คมชัดลึก :นายกฯ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" มั่นใจควบคุมสถานการณ์ได้ เชื่อประชาชนเข้าใจสถานการณ์ม็อบคนเสื้อแดง
(4เม.ย.) เวลา 12.40 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาระบุว่า จะไม่เจรจากับรัฐบาลว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาล ก็ไม่ได้มีความจำเป็น ที่จะต้องเจรจาอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ถ้าหากกลุ่มผู้ชุมนุม หรือผู้เรียกร้องเห็นว่า มีประเด็นอะไร ที่จะพูดคุยกันได้ รัฐบาลก็ไม่ขัดข้อง นั่นคือสิ่งที่เขาได้บอกไป ดังนั้น ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเราถือว่า เรายึดหลักกฎหมายของบ้านเมือง ในการดำเนินการทุกอย่าง และเคารพสิทธิ์เสรีภาพของประชาชน และรัฐบาลไม่ได้เป็นฝ่ายที่มีความจำเป็น ต้องเจรจาอะไรอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดปลุกระดมประชาชนให้มาร่วมชุมนุมให้มากขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาก็อยากบอกกับประชาชนว่า ข้อเรียกร้องเรื่องประชาธิปไตย เป็นข้อเรียกร้องที่รัฐบาลพร้อมจะดำเนินการอยู่แล้ว ในเรื่องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกฎหมาย หรือแม้กระทั่งการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่คิดว่า จะทำให้บ้านเมืองและรอบประชาธิปไตย มีการพัฒนาก้าวหน้า เพียงแต่ว่า เราอยากแยกประเด็นในเชิงหลักการ กับข้อเรียกร้องของคนเฉพาะกลุ่ม ซึ่งตรงนี้เราเห็นว่า ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้น ถ้าหากว่า การเดินหน้าในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้น และจะพยายามเชิญฝ่ายค้านและฝ่ายอื่นๆ ให้เข้ามาร่วมกระบวนการ เพื่อให้เดินหน้าไปได้ ประเด็นเรื่องประชาธิปไตยนั้น จะได้รับการตอบสนองแน่นนอน แต่เขาตั้งข้อสังเกตุว่า มีความพยายาม จะเอาเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไข แต่ข้อเรียกร้องอื่น ๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องประชาธิปไตย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กรณีรัฐธรรมนูญปี 2550 เขาเป็นคนแรกที่บอกว่า จะต้องมีการแก้ไข แต่การที่จะสรุปว่าต้องเอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้นั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก เพราะทุกพรรคการเมืองเห็นตรงกัน เมื่อปี 2549 ว่า รัฐธรรมนูญปี 2540 ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งใหญ่ ดังนั้น การเรียกร้องให้เอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ทั้งฉบับนั้น ก็ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะทุกพรรคการเมืองเคยตกลงกันเมื่อปี 2549 ไปแล้ว
ส่วนประเด็นปัญหาว่า ระบอบประชาธิปไตยขณะนี้ มีปัญหาอุปสรรคอะไรนั้น ขณะนี้ทุกอย่าง ก็อยู่ในระบอบรัฐสภา ยุคนี้ไม่ใช่ยุคที่รัฐบาลไปใช้อำนาจเกินขอบเขต โดยเขาและรัฐบาลรับผิดชอบต่อรัฐสภาอย่างเต็มที่ จะเห็นได้จาก การบริหารงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เราได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการรัฐสภามาตลอด
ดังนั้น อยากบอกประชาชนว่า การเรียกร้องให้บ้านเมืองเราเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะดำเนินการได้ ด้วยเหตุการณ์ปกติ ไม่มีความจำเป็นอะไรเลย ที่จะต้องออกมาใช้กำลัง เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า โดยสถานการณ์ขณะนี้ ประเมินแล้วใช่หรือไม่ว่า จะไม่มีการปฏิวัติโดยประชาชน ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขามองไม่เห็นว่า จะมีเงื่อนไขที่จะเป็นอย่างนั้นเลย เพราะเป็นเรื่องที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการตามกรอบของรัฐธรรมนูญได้ ในทางตรงกันข้าม เขาอยากบอกว่า ถ้ามีความพยายามที่จะใช้วิถีของการเปลี่ยนแปลงนอกรัฐธรรมนูญ ก็จะก่อให้เกิดปัญหา ที่เป็นวงจรไม่จบสิ้นของการทำลายระบอบประชาธิปไตย และการยึดกฎหมายเป็นหลัก ในการปกครองบ้านเมือง
เมื่อถามว่า มีการระบุจากองคมนตรีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการล้มล้างสถาบัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาเรียนแล้วว่า เงื่อนไขปัญหาที่กระทบกับความมั่นคงทั้งหลาย เป็นเรื่องที่รัฐบาลกำลังดูแลในแง่ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายประกอบกันอยู่ ดังนั้น ก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เมื่อถามว่า หมายความว่า นายกฯเอง ก็ยังไม่กล้าฟันธง ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการล้มล้างสถาบันใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราต้องดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย ดังนั้น จะต้องเอาทุกคำพูดมาประกอบในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความรัดกุม
เมื่อถามว่า องคมนตรีตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมไม่มีการดำเนินการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่จริงแล้ว คดีความต่าง ๆ อยู่ในกระบวนการยุติธรรม หลายองค์กร รัฐบาลไม่สามารถและไม่ควรที่จะเข้าไปแทรกแซง เช่น ศาล และอัยการ ในการพิจารณาคดีความต่าง ๆ แต่เขาก็หวังว่า องค์กรเหล่านี้ จะเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการสะสาง เพราะขณะนี้เรามีคนซึ่งหนีความผิด หนีโทษ และไม่มีการแสดงความรับผิดชอบการกระทำของตนเองในอดีต มาเรียกร้อง และมีส่วนในการพยายามจะให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
เมื่อถามว่า เรื่องการตรวจสอบเงินที่เกาะเคย์แมน เป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ก็จะเกี่ยวเนื่องกับคดี ซึ่งอยู่ในการพิจารณาขององค์กรเช่นเดียวกัน เขาเข้าใจว่า เรื่องนี้ก็จะเกี่ยวข้องไปถึงคดี เอสซีเอสเสท และคดีอื่น ๆ ที่กำลังมีการติดตามอยู่
เมื่อถาม ถึงกรณีนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่กัมพูชา และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องจากการปะทะกัน ที่บริเวณเขาพระวิหาร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการประสานงานกันอยู่ เกี่ยวกับที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยอยู่ที่ไหน เราก็จะพยายามเอาตัวกลับมาเพราะมีโทษติดตัวอยู่ เป็นคนกระทำความผิด
เมื่อถามว่า ตอนนี้คืบหน้าถึงไหนแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็มีการประสานงานกันอยู่ เมื่อคืนเขาก็ฟังรายงานอยู่ว่า มีความพยายามประสานงาน
เมื่อถามย้ำว่า ตกลงพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในกัมพูชา จริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังประสานงานกันอยู่ ขอไม่พูดรายละเอียด เมื่อถามต่อว่า แต่รู้จุดที่อยู่ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอไม่ลงรายละเอียด
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงยังไม่ไปกล่าวหาใครอย่างนั้น แต่ว่าในส่วนของเหตุการณ์บริเวณชายแดน ขณะนี้ได้คลี่คลายไประดับหนึ่งแล้ว รมว.กลาโหม ได้ดำเนินการ เขาคิดว่า สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไป โดยเฉพาะในแง่การวางกองกำลังต่าง ๆ ของทั้ง 2 ฝ่าย และเราก็ไม่ต้องการให้เกิ ดการปะทะกันหรือว่า เกิดความสูญเสียใด ๆ ทั้งสิ้น โดยแต่ละฝ่ายก็รักษาสิทธิ์ของตัวเอง และก็ใช้กระบวนการของการเจรจาในการคลี่คลายปัญหาต่อไป
เมื่อถามว่า ล่าสุดมีข่าวว่า มีการยิงอาร์พีจี เข้ามาอีกแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาเพิ่งคุยกับรัฐมนตรี ว่าขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
เมื่อถามว่า จะเกี่ยวกับที่ นายฮุนเซน ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า หากไทยลุกล้ำเขตแดนเข้าไป ก็จะยิงทันทีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ยังมีความไม่ชัดเจนว่า การเริ่มต้นของการปะทะเริ่มจากจุดไหนอย่างไร แต่ทหารเราไปเหยียบกับระเบิดส่วนเรื่องการลุกล้ำหรือไม่นั้นทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ในเรื่องพรมแดน ก็เป็นตัวที่ทำให้เกิดปัญหาได้
เมื่อถามว่า กับระเบิดมีการตรวจสอบหรือยังว่า เป็นของเก่าหรือของใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่
เมื่อถามว่า จนถึงวันนี้ เจดีซี จะยังเจรจาอยู่ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในกลไกต่าง ๆ ก็ควรจะเดินต่อในการเจรจา
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้ประชาชนมาชุมนุมมากกว่าช่วง 14 ตุลาฯ หรือพฤษภาทมิฬ เป็นห่วงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เงื่อนไขเรื่องการเรียกร้องประชาธิปไตย ขณะนี้ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องชุมนุม เพราะรัฐบาลเปิดทางในการที่จะทำเรื่องนี้ แต่ฝ่ายที่ยังมีเงื่อนไขอยู่คือฝ่ายค้าน ก็ควรจะไปเรียกร้องกับฝ่ายค้านว่า จะเดินหน้าในการแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ด้วยวิธีการไหนอย่างไร ที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง
ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ๆ นั้น เป็นข้อเรียกร้องสำหรับคน หรือกลุ่มเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตย ดังนั้น เขาก็หวังว่าคนส่วนใหญ่จะเห็นประโยชน์ของส่วนรวม มากกว่าประโยชน์เฉพาะกลุ่ม
เมื่อถามว่า คิดว่า สถานการณ์จะบานปลายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ รัฐบาลยังคงมีความมั่นใจว่า สามารถควบคุมให้มีความสงบเรียบร้อย และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ก็จะปรากฎออกมา โดยจะเร่งทำความเข้าใจ กับประชาชนมากยิ่งขึ้น ต่อประเด็นต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง และให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนกับประชาชน
เมื่อถามว่า มองว่า เขาต้องการปิดเกมส์ให้ได้ก่อนสงกรานต์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถไปเดาใจได้ แต่ว่ารัฐบาลไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ความรุนแรง ความสูญเสียในบ้านเมือง และเขาเชื่อว่า คนที่มีจิตใจเป็นประชาธิปไตยจริง ๆ ก็จะไม่ต้องการเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นจากความรุนแรง เพราะนั่นไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า ความคืบหน้าในการคุยกับฝ่ายค้าน เรื่องปฏิรูปการเมืองถึงไหนแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้น่าจะสามารถนัดหมายกันได้ เพราะก่อนหน้านี้ เกิดปัญหาความไม่สะดวก เพราะเขาไม่อยู่ โดยจะพูดคุยกัน ในช่วงที่มีการประชุมสภา
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่เพราะขณะนี้ มีทั้งศึกในและศึกนอกระดมเข้ามา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาก็มีความห่วงใยเสมอ เพราะเขาเป็นคนไม่ชอบความรุนแรง คิดว่า ที่มีการกล่าวหาว่า รัฐบาลนี้ไม่เป็นประชาธิไตย ก็สามารถเปรียบเทียบได้ว่า รัฐบาลนี้ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับประชาชน รัฐบาลนี้ ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรงตลอดเวลา และต้องการให้กระบวนการที่มีความคิดเห็นแตกต่าง สามารถคลี่คลายได้ ด้วยการพูดคุยและใช้เหตุผล ดังนั้น ความห่วงใย เขามีตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกัน ก็ติดตามสถานการณ์
"นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ก็ให้ความสำคัญกับทุกประเด็น และพยายามคลี่คลายปัญหา ก็ยังมั่นใจว่าสถานการณ์ทุกอย่าง สามารถควบคุมได้ และยังเชื่อใจในประชาชนส่วนใหญ่ ที่แยกแยะออกว่า อะไรเป็นอะไร โดยจะเร่งให้ข้อมูลกับประชาชนให้มากขึ้น" นายอภิสิทธิ์ ระบุ