ครบรอบ 63 ปี พรรคประชาธิปัตย์คึกคัก พรรคร่วมรัฐบาลตบเท้าอวยพรอบอุ่น “อภิสิทธิ์” ยืนยันเดินหน้าแก้ปัญหาชาติพ้นวิกฤติ อ้อนประชาชนศรัทธาอุดมการณ์พรรค พร้อมยืนยัน จะเอาผิดผู้ที่ทำให้กระทบสถาบันหลักของชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานครบรอบ 63 ปีพรรคประชาธิปัตย์ ในวันนี้ (6 เม.ย.) ว่า นอกจากจะมีรัฐมนตรี ส.ส. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมงานอย่างคับคั่งแล้ว ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนมามอบกระเช้าดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีด้วย เช่น พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และ นางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ที่มาพร้อม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย หลายคน ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค พร้อมอดีตแกนนำพรรคชาติไทย ประกอบด้วย นายนิกร จำนง และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
นอกจากนี้ ยังมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน เช่น นายสรอรรถ กลิ่นประทุม และ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา มาร่วมยินดี ด้านพรรคเพื่อแผ่นดิน นำโดย น.พ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน มาร่วมแสดงความยินดีด้วย ทั้งนี้ ยังมีการจับกลุ่มคุยกันของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 4 ยุค คือ นายพิชัย รัตตกุล นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อีกด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยกับสมาชิกพรรคว่า วันที่ 6 เมษายนของทุกปี พรรคประชาธิปัตย์จัดงานทำบุญครบรอบวันก่อตั้งพรรค ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 รวม 63 ปี จึงขอขอบคุณสมาชิกและประชาชนที่มาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ ซึ่งอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา ใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัย ไม่เคยล้าสมัย โดยเฉพาะเรื่องการปกป้องสถาบันและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ช่วยผู้ด้อยโอกาส และให้ความเป็นธรรมกับสังคมและวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน โดยยืนยันจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในภาวะวิกฤต ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งนี้สาหัสที่สุดในรอบ 70 ปี ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการหดตัวของการส่งออกและท่องเที่ยว
นายอภิสิทธิ์ ยังมั่นใจว่า การทำงานในฐานะรัฐบาลช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้สร้างความแตกต่างให้ต่างชาติเห็นว่า รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาในชาติ ฟันฝ่าวิกฤติได้ และเป็นเสียงสะท้อนปัญหาในภูมิภาคนี้ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสามารถยืนยันได้ว่า ประเทศไทยสามารถฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่การปกครองที่ถูกต้องได้ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจและศรัทธาอุดมการณ์ของพรรค ที่จะแก้วิกฤตต่างๆ ได้สำเร็จ โดยเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่เมืองพัทยา ระหว่างวันที่ 10-12 เมษายนนี้ จะเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ไทยจะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความขัดแย้งในบ้านเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลว่า รัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ภายใต้กรอบกฎหมายและจะเร่งคลี่คลาย โดยใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในอุดมการณ์ที่รัฐบาลมุ่งเน้นในระบอบประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภา เข้าร่วมประชุมสภาตอบกระทู้ถามสด และยอมรับการตรวจสอบมากกว่าทุกรัฐบาลในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา และรัฐบาลจะดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด โดยเฉพาะที่ทำให้กระทบสถาบันหลักของชาติอย่างแน่นอน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเคารพประชาธิปไตย ไม่แทรกแซงการทำงานขององค์กรต่าง ๆ และสื่อมวลชนเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจะใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งต่าง ๆ แต่ต้องดำเนินคดี หากมีการกระทำที่เกินขอบเขต ดังนั้น จึงขอให้มั่นใจการทำงานและอุดมการณ์ของประชาธิปัตย์ที่จะทำให้พบกับทางออกและความยั่งยืน นอกจากนี้ ยังขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือและมุ่งมั่นฝ่าฝันวิกฤต เพื่อให้รอยยิ้มกลับคืนสู่ประเทศไทยอีกครั้ง.