"นพดล"ไม่เห็นด้วยยกปัญหาไทย-เขมรเข้าถกประชุมอาเซียน ปฏิเสธ "แม้ว" อยู่เบื้องหลังเหตุปะทะ นักวิชาการจี้สาเหตุจากแย่งผลประโยชน์ นักพนักไทยไม่กลัวภัยสงครามยกพลเข้าบ่อนร่วมพัน
นำพิพาทไทย-เขมรถกอาเซียน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ทางสถานีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ โดยออกอากาศสดจากสถานีเกษตรดอยหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อ เมื่อวันที่ 5 เมษายน ถึงสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรรักษ์ จ. ศรีสะเกษ ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมาพอสมควร เพราะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องเขตแดน ที่เกิดปัญหารุนแรงเมื่อปีที่ผ่านมา เพราะฝ่ายกัมพูชาไปขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และการขึ้นทะเบียนก็พยายามให้ฝ่ายไทยรับรองในเรื่องที่จะให้แนบแผนที่เป็นปัญหาด้วย ทำให้ต้องส่งกำลังเข้าพื้นที่ตลอดเวลา
"เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดปัญหาขึ้นเพราะทหารไทยไปเหยียบกับระเบิด ทำให้ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าทหารไทยเข้าไปเขตแดนกัมพูชา ส่วนไทยบอกว่าเป็นเขตแดนเราจึงทำให้เกิดเหตุปะทะกัน ในส่วนรัฐบาลได้พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าปัญหานี้ต้องให้การเจรจา และต้องให้กรรมการร่วมเขตแดนชายแดน ซึ่งได้จัดทำหลักเขตแดนต่างๆ ที่ตกลงไว้เมื่อปี 2543 ทำงานกันไป ปัญหาปะทะกันทางโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ประสานกับฝ่ายกัมพูชาตลอดเวลา เชื่อว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายลงได้ แต่เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เราเกิดความสูญเสีย"นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า จะเร่งให้สถานการณ์เป็นปกติ และกลับไปสู่กระบวนการเจรจาโดยเร็วที่สุด และการประชุมอาเซียน +3 และ + 6 จะหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุย
ด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า ที่ไทยยื่นบันทึกช่วยจำให้ทางกัมพูชาเมื่อวันที่ 4 เมษายน ไม่ได้เป็นการต่อว่ากัน แต่เป็นการชี้แจงและย้ำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อแสดงถึงท่าทีของฝ่ายไทย
ด้านนายปณิธาน วัฒนายกร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์คลี่คลายไปตามลำดับ วันที่ 6-7 เมษายน จะประชุมคณะกรรมชายแดนร่วมไทย-กัมพูชา อันจะเป็นกลไกที่จะนำปัญหาคั่งค้างที่เกิดขึ้นมาพูดคุยกัน โดยระดับผู้นำจะพบกันในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเชี่ยนซึ่งจะเกิดความเข้าใจตรงกันมากขึ้น
เขมรลั่นสู้ตายป้อง"พระวิหาร"
วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา บรรเทาลง ทาง บุน เทียน ผู้บัญชาการทหารกัมพูชาในพื้นที่กล่าวว่า "สถานการณ์ยังไม่ขยายความรุนแรงแต่หากทหารไทยพยายามเข้ามาในพื้นที่ต้องห้าม อาจจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น หากพวกเขาไม่เข้ามาก็ไม่มีปัญหา"
ขณะที่นายทหารของกัมพูชาที่ลาดตระเวณอยู่ในพื้นที่กล่าวว่า จะต่อสู้จนตัวตายเพื่อปกป้องปราสาทพระวิหาร นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุว่าหมู่บ้านแห่งหนึ่งของกัมพูชาบริเวณใกล้ปราสาทพระวิหารนั้นเสียหายย่อยยับหลังเหตุการณ์ยิงปะทะกันเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา โดยทหารกัมพูชานายหนึ่งอ้างว่าทหารไทยยิงจรวดจำนวนมากเข้าใส่ตลาดแห่งหนึ่งทำให้ตลาดดังกล่าวถูกไฟไหม้เสียหายหมด และว่าทหารกัมพูชาพยายามที่จะดับไฟแต่ไม่ทันเนื่องจากทหารไทยสาดกระสุนปืนกลและยิงจรวดเข้าใส่ไม่หยุดยั้ง ทำให้ต้องมีการอพยพชาวบ้านไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป 20 กิโลเมตร
รายงานข่าวของเอเอฟพีระบุว่า ทหารกัมพูชานายหนึ่งได้โชว์วิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ ขณะที่หมู่บ้านดังกล่าวลุกเป็นไฟ พร้อมกับมีควันดำลอยฟุ้งเป็นจำนวนมาก และเอเอฟพียังระบุอีกว่าทหารกัมพูชาในพื้นที่ส่วนใหญ่มีความคิดว่าไทยต้องการที่จะแย่งชิงปราสาทพระวิหารไปจากกัมพูชา
"นพดล"ชี้ถกวงอาเซียน+6ไม่เหมาะ
นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ มติชน ถึงกรณีนายกรัฐมนตรีจะนำเรื่องการปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชามาเจรจาในเวทีอาเซียน +3 และ+6 ว่า ไม่เหมาะสมที่ใช้เวทีนี้ นายอภิสิทธิ์ควรใช้เวทีทวิภาคีเพราะเป็นปัญหาของกัมพูชากับไทย ไม่ควรยกระดับเป็นปัญหาของอาเซียนหรือเวทีพหุภาคี เพราะจะทำให้บานปลายได้ และอาจทำให้กัมพูชายกเป็นเรื่องถึงเวทีสหประชาชาติได้ซึ่งจะยุ่งด้วย ถือเป็นการสะท้อนความไม่เข้าใจของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ต้องคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่าพื้นที่ทับซ้อนในระหว่างที่ยังไม่ปักปันเขตแดนขอพัฒนาร่วมกันไปก่อน ให้กำลังทหารลดลงมา และนายอภิสิทธิ์ควรขจัดความสับสนของตนเองในเรื่องเขตแดนว่าจะต้องยึดถือแผนที่ L017 ที่ยึดมา 46 ปี ที่ใช้สันปันน้ำยกเว้นบริเวณตัวปราสาทพระวิหาร ส่วนการเจรจาบนเวทีเจบีซีครั้งที่ 5 ที่จะมีขึ้น เป็นการสะท้อนถึงการไม่แก้ปัญหา แต่ทิ้งปัญหาให้ระดับกรรมการไปเจรจา ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ควรพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ปัด"แม้ว"เบื้องหลังไทยปะทะเขมร
เมื่อถามว่ามีการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังการปะทะ นายนพดล กล่าวว่า อย่าคิดว่าคุณทักษิณคือแก๊สโซฮอล์ ไม่ใช่บอกว่าอะไรบกพร่องต้องโยนให้คุณทักษิณ ขอยืนยันพ.ต.ท.ทักษิณไม่อยู่ประเทศกัมพูชาและไปสั่งการให้เกิดการปะทะที่ชายแดน ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังสั่งคนอื่นไม่ได้แล้วจะให้ไปสั่งสมเด็จฮุน เซนได้อย่างไร หากพรรคประชาธิปัตย์พบเห็นมีภาพถ่าย พ.ต.ท.ทักษิณไปพบสมเด็จฮุน เซนจริงก็ต้องนำมาเผยแพร่ เป็นการใส่ร้ายมากกว่า และในช่วงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ไปกัมพูชาเลย เป็นการเฉประเด็นเท่านั้น
ด้าน พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การปะทะระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย เป็นเรื่องเก่าที่เคยปะทะกันมาแล้ว เพราะความขัดแย้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อน เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ และไม่ควรเที่ยวไปปากพล่อยวิจารณ์ด้วยการดึง พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะนอกจากจะทำให้พรรคและ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหายแล้ว ยังทำให้ประเทศเสียหายด้วย
นักวิชาการชี้ปะทะเพราะประโยชน์
ด้านนายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า พวกเราที่อยู่ข้างหลังไม่รู้อะไรจริงๆ ว่าสถานณ์จริงเป็นอย่างไร อย่างที่ทหารให้ข่าวนั้นเหมือนกับเดินสวนกันแล้วยิงกัน ตนว่ามันตลกมันง่ายเกินไป ปัญหาคือไม่สามารถเช็คข่าวได้จริงๆ และที่บอกว่าเดินสวนกันและยิงกันนั้นมันตลก เพราะทหารลาดตระเวนในพื้นที่เดียวกันอยู่ แล้วในข่าวบอกว่ากำลังทักทายกันด้วย แล้วก็เกิดยิงกัน ลองนึกว่าถ้าคนจะยิงกันคงไม่ทัก ซุ่มแล้วยิงไม่ดีกว่าหรือ ส่วนในพื้นที่ก็ต้องไปว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง เพราะจะต้องไปพูดกันทีหลัง ต้องแยกปัญหาศึกตรงนี้ออกจากกันก่อน ไม่อย่างนั้นจะเป็นสองสามเรื่อง เรื่องแรกคือ ปัญหาที่เกิดเหตุ ณ ตรงนี้ เรื่องสอง คือปัญหาตรงนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองที่กรุงเทพฯหรือเปล่า เพราะว่าในทุกประเทศปัญหาที่เกิดขึ้นมักจะเอาเหตุการณ์รอบบ้านไปใช้มาก ซึ่งลึกๆ คงไม่รู้ ที่ไม่ชัดเจนก็คือไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วพื้นที่ตรงนั้นในเชิงข้อถกเถียงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งจะต้องเจรจา เพราะเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาอยู่แล้ว และไม่รู้ว่ามีปัญหาการเมืองซ้อนกันด้วยไหม
ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคม สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหากัมพูชาเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็ไปมีผลประโยชน์ในกัมพูชา ขณะนี้รัฐบาลรู้แล้วว่าปัญหาอยู่ตรงไหน ตลอดเวลาที่รัฐบาลพูดในสภาผู้แทนราษฎร บอกว่าจะไม่ยอมถอยจะรักษาอธิปไตยและแผ่นดิน ซึ่งถูกต้องแล้ว ตนพอใจที่รัฐบาลได้ให้ความมั่นใจในเรื่องนี้ ซึ่งปัญหามันไม่ใช่แค่เรื่องแย่งชิงเขาพระวิหาร แต่คิดว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งผลประโยชน์มีอยู่ในกลุ่มหลายกลุ่ม ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากผลประโยชน์ตั้งแต่การเมืองภายในของกัมพูชาเอง และมีใครหนุนมีใครที่มีความสัมพันธ์กับสมเด็จฯฮุนเซน ซึ่งขณะนี้วุ่นวายเพียงเพราะผลประโยชน์ ตนคิดว่าในทางการทูตจะต้องการเจรจาให้เร็วที่สุด
"ผบ.สุรนารี"ถก"ผบ.เขมร"ชื่นมื่น
วันเดียวกัน พล.ต.กนก เนตระคะเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กล่าวหลังนำคณะนายทหารไทย หารือกับ พล.ท.ชอ ทาวี ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารประจำจังหวัดพระวิหาร และ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา ที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนบนเขาพระวิหาร เพื่อเจรจาถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยตกลงกันว่าขอให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายนำเอาข้อตกลงที่เคยตกลงกันไว้แล้วว่าให้ผู้บังคับหน่วยทหารทั้ง 2 ฝ่ายควบคุมกำกับดูแลทหารในสังกัดของตนเองให้ดี ไม่ให้มีการกระทำการใดๆ ที่เป็นการก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น ในเขตพื้นที่มีการตรึงกำลังทหารรอบบริเวณเขาพระวิหาร
"นอกจากนี้แล้ว ยังห้ามทหารทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ให้นำเอาเครื่องดื่มของมึนเมาเข้าไปดื่มกินในพื้นที่ที่มีการตรึงกำลังอยู่อย่างเด็ดขาด และหากว่ามีการปัญหาใดๆ เกิดขึ้นให้ผู้บังคับหน่วยทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้เข้าไปเจรจากัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทันที เพื่อให้เรื่องยุติโดยเร็ว"พล.ต.กนกกล่าว และว่า เหตุการณ์ปะทะกันที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งฝ่ายทหารกัมพูชารวมทั้งทหารไทยได้ทำความเข้าใจกันเป็นอย่างดีแล้ว และตกลงกันว่าจะไม่ให้เกิดมีการปะทะกันด้วยกำลังอาวุธอีกเด็ดขาด
เมื่อถามถึงกรณีทหารกัมพูชานำรถถัง 6 คัน พร้อมกำลัง 200 นาย มาปักหลักอยู่ที่บ้านสวายจรุม และบ้านโกมุย อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ใกล้กับเขาพระวิหาร พล.ต.กนกกล่าวว่า เป็นเรื่องของกัมพูชา แต่ในส่วนของไทยไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ซึ่งตนมั่นใจว่าปัญหาต่างๆ สามารถเจรจายุติกันได้ เพราะทั้งไทยและกัมพูชาเป็นมิตรที่ดีต่อกันมานานแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อคืนวันที่ 4 เมษายน ทางการกัมพูชานำรถถัง 6 คัน มาปักหลักอยู่ที่บ้านสวายจรุม และบ้านโกมุย อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ใกล้กับเขาพระวิหาร พร้อมเสริมกำลังทหารประมาณ 200 นาย เข้าประจำการพร้อมเตรียมรับสถานการณ์
ไม่หวั่นเหตุร้ายนักพนันทะลักบ่อน
ที่ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ฝั่งตรงข้ามบ่อนกาสิโนโอเสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาว่า มีพ่อค้าและราษฎรชาวกัมพูชา 500 คน ยื่นหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องจอม เพื่อเปิดร้านค้าในตลาดช่องจอมและซื้อสินค้า ขณะที่กลุ่มนักพนันคนไทยจากต่างจังหวัดกว่า 700 คน เดินทางเข้าไปในบ่อนกาสิโนโอเสม็ด ส่วนใหญ่บอกว่าไม่เชื่อว่าเหตุการณ์สู้รบที่บริเวนเขาพระวิหารจะกระทบถึงแหล่งกาสิโน
เผยอาการ10ทหารเหยื่อ"เขมร"
ด้าน พ.อ.พิสุทธิ์ ศรีจันทราพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของทหารว่า พลฯเอกพจน์ จอดสันเทียะ อายุ 25 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่ใต้เข่าขวาและไหล่ซ้าย พลฯพิจิตร ศรีจันทร์ อายุ 22 ปี มีแผลฉีกขาดที่ขา พลฯสมบูรณ์ พรมดี อายุ 21 ปี มีแผลบริเวณท้องและชายโครงขวาและไข้มาลาเรีย พลฯชัยสิทธิ์ นาเมือง โดนสะเก็ดระเบิดที่แขนขวาและต้นขาซ้าย พลฯธีรวัฒน์ บุญสาร โดนสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ ลำตัว และขามีแผลฉีกขาด ส.อ.สุริยันต์ อิ่มบุตร อายุ 23 ปี มีแผลที่นิ้วหัวแม่มือด้านซ้าย นิ้วชี้ซ้ายขาดระดับข้อมือที่ 1 และแผลต้นขาซ้าย, พลฯเด็ดเดี่ยว วิไลลักษณ์ อายุ 22 ปี มีแผลต้นแขนขวา และ จ.ส.อ.สุวัฒน์ ชนะบูรณ์ อายุ 44 ปี เหยียบกับระเบิดขาซ้ายขาด ขาขวาฉีกประมาณ 10 เซนติเมตร
"สำหรับอาการ ส.อ.อานนท์ ศรีนวล อายุ 23 ปี ถูกยิงแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ศีรษะและต้นขาขวา ต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองใช้เครื่องช่วยหายใจ อาการสาหัสมาก แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และ ส.อ.ศราวุธ ลี้ลับ อายุ 27 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและฝังอยู่ในสมอง แพทย์ผ่าตัดสมองเอาสะเก็ดระเบิดออก อาการปลอดภัยแล้ว" พ.อ.พิสุทธิ์กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
