การที่ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี อดีตนักมวยยอดเเยี่ยม โรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์ สหรัฐอเมริกา ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า มีพฤติกรรมที่ไม่บังควรหลายประการต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการล่วงล้ำพระราชอำนาจ เช่น เมื่อพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว และโทรศัพท์มาพูดออกผ่านทีวี ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โทรศัพท์มากระซิบข้างหูก็จะกลับมา ท่านเป็นเพื่อนเล่นของเขาหรือ เป็นเรื่องที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง
เพราะเมื่อ 21 ปีก่อน พล.อ.พิจิตร ขณะที่มียศเป็น พล.ท.ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาค 1 ได้อกมาเคลื่อนไหวในนามสมาชิกวุฒิสภาสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในเรื่องทำนองเดียวกัน คดีที่ นายวีระ มุสิกพงศ์ ขณะดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกกล่าวหาว่า หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ระหว่างปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดบุรีรัมย์ จนนายวีระต้องคำพิพากษาให้จำคุก
ปัจจุบันนายวีระ มารับบท "สามเกลอ" แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติหรือกลุ่มเสื้อแดงที่เป็นกลไกสำคัญให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณในการเคลื่อนพลยึดอำนาจรัฐและโจมตี พล.อ.เปรม และองคมนตรีใกล้ชิดบางคน
จึงน่าจะมาย้อนรอยดูว่า บทบาทของ พล.อ.พิจิตรในขณะนั้น เป็นอย่างไร ซึ่งตัดตอนมาจากคำพิพากษาศาลฎีกา(ที่ 2354/2531) มีสาระสำคัญดังนี้
หลังจากจำเลย(นายวีระ)กล่าวคำปราศรัยแล้วทั้งสองแห่ง ไม่มีประชาชนไปแจ้งความเรื่องที่จำเลยกล่าวปราศรัย
ต่อมา นายเชิดชัย เพชรพันธ์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรคสหประชาธิปไตย เขตกรุงเทพมหานคร ได้ไปแจ้งความนายศิว์ณัฎฐพงศ์พยานโจทก์เป็นผู้แทนของพรรคสหประชาธิปไตยและนายจรูญ นิ่มนวล เป็นหัวคะแนนของพรรคสหประชาธิปไตยซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์
การที่นายเชิดชัยไปแจ้งความก็เพื่อหวังผลทางการเมืองและเพื่อทำลายคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ หลังการเลือกตั้งจำเลยได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ต่อมาได้มีการปลุกระดมกลุ่มมวลชนต่าง ๆ โดยเริ่มจากพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายทหารทำการปลุกระดมในกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ท.ส.ป.ช. และกลุ่มกระทิงแดงเพื่อเร่งรัดให้ดำเนินคดีแก่จำเลย แรกเริ่มเกิดเรื่องนี้ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องไปให้กรมตำรวจพิจารณาก่อนแล้ว
แต่พนักงานสอบสวนเบื้องต้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เห็นว่าไม่มีความผิด ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จึงส่งเรื่องให้กรมตำรวจ
ทางกรมตำรวจได้ให้ พลตำรวจตรีสุภาส จีรพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะที่เป็นหัวหน้าคณะทำงานเรื่องกฎหมายในสถานการณ์เลือกตั้งพิจารณา
พลตำรวจตรีสุภาส จีรพันธ์ ได้ประชุมพิจารณาและทำความเห็นไปยังอธิบดีกรมตำรวจว่าไม่เข้าข่ายองค์ประกอบของมาตรา 112 จึงให้ระงับเรื่อง
แต่ขณะเดียวกันกลุ่มประชาชนเริ่มลุกฮือเป็นที่น่าหวั่นเกรงว่า จะเกิดความไม่สงบขึ้นได้ ในที่สุดกรมตำรวจได้สั่งการให้ดำเนินคดีแก่จำเลย โดยให้ถือว่า คดีพอมีมูลที่จะฟ้องร้องได้ ทั้งนี้จริง ๆ แล้วเพื่อแก้ปัญหาความกดดันทางการเมืองเมื่อมีความกดดันดังกล่าวจำเลยจึงต้องแก้ปัญหาด้วยการลาออกโดยไม่มีใครบังคับ เพื่อเจตนาที่จะแก้ปัญหาความกดดันทางการเมืองและปกป้องรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตย
ที่จำเลยกล่าวขอขมาในห้องรับรองของรัฐสภาต่อพระบรมสาทิสลักษณ์นั้น จำเลยไม่ได้ยอมรับผิด
เหตุที่จำเลยไปขอขมาเนื่องจาก พล.ท.วัฒนชัย วุฒิศิริ ซึ่งในขณะนั้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ติดต่อกับจำเลยเพื่อแก้ปัญหา โดยให้จำเลยไปพบ พล.ท.พิจิตร กุลละวณิชย์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในขณะนั้น
จำเลยก็ได้ไปพบตามที่นัดหมาย และได้พูดคุยทำความเข้าใจจนชัดแจ้งว่า จำเลยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่ได้มีเจตนาอย่างที่ฝ่ายค้านหรือทางทหารเข้าใจ พลท.พิจิตร กุลละวณิชย์ ก็เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างและจะเลิกรากันไป
แต่มีปัญหาว่า ญัตติที่ พล.ท.พิจิตร ยื่นไว้ต่อวุฒิสภากล่าวหาว่า จำเลยละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ถ้าจะถอนญัตติจะอธิบายแก่ประชาชนอย่างไร เพราะประชาชนอาจมองไปในแง่ไม่ดี
จำเลยบอกว่า จะให้ทำอย่างไรก็ยินดี พล.ท.พิจิตรจึงเชิญสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นเจ้าของญัตติมาพบพร้อมกันที่สภา ขอให้จำเลยกล่าวคำขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบรมสาทิสลักษณ์
จำเลยจึงกล่าวขอขมาเพื่อให้ผู้ยื่นญัตติทุกคนสบายใจ และเพื่อให้กลุ่มมวลชนที่กำลังลุกฮือสลายตัวไป ทั้งนี้โดยการแสดงออกถึงความจริงใจของจำเลยในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนคำกล่าวของจำเลยตอนหนึ่งที่ว่า จะผิดหรือไม่ผิดนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในประเด็นข้อกฎหมายจะไม่พูดถึง เพราะจำเลยเห็นว่าเป็นเรื่องของศาลและถ้าเห็นว่า เป็นเรื่องระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาทจำเลยก็พร้อมที่จะขอพระราชทานอภัย
สำหรับคำกล่าวขอพระราชทานอภัยนั้น กองทัพภาคที่ 1 ได้จัดพิมพ์แล้วใส่ซองมาให้จำเลยกล่าว ไม่ใช่เป็นการรับสารภาพ เพราะจำเลยให้การปฏิเสธตลอดมาตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนถึงชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงจึงเป็นการใส่ความโดยประการที่น่าจะทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯลฯ ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง แม้การกระทำดังกล่าวของจำเลยจะไม่เกิดผลเพราะไม่มีใครเชื่อถือคำกล่าวนั้นก็ตาม ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
จำเลยจะมีเจตนาหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นหรือไม่ จะถือตามความเข้าใจของจำเลยซึ่งเป็นผู้กล่าวเองมิได้ ต้องพิจารณาจากข้อความที่จำเลยกล่าวทั้งหมด
การที่จำเลยกล่าวข้อความไปอย่างไร แล้วกลับมาแก้ว่า ไม่มีเจตนาตามที่กล่าว ย่อมยากที่จะรับฟัง
การที่จำเลยเป็นผู้มีคุณความดีมาก่อน หลังจากเกิดเหตุแล้วยังได้ไปกล่าวคำกราบบังคมทูลของพระราชทานอภัยโทษต่อพระบรมสาทิสลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้มีหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการรู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น อันเป็นเหตุบรรเทาโทษ มีเหตุสมควรปรานีลดโทษให้จำเลย
อ่านบทบาท พล.อ.พิจิตร เมื่อ 21 ปีก่อน จึงทำให้น่าลุ้นว่า หมัดของอดีตนักมวยยอดเยี่ยมในปัจจุบันยังมีน้ำหนักพอที่จะปิดบัญชีได้อีกหรือไม่?
จับตาบิ๊กเสือใช้หมัดฮุคโป้งปิดบัญชีภาค2 หลังเคยสอยวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำเสื้อแดงร่วงเมื่อ 21ปีก่อน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง จับตาบิ๊กเสือใช้หมัดฮุคโป้งปิดบัญชีภาค2 หลังเคยสอยวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำเสื้อแดงร่วงเมื่อ 21ปีก่อน
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday