่นคงของชาติหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามป้องกันเรื่องนี้อยู่ มีคำสั่งให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ไปประชุมและชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจข้อเท็จจริง เราไม่ได้ทำเพื่อความมั่นคงของรัฐบาล แต่เราดูแลความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ข้าราชการทุกกระทรวงทบวงกรม ต้องชี้แจงผู้ใต้บังคับบัญชา ครอบครัว ให้ทราบข้อเท็จจริง อย่าตกเป็นเหยื่อจากการยุยงปลุกปั่น

เมื่อถามว่าการชุมนุมใหญ่วันที่ 8 เม.ย. คิดว่าจะมีพลังอะไรมาทำให้สถานการณ์แตกหักอย่างที่พ.ต.ท.ทักษิณคิดหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดจายั่วยุท้าทาย แต่ตนมั่นใจในความเป็นคนไทยในความรักความสามัคคี ไม่มีใครจะมาเปลี่ยนแปลงได้ ที่คิดจะโค่นล้มระบบการปกครอง เปลี่ยนรูปแบบการปกครองใหม่ มันเป็นไปไม่ได้ คนเหล่านั้นเพ้อฝันไป คนไทยไม่ยอม เรายอมรับในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข


แค่คนส่วนน้อยเทียบกับ 60 ล้าน

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะดูแลอย่างไร จะไม่ให้ยั่วยุจนเกิดความรุนแรงขึ้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรายืนยันจะปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย จะไม่ใช้ความรุนแรง แม้ผู้ชุมนุมจะยั่วยุอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะตื่นตัวอยู่เสมอ จะคอยเฝ้าระวัง ใช้กำลังดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ พร้อมดูแลให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ทำผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่าได้วิเคราะห์หรือไม่ว่าการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นไปตามแผนตากสิน รัฐบาลเตรียมตั้งรับอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า หากเมื่อก่อนเราไม่รู้ว่าแผนตากสินจะเป็นจริงหรือไม่จริงอย่างไร แต่เมื่อสื่อเปิดเผยเรื่องแผนตากสิน และได้ติดตามพฤติกรรม พบว่าสอดคล้องกับแผนตากสิน ดังนั้นรัฐบาลได้ให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษ และติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด

เมื่อถามว่าคิดว่าหลังเทศกาลสงกรานต์ ปัญหาจะยุติหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อยู่ที่ผู้ชุมนุม เราไม่ได้ใช้วิธีการปราบปราม เราพยายามดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง

เมื่อถามว่าคิดว่าจะซ้ำรอยพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกฯหรือไม่ ที่ ไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องคนส่วนน้อยจริงๆจะมีกี่หมื่นก็แล้วแต่ หากเปรียบเทียบกับคน 60 กว่าล้านคน มันคนละอย่างกัน

บุญจงสั่งเครือข่ายมท.สกัดม็อบ

เวลา 09.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดว่า ตนได้รับรายงานจากผู้ว่าฯเป็นระยะว่ามีการเชิญชวนประชาชนทุกที่ให้มาร่วมชุมนุมในวันที่ 8 เม.ย. โดยใช้วิธีการพูดปลุกระดมในพื้นที่ มีเนื้อหาเรียกร้องจะล้มล้างระบอบอำมาตยาธิปไตย เรียกร้องระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ทั้งนี้ ตนมอบหมายให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าการมาร่วมชุมนุมจะเพิ่มความวุ่นวาย และจะเกิดผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ ยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยจะใช้วิธีการไม่สกัดกั้น เพราะมองว่าเป็นการแสดง ออกของประชาชน

เมื่อถามว่าวันที่ 8 เม.ย. จะมีผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาในกทม. นายบุญจง กล่าวว่า หากมาเข้ามาชุมนุมแล้วทำตามกติกา ตามกฎ หมายก็ไม่น่าห่วง ทั้งนี้ รัฐบาลจะพูดคุยกับผู้ชุม นุม เพราะคนเสื้อแดงก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ไม่คิดจะทำให้เกิดความรุนแรง และเสียเลือดเสียเนื้อ เชื่อว่าทุกคนก็อยากให้ประเทศสงบเรียบร้อย การเคลื่อนไหวขณะนี้ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่ทำให้ประเทศเดือดร้อน ส่วนการยุบสภาก็ไม่ใช่ทางเลือก เพราะรัฐบาลมาจากประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าคาดว่าการชุมนุมวันที่ 8 เม.ย.จะถึงขั้นแตกหักหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น รัฐบาลมั่นใจ คนไทยต้องการเห็นประเทศสงบ การแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพ รัฐบาลมีหน้าที่สื่อสารข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะบางครั้งประชาชนฟังข่าวสารด้านเดียวทำให้เกิดปัญหา

แฉมท.เกณฑ์ผญบ.-กำนันโอ๋"ป๋า"

วันเดียวกัน นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่วันที่ 8 เม.ย.นี้ว่า ผู้คนที่ต้องการประชาธิปไตยจะลุกขึ้นทวงสิทธิ์การต่อสู้จะจบลงเมื่อไหร่ไม่มีใครตอบได้ แต่กระแสสังคมจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าจะแตกหักในเดือนนี้ จะก่อนหรือหลังสงกรานต์ขึ้นอยู่กับพลังของประชาชน จะขับเคลื่อน เพราะวันนี้อำนาจรัฐ อำนาจทุน อำนาจปืนอยู่มือของรัฐบาล ใครทุกคนที่ร่วมกระทำย่ำยีประชาธิปไตย และประเทศต้องรับผิดชอบ

นายศักดา กล่าวว่า การที่กระทรวงมหาดไทย สั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ให้สั่งนายอำเภอเกณฑ์กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนใน 19 จังหวัดในภาคอีสาน เพื่อไปให้กำลังใจพล.อ.เปรม ที่บ้านพักไร้กังวล จ.นครราชสีมา ตนทราบว่ามีกำนันผู้ใหญ่บ้านจำนวนมากไม่อยากเข้ามา และพร้อมให้ถูกลงโทษ เพราะกลัวว่าหากมาแล้วจะกลับบ้านไม่ได้ถูกชาวบ้านขับไล่ จึงอยากท้าให้ตำรวจสันติบาล และกอ.รมน.เข้าไปเช็กในพื้นที่ในอีสานได้ว่าส่วนลึกๆว่าเขารักหรือรังเกียจพล.อ. เปรม มากแค่ไหน

"วันนี้มีข้าราชการฝ่ายปกครอง รวมถึงตำรวจ ทหาร ในภาคอีสานและภาคเหนือ ต่างถอดเสื้อมาเข้าร่วมกับเสื้อแดงถึง 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว จากนี้ไปให้จับตาดูการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เพราะมั่นใจว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน ผู้ที่ใช้อำนาจไม่ถูกต้องจะอยู่ไม่ได้" นายศักดา กล่าว

เชียงใหม่คึก-ใช้เช็คสมทบม็อบ

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มีตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารวม ตัวกันจำนวน 16 กลุ่ม เปิดแถลงข่าวเรื่องการ เตรียมตัวเดินทางเข้าไปสมทบกลุ่มนปช.ที่กรุง เทพฯ พร้อมกับนำเช็คช่วยชาติที่กลุ่มเสื้อแดงบางคนที่ได้รับแจกมาโชว์ในการแถลง โดยบอกว่าจะนำไปแลกเป็นเงินสดเป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างเดินทางไปร่วมชุมนุม

นายเจริญ ปัญญาวงศ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236/12 ถ.วัวลาย ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ตัวแทนกลุ่มเสื้อแดงได้นำเช็คช่วยชาติออกมาโชว์ผู้สื่อข่าวพร้อมกับได้นำเช็คช่วยชาติดังกล่าวไปแลกเป็นเงินสด ยังจุดบริการแลกเป็นเงินสดที่ทางศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดเตรียมไว้

ด้านแกนนำกลุ่มเสื้อแดงภาคเหนือ ได้เปิดเผยว่าสำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงภาคเหนือนั้นจะได้ไปเจอกันระหว่างทาง โดยจุดเริ่มต้นจะอยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยทางจังหวัดเชียง ใหม่จะใช้รถสี่ล้อแดงในการบรรทุกคนออกเดินทางไป ประมาณ 30 คันและไปสมทบกับกลุ่มอำเภอรอบนอกที่จะรอระหว่างทางอีกจำนวนประมาณ 8,000 คนและเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อไปเจอกับกลุ่มลำพูน 51 กลุ่มลำปาง 51 ไล่ไปเรื่อยๆ สมทบเพิ่มคนไปเรื่อยๆ และหากเจอด่านตำรวจสกัดก็จะหยุดปิดถนนปราศรัยยังจุดนั้นจน กว่าทางเจ้าหน้าที่จะปล่อยผ่าน และวันนี้สำหรับเชียงใหม่ จะให้ผู้ที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯมาลงชื่อในช่วงเย็นเพื่อเช็กจำนวนคน และออกเดินทางโดยรถสี่ล้อแดงในช่วงเช้าของวันที่ 7 เม.ย. สำหรับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ทยอยออกเดินทางไปก่อนหน้านั้นแล้วตั้งแต่วันเดียวกันนี้

40ส.ว.-สมเจตน์ตั้งค่าหัวแม้ว

ที่สวนดุสิต กลุ่มสยามสามัคคี ประกอบด้วย ข้าราชการบำนาญ ส.ว. นักวิชาการอิสระ แนวร่วมแพทย์เพื่อประชาธิปไตย และนักธุรกิจ จำนวน 20 คน อาทิ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม พล.อ. ภาษิต สนธิขันธ์ พล.ท.นันทเดช เมฆ สวัสดิ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสมชาย แสวงการ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายวรินทร์ เทียมจรัส นางพรพรรณ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง น.ส.สุมล สุตวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ร่วมกันออกแถลงการณ์ ระบุว่าการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมีเจตนาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ทั้งในทางเปิดเผยและทางลับ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นต่อต้านการกระทำของคนเสื้อแดง

ด้านพล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นภัยร้ายแรงของประเทศ พวกเราจึงมาหาหนทางเรียกร้องให้คนไทยเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเสนอข้อเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ เพื่อไม่ให้ประเทศชาติไปสู่วิกฤต ทั้งนี้ แน่ชัดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด จึงขอตั้งรางวัล 1,000,000 บาทกับผู้ที่นำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ โดยผู้ที่พร้อมจะให้เงินรางวัลคือกลุ่มนักธุรกิจที่เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นภัยร้ายแรงของประเทศชาติ เป็นผู้นำภัยร้ายแรงมาสู่ประชาชนทุกหมู่เหล่า หากนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีได้ เหตุการณ์ทุกอย่างจะยุติได้

กลุ่มสยามสามัคคี ยังได้เสนอให้รัฐบาลใช้สื่อชี้แจงประเด็นที่พ.ต.ท.ทักษิณ บิดเบือน โดยไม่จำเป็นใช้เฉพาะช่อง 11 แต่เป็นสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นด้วย โดยต้องออกแรงทางด้านสื่อให้เข้มข้นมากกว่านี้

ตร.ชี้ยังไม่ชัดแม้วโฟนหมิ่น

ที่บช.น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. ในฐานะโฆษกบช.น. กล่าวถึงกรณีการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงจับกุมชายที่แจกใบปลิว มีข้อความหมิ่นสถาบันว่าได้ควบคุมตัวแจ้งข้อหาหมิ่นสถาบัน และนำส่งพนักงานสอบสวนสน.ดุสิต ดำเนินคดี ซึ่งเรื่องนี้กำชับพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ให้ดูแลและควบคุมสอบสวน เบื้องต้นผู้แจกจ่ายใบปลิวอ้างว่าเขียนขึ้นเอง

เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมรับมือวันที่ 8 เม.ย. ที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินทางมาที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ของพล.อ.เปรมนั้น โฆษกบช.น. กล่าวว่า กำลังปรับแผนเตรียมความพร้อมอยู่ คาดว่าจะมีคนหลายหมื่นคน ขณะนี้ยังรวบรวมยอดอยู่แต่ยังไม่นิ่ง และเตรียมแผนดูแลความเรียบร้อยที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะมา ซึ่งอ้างว่าจะมาชุมนุมอย่างสงบ เราได้ตรวจตราดูแลระวังไม่ให้มือที่ 3 เข้ามาสอดแทรก คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา หากกลุ่มผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

"ส่วนวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณมีพล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ดูแลด้านกฎ หมาย รวบรวมข้อกฎหมายอยู่ หากเข้าองค์ประกอบข้อกฎหมายครบถ้วนก็ดำเนินการได้ในภายหลัง ไม่ต้องรีบดำเนินการ เมื่อครบถ้วนองค์ประกอบเมื่อใดจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมต่อไป ส่วนนี้ยังไม่มีความชัดเจน" พล.ต.ต.สุพร กล่าว

ตร.15 กองร้อย 2,250 ดูแล"ป๋า"

เมื่อถามว่ากลุ่มคนรักแผ่นดินจะมาตั้งเวทีที่สโมสรทบ.เพื่อปกป้องพล.อ.เปรม จะดำเนินการอย่างไร โฆษก บช.น.กล่าวว่า ด้านการข่าวมีอีกกลุ่มหนึ่งคือบุคคลที่มาต่อต้านกลุ่มเสื้อแดง ได้กำหนดแผนและมาตรการรับมือการเผชิญหน้ากัน ยังไม่ทราบว่าจะมาหรือไม่อย่างไร หากมาอาจเกิดปัญหาเรื่องการปะทะกันได้ การประสานงานด้านการข่าว ขอร้องว่าหากไม่มาได้จะเป็นการดี ควรอยู่ห่างไกลกัน ส่วนการดูแลเฉพาะหน้าบ้านประธานองคมนตรีได้จัดกำลัง 15 กองร้อย รวม 2,250 นาย ในพื้นที่เราตั้งจุดไว้ต่อ 1 ผลัด ส่วน ทหารร้องขอโดยจะอยู่ภายในบ้านพักและสถานที่ราชการของทหาร ส่วนอุปกรณ์เสริมไม่มี ใช้เพียงโล่ไว้ป้องกันอย่างเดียว ไม่ให้ใช้ความรุน แรง รถน้ำก็ไม่มี การชุมนุมภายใต้กรอบของกฎหมายสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ สถาน การณ์ขณะนี้น่าจะชุมนุมด้วยความสงบ ส่วนการเก็บรายละเอียดข้อมูลในส่วนต่างๆที่มีความผิดสามารถดำเนินการในภายหลังได้ แต่หากมีการจับกุมแล้วเสียหายมากกว่า เราอาจต้องรอดำเนินการในภายหลังได้ แต่หากจับกุมได้ทันทีจะทำ เลย ไม่ละเว้น และให้กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ องค์กรกลางทุกฝ่ายมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพื่อให้ทราบว่าตำรวจทำใต้กรอบของกฎหมาย และไม่ใช้ความรุนแรง

สั่งด่วนผู้ว่า 76 จว.ปฏิญาณที่มท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 7 เม.ย. เวลา 15.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย เรียกผู้ว่าฯทั่วประเทศมาทำพิธีปฏิญาณตนมุ่งรักษาสถาบันสำคัญของชาติ บริเวณลานกลางกระทรวงมหาดไทย โดยคำสั่งดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของข้าราชการอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งให้ดูแลสถานที่ราชการ และศาลากลางจังหวัดไม่ให้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมของคนเสื้อแดงบุกยึด รวมทั้งวันที่ 8 เม.ย. เป็นวันที่กลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล จนถึงถนนราชดำเนินและบ้านสี่เสาเทเวศร์ จึงอาจทำให้การสั่งการดูแลสถานที่ราชการในภูมิภาคมีปัญหาได้

เผยเรียกหารือรับมือม็อบเสื้อแดง

รายงานข่าวจากกองทัพ เปิดเผยว่า ในการประชุมวันเดียวกันนี้ ถือเป็นวาระด่วนที่นายอภิสิทธิ์ เชิญรมว.กลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และส่วนความมั่นคงมาหารือถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย.นี้ โดยได้ซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆว่า หากเกิดเหตุการณ์ แต่ละหน่วยจะเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง รวมถึงการประสานงานของหน่วยงานต่างๆเวลาเกิดเหตุการณ์ความรุน แรงขึ้นมา นอกจากนี้ยังเสนอว่านายอภิสิทธิ์ อาจต้องชี้แจงถึงสถานการณ์ต่างๆให้ประชาชนรับทราบผ่านเอ็นบีที เนื่องจากที่ผ่านมาการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ หรือรัฐบาลอาจจะไม่ชัดเจนหรือข่าวที่ออกไปไม่เป็นไปตามที่พูด หรือออกไม่ครบ ไม่สมบูรณ์ จึงต้องชี้แจงเพื่อให้ประชาชนเข้าใจตรงกัน

รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า นายกฯมีความเป็นห่วงสถานการณ์วันที่ 8 เม.ย.นี้มาก เกรงจะเกิดความไม่เรียบร้อยขึ้นมา จึงต้องเรียกประชุมประสานแต่ละหน่วยว่าใครรับผิดชอบอะไรบ้าง หากมีปัญหา แต่ละส่วนราชการต้องช่วยเหลือกันได้ทันที โดยกำลังหลักจะเป็นของตำรวจ เจ้าหน้า ที่บ้านเมือง และทหาร ทั้งนี้ ผบ.ทบ.เป็นห่วงมาตรการที่จะใช้กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยขอไม่ให้ ใช้ความรุนแรง และจะไม่ประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉิน โดยระบุว่ายังไม่จำเป็น ส่วนการใช้กำลังนั้น ผบ.ทบ.ระบุในที่ประชุมว่าขอให้ใช้กำลังให้เหมาะสม และหากเกิดความรุนแรงให้ใช้กระบวน การยุติธรรมก่อนการใช้กำลัง เช่น ถ้ากลุ่มผู้ชุม นุมบุกรุกสถานที่ ให้ศาลตัดสินแล้วใช้คำสั่งศาลมาบังคับใช้กับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยไม่ใช้ความรุนแรง แต่หากสถานการณ์บานปลายจึงค่อยใช้วิธีการจากเบาไปหาหนัก

ให้มท.-กองทัพสกัดม็อบเข้ากรุง

รายงานข่าวแจ้งว่า สถานที่สำคัญอันดับ 1 ในการดูแลความปลอดภัยคือ ทำเนียบรัฐบาล อันดับ 2 บ้านพล.อ.เปรม และกระทรวงต่างๆที่มีปัญหา เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง ซึ่งที่ประชุมมั่นใจว่ากำลังต่างๆมีเพียงพอที่จะรับมือเหตุการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้หารือถึงการสกัดประชาชนจากต่างจังหวัดไม่ให้มาร่วมชุมนุมครั้งนี้ โดยมอบให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และกองทัพรับไปดูแล โดยใช้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกอ.รมน.ทำความเข้าใจกับประชาชนในแต่ละหมู่ บ้าน ว่าไม่ควรไปให้ความร่วมมือ ส่วนจำนวน ผู้ชุมนุมนั้น ที่ประชุมประเมินว่าอาจมีไม่มาก เพราะมีข่าวว่าได้สั่งให้ส.ส. 1 คน เกณฑ์ผู้ชุมนุมมาจำนวนหนึ่ง แต่ต้องใช้เงินมาก อาจจะไม่สามารถเกณฑ์คนมาได้ตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศไว้

ใช้ทหาร 21 กองร้อย 3 พันนาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การใช้กำลังรักษาพื้นที่ในทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้จะแน่นหนากว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยกองทัพภาคที่ 1 ได้จัดกำลังเข้ารักษาพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลทั้งสิ้น 21 กองร้อย จำนวน 3,000 นาย โดยจัดกำลังจากพล.1 รอ.,พล.ม.2 รอ. และหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน(พล.ปตอ.) สำหรับพล.1 รอ.ได้ใช้ กำลังจากร.1รอ. และร.11 รอ. มากที่สุด ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดกำลังจากกองบัญชา การตำรวจนครบาล อีก 4 กองร้อย จำนวน 600 นาย โดยครึ่งหนึ่งเป็นกำลังตำรวจหญิง ทั้งนี้การจัดกำลังได้แบ่งเป็น 4 โซน คือ เอ บี ซี ดี วางกำลังตามกำแพงเป็นสี่ทิศ เพื่อป้องกันรักษาพื้นที่ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้ามาภายในทำเนียบฯได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกองทัพจะเสริมกำลังจากกองทัพเรือ ที่ได้รับการฝึกการเตรียมพร้อมกองร้อยรักษาความสงบ 6 กองร้อย จากเดิมที่ใช้เพียง 2 กองร้อย ส่วนกองทัพอากาศยังคงใช้กำลังสนับสนุน 2 กองร้อยเท่าเดิม เพื่อสนับสนุนกำลังภายในทำเนียบฯหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 1 ยังเตรียมกำลัง 15 กองร้อย เพื่อรักษาพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และป้องกันการยึดสนามบินเหมือนครั้งสมัยกลุ่มพันธมิตรหากเกิดเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นนั้น กำลังทั้ง 15 กองร้อยจะพร้อมไปรักษาพื้นที่ทันที ส่วนสถานที่สำคัญได้เตรียมกำลังทหารไปยังกระทรวงที่คิดว่ามีปัญหา คือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง เป็นต้น

ปชป.ปูดจ้างมาหัวละพัน

วันเดียวกัน น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมพรรคว่า พรรคกังวลการชุมนุมใหญ่วันที่ 8 เม.ย. นี้ที่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าและความวุ่นวาย โดยพุ่งเป้าไปที่รัฐบาล ทหาร และประชาชน ซึ่งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง มีเป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มอำนาจต่อรองพ.ต.ท.ทักษิณ และอาศัยการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนเพื่อกดดันรัฐให้นำไปสู่การประนีประนอม เปิดให้มีคนกลางเข้ามาเจรจาที่จะทำให้อำนาจรัฐยอมจำนน จึงขอเรียก ร้องให้ประชาชนอย่าเข้าร่วมการชุมนุม เพราะไม่เกิดผลดีต่อประเทศ

ด้านน.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวรุนแรงขณะนี้ คิดว่าตนเองจะแผ่วปลาย และอาจแพ้หากปล่อยให้ชุมนุมยืดเยื้อต่อไป ซึ่งเป้าประสงค์สำคัญของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือการหนีคดีความ ไม่ยอมให้สูญเสียทรัพย์สินที่ถูกอายัด จากการวิเคราะห์ของพรรคพบว่ากลุ่มเสื้อแดงที่จะมาชุมนุมแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มคนที่รักพ.ต.ท.ทักษิณ 2.กลุ่มคนที่จัดตั้งหรือใช้อามิสสินจ้าง 3.คนไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์ และ 4.คนไม่เอาเสื้อเหลือง ซึ่งพบว่ากลุ่มที่ 1และ 2 รวมกันเป็น 60% ที่เหลือ 40% ขณะนี้มีความพยายามเพิ่มมวลชนส่วนที่ 2 ให้เพิ่มมากขึ้น สอดรับกระแสข่าวการให้เงินส.ส. จำนวน 2 แสนบาทต่อคนต่อพื้นที่ระดมคน และทราบว่ายังติดต่อให้คนรับใช้ ติดต่อไปยังเพื่อนคนรับใช้แบบไดเร็กต์เซล เพื่อมาร่วมชุมนุมโดยจะได้รับค่าตอบแทนคนละ 500-1,000 ต่อคน

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าอยากถามใจคนไทยทั้งชาติว่าวันนี้คนไทยพร้อมแล้วหรือยังที่จะเลือกระหว่างสถาบันสูงสุดกับระบอบทักษิณให้อยู่คู่กับบ้านเมืองต่อไป

พิษฝนถล่มแดงชุมนุมบางตา

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากฝนตกอย่างหนักในช่วงกลางวัน ทำให้มีผู้ชุมนุมค่อนข้างน้อย โดยกระจุกตัวเฉพาะบริเวณหน้าเวทีเชิงสะพานชมัยมรุเชฐเท่านั้น ขณะที่บริเวณอื่น มีเพียงผู้ชุมนุมสัญจรไปมาอย่างบางตา โดยเฉพาะบริเวณถนนราชดำเนินนอก พ่อค้าแม่ค้าต่างตั้งแผงวางขายของเต็มพื้นที่ และมีประชาชนเดินผ่านบริเวณดังกล่าวไปเที่ยวงานกาชาดจำนวนมาก ทำให้แทบไม่มีผู้ชุมนุมปักหลักรับฟังการปราศรัยเลย แม้แต่บริเวณหน้าจอโปรเจ็กเตอร์ที่ปกติจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงจับจองพื้นที่รอฟังการปราศรัยเป็นประจำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันนี้ เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทยได้ขึ้นเวทีเพื่อประกาศจุดยืนร่วมต่อสู้กับคนเสื้อแดง โดยระบุว่าระบอบอำมาตยาธิปไตยเป็นศัตรูกับชาวนา โดยขอให้สมาชิกเครือข่ายฯปรับสถานการณ์เขณะนี้เป็นสถานการณ์สู้รบและรับฟังคำสั่งจากแกนนำในระดับประเทศเท่านั้น และหากรัฐใช้กำลังสลายผู้ชุมนุม สมาชิกของเครือข่ายจะออกมากระทำการให้การบริหารประเทศเป็นอัมพาตและจะทำให้ระบบเศรษฐกิจเดินต่อไปไม่ได้

ดักคอ"มาร์ค"ออกทีวีกล่าวหา

เวลา 17.00 น. ที่หลังเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. แถลงข่าวประจำวัน โดยนายจตุพร กล่าวว่า ที่นายอภิสิทธิ์ จะออกโทรทัศน์เพื่อตอบโต้กลุ่มเสื้อแดง จะเป็นการกล่าวหาว่ากลุ่มเสื้อแดงพยายามทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นความเท็จ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นวิธีเดียวกับที่นายสุเทพ และพล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีใช้ ทั้งที่เป้าหมายของพวกเราคือการขับไล่อำมาตย์ ซึ่งหมายถึงพล.อ.เปรมลงมาเท่านั้น ดังนั้นถ้ารัฐบาลจะดำเนินคดีก็ทำไปแต่ขอให้หยุดบิดเบือนความจริง

นายจตุพร กล่าวว่า คืนวันที่ 6 เม.ย. จะเริ่มมีรถกระบะและรถบัสนับหมื่นคันทยอยเข้ามากทม.และในเช้าวันที่ 7 เม.ย.หากกรมบังคับคดีร่วมมือกับตำรวจใช้กำลังมารื้อเวทีหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมการนองเลือดจะเริ่มต้นตั้งแต่เช้าวันที่ 7 เม.ย.เลยก็ได้ เพราะเราจะไม่ยอมให้รื้อเวทีอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ยืนยันว่าตั้งที่ผ่านมากลุ่มเสื้อแดงได้เปิดประตู 6 และ 8 ของทำเนียบให้ข้าราชการเข้าไปทำงานส่วนครม.ที่ไม่เข้าไปก็เพราะขี้ขลาดไม่กล้าเข้าไปโดยที่เสื้อแดงไม่ได้ขัดขวาง

ลั่นกดดัน"เปรม"ถึงวันที่ 10 เม.ย.

นายจตุพร กล่าวถึงพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตเลขานุการสำนักงานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ตั้งค่าหัวผู้ที่นำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีว่า การออกมาครั้งนี้เป็นเรื่องดีถือว่าเปิดหน้าออกมาสู้กัน เพราะเป็นใบเสร็จชัดเจนชี้ให้เห็นว่าทั้งคมช. พล.อ.เปรม พรรคประชาธิปัตย์ ส.ว.สรรหา และพันธมิตรประสานกันเป็นขบวนการเดียวกัน แอบอ้างนำเอาสถาบันมาใช้ทำลายศัตรูทางการเมือง

"ในการเผด็จศึกวันที่ 8 เม.ย.นั้นเสื้อแดง 3 แสนคน ยังยืนยันในหลักสันติวิธี แต่ถ้าฝ่ายรัฐใช้มาตรการรุนแรงกับผู้ชุมนุม เราก็พร้อมจะตอบโต้อย่างสาสมและจะยกระดับความเข้มข้นขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นกำหนดไว้ 3 วันคือ 8-10 เม.ย.แต่เชื่อว่าพล.อ.เปรมจะไม่อดทนต่อการชุมนุมของประชาชนได้ถึง 3 วัน จะต้องเกิดเหตุการณ์เหมือนวันที่ 22 ก.ค.2550 ที่มีการชุมนุมที่บ้านสี่เสาเทเวศร์เป็นครั้งแรก ขณะเดียวกันขบวนการอำมาตย์ที่หวงอำนาจเกินกว่าจะยอมสูญเสีย ปล่อยให้มีการชุมนุมถึง 3 วัน อำมาตย์ต้องออกฤทธิ์ออกเดชและนั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สำคัญ" นายจตุพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ามาตรการเผด็จศึกนั้นอาจจะต้องมีการสูญเสียชีวิตคนเพื่อบรรลุเป้าหมาย นายจตุพร กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพล.อ.เปรม แต่การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชา ธิปไตยนั้นไม่เคยได้มาจากการร้องขอแต่จะได้จากการต่อสู้ และจิตวิญญาณสันติวิธี อหิงสา จะนำมาซึ่งชัยชนะได้

"มาร์ค"แถลงออกทีวี

รายงานจากที่ประชุมร่วมระหว่างนายกฯกับรมว.กลาโหม ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร.และหน่วยงานทางด้านความมั่นคงประเมินว่าการชุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.คงจะไม่ถึงขั้นแตกหัก แต่เป็น การโชว์พลังมวลชนของม็อบเสื้อแดง เพื่อบีบให้มีการเจรจาต่อไป

เวลา 20.30 น. นายอภิสิทธิ์ออกรายการพิเศษทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) ถึงการชุมนุมใหญ่กลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย.ว่า นับตั้งแต่วันแรกที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ บอกว่าจะทุ่มเททำงานให้พี่น้องประชาชน พาประเทศชาติออกจากวิกฤตการเมืองและวิกฤตเศรษฐกิจ ผ่านมา 3 เดือนเดินมาไกลพอสมควร ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ แต่ยอมรับว่าความขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองยังมีอยู่ ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลพร้อมให้ประชาชนมีสิทธิ์แสดงออกทางการเมือง ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญ จะระมัดระวังอย่างเต็มที่ต่อการเผชิญหน้าเพราะไม่ต้องการให้ประเทศชาติบอบช้ำ ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้ากัน อะไรที่อะลุ้มอล่วยได้ก็ทำ เช่นการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลก็ใช้อำนาจศาลดำเนินการ

ยืนยันไม่ใช้กฎหมายพิเศษ

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 8 เม.ย. ซึ่งระบุว่าอาจเป็นสงครามกลางเมือง เป็นการปฏิวัติประชาชน ขอเรียนว่ารัฐบาลไม่อาจให้เกิดขึ้น จะใช้ความนุ่มนวล ไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชน แต่จะมีความมั่นคง ไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ตนได้ประชุมหน่วยความมั่นคง ทุกฝ่ายมีเป้าหมายดูแลรักษาสถานที่สำคัญทางราชการและอื่นๆ จะมีกำลังผสมผสานระหว่างตำรวจ ทหาร และท้องถิ่น กรณีประกาศว่าจะไปชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ได้พูดแล้วว่ารัฐบาลมีหน้าที่ปกป้องสถาบันหลัก คนดี ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ก็จะดูแล ส่วนการเดินทางของผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ จะดูแลการจราจรให้ได้ประชาชนได้ รับผลกระทบน้อยที่สุด จะใช้วิทยุกระจายพื้นที่ที่ควรเลี่ยง สำหรับการดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรงในหมู่ประชาชนด้วยกัน ซึ่งอาจมีผู้ที่แตกต่างทางความคิดมาเคลื่อนไหวในบริเวณเดียวกัน เจ้าหน้า ที่รัฐจะป้องกันไม่ให้สองฝ่ายเข้ามาในระยะที่เสี่ยงต่อการเผชิญหน้า

"ยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ โดยตำรวจสามารถร้องขอทหารและท้องถิ่นมาเป็นผู้ช่วยได้ ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ แต่หากมีอะไรผิดสังเกตขอให้แจ้งเข้ามา ขณะนี้มีความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยร้อยเปอร์ เซ็นต์ ในวันที่ 8 เม.ย.ขอให้พี่น้องประชาชนมีความสบายใจ เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ร่วมกันผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ ถ้าผ่านไปแล้วจะเป็นการ เดินหน้า การประชุมอาเซียนบวกสาม บวกหก จะรักษาภาพลักษณ์ของประเทศไทย อำนวยให้การแก้ไขปัญหาของประเทศไทยทำได้ง่ายขึ้น" นายกฯกล่าว

ยอมไม่ได้พาดพิงสถาบัน

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเรียกร้องด้านการเปลี่ยนแปลงระบบการเมือง รัฐบาลนี้พร้อมจะตอบสนอง แต่ถ้าการเรียกร้องทำให้ความขัดแย้งขยายวงไปสู่ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง สู่สถาบันหลัก รัฐบาลก็ยอมไม่ได้ วันนี้มาให้ความมั่นใจกับประชาชน ผ่อนคลายความวิตก ทุกเรื่องที่รัฐบาลทำจะอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ห่วงใยประเทศชาติ และขอให้ร่วมกันฟันฝ่าพาประเทศชาติเดินหน้าต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเย็นวันเดียวกัน นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้แจ้งความที่สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีกับพล.อ.สมเจตน์ บุญ ถนอม อดีตเลขาธิการสำนักงานคมช. ข้อหาหมิ่นประมาทพ.ต.ท.ทักษิณด้วย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์