อภิสิทธิ์ เชื่อหลังสงกรานต์สถานการณ์น่าจะดีขึ้น

พรรคประชาธิปัตย์ 6 เม.ย.- นายกรัฐมนตรียืนยันปกป้องสถาบัน ไม่ได้ละเลย แต่ต้องทำอย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง มั่นใจดูแลสถานการณ์ช่วงดีเดย์ของม็อบเสื้อแดงได้ เชื่อหลังสงกรานต์สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ปัดไม่ใช่รัฐบาลต้องรับผิดชอบทุกกรณีหากเกิดเหตุรุนแรง อ้างต้องดูเป็นฝีมือใคร ย้ำจะทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประธานองคมนตรีเป็นห่วงว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โจมตีองคมนตรีจะกัดกร่อนสถาบันว่า ขณะนี้ได้รวบรวมคำปราศรัยต่างๆ ไว้หมดแล้ว และให้เจ้าหน้าที่ประสานกันอยู่ ซึ่งเบื้องต้นได้สรุปมาแล้ว แต่ยังมีช่องโหว่จึงต้องดูให้รัดกุม  เพราะที่ผ่านมา มีหลายเรื่องเวลาไปถึงอัยการ ก็สั่งไม่ฟ้อง จึงต้องไปดูการทำสำนวนที่ผ่านมา ซึ่งเห็นได้ชัดว่า มีจุดอ่อนที่อัยการทักท้วงได้ ทั้งนี้สาเหตุที่ล่าช้า เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่รัฐบาลไม่กล้าดำเนินการ เพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล

“ถ้ารัฐบาลไม่สามารถปกป้องสถาบันหลักของชาติได้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ และไม่ควรจะอยู่ด้วย แต่การปกป้องต้องทำด้วยความรัดกุม หากไม่รัดกุมอาจจะเป็นผลเสีย จึงขอให้ความมั่นใจว่า ไม่ได้ละเลย แต่จะดูแลให้รัดกุมและเดินไปอย่างดีที่สุด และผมย้ำอีกครั้งว่า ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาว่า รัฐบาลนี้ทำอะไรเหนือกฎหมาย ที่ผ่านมา ประเทศเกิดวิกฤติเพราะในอดีตมีคนที่มีอำนาจทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะสามารถดูแลประเทศ ในวันที่ 8-10 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศแตกหักให้เกิดความเรียบร้อยได้

และไม่คิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศไว้ เพราะเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจดีว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องผลประโยชน์ของคนของกลุ่มหนึ่ง ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องประชาธิปไตยไม่ใช่เงื่อนไข เพราะรัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธ และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องมีกระบวนการที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ช่วงนี้เป็นช่วงที่แกนนำพยายามเร่งสถานการณ์ แต่รัฐบาลจะพยายามคลี่คลาย โดยเชื่อว่าหลังสงกรานต์สถานการณ์น่าจะดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดเหตุฉุกเฉิน รุนแรง รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น

ทั้งนี้จะทำให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลใช้ความระมัดระวังอย่างไร และจะไม่เป็นผู้ริเริ่มเรื่องความรุนแรง หรือการยั่วยุใดๆ แต่ถ้ามีการกระทำผิดกฎหมาย และเมื่อต้องรักษากฎหมายแล้วเกิดผลข้างเคียง จะต้องอธิบายได้ชัดเจนว่า ไม่ใช่เจตนา และยืนยันจะทำให้โปร่งใส เพราะไม่ต้องการที่จะย้อนรอยอดีตที่เคยเกิดปัญหา ดังนั้น ถ้าเกิดเหตุรุนแรงจะต้องดูว่า ความรุนแรงเกิดขึ้นจากใคร ไม่ใช่ว่าใครใช้ความรุนแรงแล้วมาโยนให้รัฐบาลรับผิดชอบคงไม่ได้  ที่ผ่านมา แกนนำคนเสื้อแดงมีเป้าหมายที่พยายามทำให้เกิดปัญหาขึ้น แต่รัฐบาลก็หลีกเลี่ยงมาโดยตลอด

ต่อกรณีที่คนเสื้อแดงระบุว่า เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลสกัดกั้นการเข้ามาชุมนุมจะเกิดสงครามกลางเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้มองย้อนกลับไป 3 เดือน จะเห็นได้ว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรในลักษณะเช่นนั้น

ดังนั้น จุดยืนของรัฐบาลยังเหมือนเดิมคือ ไม่ว่าจะถูกยั่วยุอย่างไรก็จะระมัดระวัง แต่สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลจะไม่ให้เกิดขึ้นคือ การกระทำที่ผิดกฎหมายและกระทบกับความมั่นคง เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีคำตอบให้สังคมหรือไม่ว่า เมื่อใดการชุมนุมจะจบลงและจบอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องใช้ความอดทน ซึ่งมั่นใจว่า เมื่อความจริงต่างๆ ปรากฏมากขึ้น คนที่คิดจะก่อความวุ่นวาย หรือก่อความรุนแรง คงไม่สามารถที่จะรวมตัวกันได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศแตกหักและจะไปบ้านพักสี่เสาเทเวศร์นั้น จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่โหรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทำนายว่า หากผ่านเดือนเมษายนไปได้ ทุกอย่างจะดีขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้เรียนด้านโหราศาสตร์มา จึงไม่ทราบ.- สำนักข่าวไทย