คมชัดลึก :โหร "วารินทร์" ทำนายบ้านเมืองจะไม่มีเหตุรุนแรง และพ้นสิ้นเดือนนี้จะดีขึ้น พร้อมวอนทุกคนหันหน้าคุยกัน ยุติขัดแย้ง "สุจิต"ชี้ทุกฝ่ายต้องปรองดอง ระบุ"ทักษิณ"หลบหนีโทษ หมดสิทธิขอนิรโทษกรรม เครือข่ายลูกป๋าเชิญชวนปชช.ร่วมพลังปกป้องป๋า
ช่วงเช้าวันนี้ (5เม.ย.) ที่สำนักสุขิโต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหรคมช. ได้ทำพิธีทำบุญไหว้ครูประจำปี โดยมี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.)และอดีตประธานคมช.พร้อมภรรยาและนายทหารชั้นผู้ใหญ่ข้าราชการระดับสูงอีกหลายคนร่วมพิธีถวายพระผ้าป่ามหากุศลและถวายพระพุทธรูปปางพิชิตมารเพื่อจะนำไปประดิษฐานยังข่วงพระเจ้าล้านนาหรือพุทธมณฑลล้านนาปากทางเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าศาลากลาง จ.เชียงใหม่
หลังเสร็จพิธีนายวารินทร์ได้แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “เปิดนิมิตร 2 ไขรหัสบุญเปลี่ยนรหัสกรรม” เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างข่วงพระเจ้าล้านนาหรือพุทธมณฑลล้านนา โดยระบุว่าสาเหตุที่ต้องระดมทุนก่อสร้างนี้เพราะหลวงปู่เกวาลันได้นิมิตรให้สร้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายกรรมให้กับบ้านเมือง ต้องใช้งบประมาณจำนวน 185 ล้านบาท ต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้บ้านเมืองจึงจะพ้นกรรม
นายวารินทร์ กล่าวว่า วิบากกรรมของประเทศหากพ้นเดือนเมษายนนี้ทุกอย่างก็จะดีขึ้นความรุนแรงไม่น่าจะมาก เพราะช่วงของการเกิดความรุนแรงเสียเลือดเนื้อได้พ้นผ่านมาแล้ว ส่วนวันที่ 8 เม.ย.นี้น่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
อยากขอวิงวอนให้หันหน้าเข้าหากัน อย่าลืมว่าธงไตรรงค์เรามีอยู่แค่ 3 สี คือ สีแดงหมายถึงชาติ สีขาวศาสนา สีน้ำเงินพระมหากษัตริย์เป็นแบบนี้มาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่สามารถแบ่งแยกกันได้น่าจะหันหน้ามาร่วมกันกันแก้ปัญหาให้เกิดความสุขความสงบทุกอย่างจะได้เป็นปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะสามารถกลับเข้าประเทศได้หรือไม่ นายวารินทร์ ตอบว่า ตรงนี้ผมยังไม่ได้ดูเลย
ด้านพล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่าเป็นห่วงประเทศชาติต้องช่วยกันที่จะกลับไปสู่การแก้ไขปัญหา ตอนนี้ต้องแก้เศรษฐกิจทุกฝ่ายต้องเลิกคิดเรื่องส่วนตัวต้องคิดถึงส่วนรวมเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากอะไรไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่าทุกคนรู้ดีว่าจะต้องทำอะไรให้บ้านเมืองจึงจะดีที่สุด บางครั้งการมองเป็นกลุ่มย่อยมากเกินไปก็กระทบบ้านเมือง
เมื่อถามอีกว่าที่บางฝ่ายออกมาพูดนั้นเป็นการหมิ่นสถาบันหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่ายังวิเคราะห์ไม่ออกคงกระทบและดูเหมือนพยายามจะสร้างเรื่องให้มากระทบ สำหรับกรณีที่มีบางกลุ่มออกใบปลิวมาโจมตีองคมนตรีนั้น ความจริงแล้วองคมนตรีแต่ละคนก็มีภารกิจทำงานให้ประเทศชาติ หลายคนยังจำชื่อองคมนตรีบางคนไม่ได้ด้วยซ้ำไป แต่ก็เอามาพูดเพื่อสร้างประเด็น
"สุจิต"ชี้ทางออกจากวิกฤตการเมืองไทย ทุกฝ่ายต้องปรองดอง
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง ปาฐกถาในหัวข้อ ปัญหาและแนวทางของการเมืองไทยภายหลังวิกฤต ว่า การที่มีปัญหาวิกฤตแสดงว่าการเมืองมีปัญหาจำเป็นต้องแก้ไข และไม่ว่าจะพัฒนา ปรับปรุง หรือปฏิรูปอย่างไรจะต้องอยู่ในกรอบของการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
เช่นเดียวกับ อังกฤษ ลักเซมเบิร์ก เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย หรือประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการปกครองในระบอบนี้มีคุณค่าและคู่ขนานไปกับประชาธิปไตยได้ ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาการเมืองจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งและความตะหนักในความเป็นพลเมืองให้กับประชาชนไทย รวมถึงการสร้างการเมืองภาคประชาชนให้มีความเข้มแข็ง แม้จะมีม็อบหลายสีก็ยังบ่งบอกไม่ได้ว่าคนไทยมีความเข้มแข็งทางการเมือง
นายสุจิต กล่าวอีกว่า โลกาภิวัตน์ มีผลต่อการทะลักเข้ามาของแนวความคิดและค่านิยมเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพ มีฐานมาจากประชาธิปไตยตะวันตก ซึ่งแต่ละประเทศให้ความสำคัญและตีความสิทธิเสรีภาพต่างกัน ประเทศตะวันตกยอมให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพอย่างกว้างขวาง แต่ในสังคมตะวันตกรวมถึงประเทศไทย ตีความสิทธิเสรีภาพเป็นการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ รัฐมีอำนาจกว้างขวางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความสงบเรียบร้อยมีความจำเป็น ในประเทศไทยมีการยอมรับสิทธิเสรีภาพมากขึ้นจนมีข้อกังวลถึงการใช้สิทธิเสรีภาพเกินเลย
นอกจากนั้นการหลั่งไหลของข้อมูลอย่างเสรี ทำให้มีการใช้ข้อมูลข่าวสารให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มของตน ตีความบิดเบือนข้อมูล มีการตัดต่อ ตอกย้ำอย่างต่อเนื่องปลุกระดมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น โฟนอิน หรือวิดีโอลิงค์ เพื่อให้มวลชนเชื่อว่าการเคลื่อนไหวตามแกนนำเป็นสิ่งที่ทำได้ตามหลักสิทธิเสรีภาพ รัฐบาลจำเป็นเสริมสร้างให้ประชาชนมีทักษะในการวิเคราะห์ว่าข่าวสารใดเป็นเรื่องจริง และข่าวสารใดเป็นเท็จ และพัฒนาให้ประชาชนเป็นตัวของตัวเองในด้านความคิด หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยสอดคล้องกับประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งเป็นเรื่องยาก ทำไม่ได้เพียงแค่แก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายสุจิต กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลต้องสร้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมในประชาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่เพียงการลงคะแนนเท่านั้น แต่ต้องมีส่วนร่วมในชุมนและท้องถิ่น เพื่อไม่ให้ถูกครอบงำโดยผู้นำชุมชน อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่สังคมไทยมีความขัดแย้งรุนแรงจำเป็นต้องแก้ไข สมานฉันท์เป็นของดี แต่ต้องตั้งอยู่บนรากฐานความถูกต้องไม่ใช่สร้างความปรองดองบนความไม่ถูกต้อง
"สิ่งที่คนไทยต้องการคือประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการมีสิทธิเสรีภาพ แต่การใช้สิทธิเสรีภาพต้องเป็นเรื่องของความเป็นพลเมือง ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของผู้นำ และไม่ใช่เงินไม่มากาไม่เป็น แม้ว่าการปฏิรูปจะทำได้ยากเพราะต้องมีการออมชอมจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เป็นกลาง ฝ่ายที่ปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง และฝ่ายที่ปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำเพื่อก้าวให้พ้นวิกฤต" นายสุจิต กล่าว
ระบุ"ทักษิณ"หลบหนีโทษ หมดสิทธิขอนิรโทษกรรม
นายสุจิต ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้นิรโทษกรรมแก่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ว่า คนที่ถูกต้องโทษแล้วหลบหนีจะขอนิรโทษกรรมได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ อีกทั้งการนิรโทษกรรมจะทำย้อนหลังไม่ได้ ถ้าทำก็แสดงว่ากระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมาไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามสำหรับทางออกจากปัญหาวิกฤตทางการเมืองในสังคมนั้น ทุกคนต้องยอมรับความจริง และต้องปรองดองกันบนพื้นฐานของความถูกต้อง โดยส่วนตัวยังเชื่อว่าในวันที่ 8 เม.ย.นี้จะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงประท้วงต่อต้านระบอบอำมาตยาธิปไตย โดยมองว่าการเมืองไทยถูกผูกขาดด้วยขุนนางและชนชั้นสูงนั้น เป็นความเข้าใจผิดและใช้คำผิดมาตลอด เพราะสังคมไทยไม่มีขุนนางมานานมากแล้ว ทั้งนี้คำว่าระบอบอำมาตยาธิปไตย แปลมาจากภาษาอังกฤษ โดยนักวิชาการต่างชาติมองการเมืองไทยว่าปกครองโดยข้าราชการ ข้าราชการเป็นใหญ่ แต่ถ้าจะแปลว่าระบอบข้าราชการจะไม่หวือหวา จึงใช้คำว่าอำมาตยาธิปไตย
ด้านนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปการเมืองที่ทางรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ว่า เป็นความพยายามที่รัฐบาลต้องการจะให้ได้ข้อยุติ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และเป็นการพยายามหาลู่ทางให้เปลี่ยนแปลงระบบให้ลงตัว แต่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล ฝ่ายค้าน กลุ่มเสื้อแดง และเสื้อเหลือง แต่วันนี้กลุ่มเสื้อแดงไม่เอา แนวทางการเจรจาจึงเป็นไปได้ยาก ส่วนที่มีแนวคิดว่าจะนำทุกฝ่ายมานั่งคุยกัน ในกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงจะเอารัฐธรรมนูญ40 กลับมาใช้นั้น ถือว่าเป็นข้อเรียกร้องหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะทั้งรัฐธรรมนูญ40 และ 50 ก็มีข้อเสียด้วยกัน ควรเอาทั้ง 2 ฉบับมาร่วมกัน โดยในวันที่ 7 เม.ย.นี้ จะมีการประชุมกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า เพื่อพิจารณากรณีที่ฝ่ายค้านและกลุ่มนปช. แสดงท่าทีจะไม่เข้าร่วมเป็นกรรมการอิสระฯด้วยว่าจะเอาอย่างไร
“ถึงแม้ว่าจะมีหลายฝ่ายจะปฏิเสธ แต่การปฏิรูปการเมืองก็ยังเดินต่อไปได้ โดยอาจจะทบทวนเอาตัวแทนจากทุกฝ่ายออกไป โดยเอานักวิชาการเข้ามาแทน โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ ในการแก้ไข แต่ต้องเข้าใจว่าการปฏิรูปการเมือง ไม่ใช่การยุติปัญหาการเมือง เสื้อแดงไม่ได้เรียกร้องให้ปฏิรูปการเมืองอย่างเดียว แต่มีเรื่องอยากให้นิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนด้วย ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาการเมืองได้ ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง จะต้องลดราวาศอก มาอยู่บนจุดกึ่งกลาง” นายสมคิด กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หยุดเคลื่อนไหว จะมีผลมากน้อยแค่ไหน นายสมคิดกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีผลประโยชน์เยอะ เพราะการเคลื่อนไหวเคลื่อนไหวครั้งนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ทำให้ประเทศมีปัญหา ซึ่งทุกคนก็เห็นตรงกันว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณ จะหยุดเคลื่อนไหว ทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะดีขึ้น โดยปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไป ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่หยุด การเมืองก็ยังไม่ถึงทางตัน แต่ต้องใช้เวลา เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าเดินทางมาไกลเกินกว่าที่จะเจรจาแล้ว นายสมคิด กล่าวว่า ต้องใช้ความพยายามเชื่อว่าวันที่ 8-10 เม.ย.นี้ การเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง จะยังไม่แตกหักและไม่น่าจะรุนแรง
เครือข่ายลูกป๋าเชิญชวนปชช.ร่วมพลังปกป้องป๋า
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 5 เม.ย. กลุ่มเครือข่ายคนรักแผ่นดินเกิด ได้รวมตัวกันบริเวณหน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยนายประดิษฐ์ อ่อนรักษ์ เลขาธิการเครือข่ายคนรักแผ่นดินเกิดได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนผนึกกำลังต่อต้านการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและกลุ่มเสื้อแดง โดยขอเชิญประชาชาชนมาร่วมพลังมาชุมนุมบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ในวันที่ 8 เม.ย.เวลา 08.00 น. เพื่อปกป้องสถาบัน องคมนตรี
นายประดิษฐ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในวันดังกล่าวกลุ่มเครือข่ายคนรักแผ่นดินเกิดจะปิดถนนศรีอยุธยา เพื่อตั้งเวทีถาวร บริเวณสโมสรกองทัพบก เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงให้กลุ่มคนเสื้อแดงทราบว่าหากจะเรียกร้องประชาธิปไตยต้องไปเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา ไม่ใช่มาเรียกร้องที่บ้านประธานองคมนตรี การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญ และยืนยันว่าการมาชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อทะเลาะกับใครหรือต้องการให้เกิดความรุนแรง แต่มาเพื่อปกป้องสถาบันหลัก และเชื่อว่าหากเราเปิดเวทีปราศรัยจะทำให้คนเสื้อแดงที่ไม่เข้าใจว่ามาชุมนุมทำไม ได้เข้าใจและถอนตัวออกไป
เมื่อถามว่าแกนนำกลุ่มเสื้อแดงยันยืนยันว่าในวันที่ 8 เม.ย.นี้จะเดินทางมาชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ จะทำให้เกิดการปะทะกันหรือไม่ นายประดิษฐ์ กล่าวว่า อย่ามาเลย แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะไม่เกิดการปะทะกัน เพราะอย่างไรเราก็เป็นคนไทยด้วยกัน และการมาของกลุ่มเครือข่ายคนรักแผ่นดินก็ไม่ได้ต้องการมาโจมตีใครแต่เรามาด้วยเหตุและผล และการมาชุมนุมของคนเสื้อแดง หากต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยก็ไม่ควรมาชุมนุมที่บ้านสี่เสาเทเวศร์เพราะหากมาก็จะตกเป็นเครื่องมือของคนบางคนที่ต้องการเรียกร้องผลประโยชน์ตัวเอง ซึ่งการมาครั้งนี้ของพวกตนก็เพราะเราได้ไปยื่นหนังสือถึงรัฐบาลให้ดำเนินการ แต่เมื่อรัฐบาลทำอะไรไม่ได้เราก็ต้องออกมาปกป้องเอง