คนบุรีรัมย์กว่า 12,000 คน รวมตัวประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบัน

เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์กว่า 12,000 คน รวมตัวกันประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันหลักของประเทศทั้งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ระดมเจ้าหน้าที่รับมือการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่วันที่ 8 เมษายนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 เม.ย.) นายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัคร และประชาชนจากทั้ง 23 อำเภอ กว่า 12,000 คน

ได้มาชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์  รัชกาลที่ 1 ถนนเสด็จนิวัฒน์หน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อประกาศเจตนารมณ์จะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  หากมีใครคิดจะทำลาย พสกนิกรที่จังหวัดบุรีรัมย์ทุกคนจะร่วมกันลุกขึ้นมาปกป้องด้วยชีวิต พร้อมกับกล่าวคำปฏิญาณจะจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเรียกร้องคนไทยทุกคนสามัคคี ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก หรือแบ่งสี   เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบโดยเร็ว

ส่วนที่จังหวัดอุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุม “ติดตามการชุมนุมของกลุ่ม นปช. และกลุ่มคนเสื้อแดง” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 เมษายนนี้  ซึ่งนายอำนาจ กล่าวว่า

ได้ประเมินสถานการณ์ว่าปกติ "คนเสื้อแดงอุดรธานี" เดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ราว 1,500 คน แต่เมื่อมีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาที่จังหวัดอุดรธานี คาดว่าจะมีคนเสื้อแดงรวมตัวเดินทางมามากกว่าเดิม แต่ไม่น่าจะมีการปิดล้อมศาลากลาง หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงที่กรุงเทพฯ ซึ่งจังหวัดอุดรธานีได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วม 24 ชั่วโมง ที่ห้องคำชะโนด ศาลากลางจังหวัด

โดยจังหวัดพร้อมเปิดให้แต่ละกลุ่มชุมนุมได้ที่จุดเดิม รวมทั้งถนนอธิบดี หน้าศาลากลาง แต่พยายามไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ที่ใช้ในการดูแลความเรียบร้อยจะเป็นฝ่ายปกครองและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อพปร.) โดยเฉพาะ อพปร.มีอัตรากำลังทั้งจังหวัดกว่า 30,000 คน ที่กระจายอยู่ในทุกอำเภอ รองลงมาคือกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร และสุดท้ายจะเป็นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.).